The overall prevalence of skipping

The overall prevalence of skipping breakfast was 41.7% and 23.5% for males and females, respectively. The Faculty of Medicine Information Management had the highest breakfast skipping prevalence. Logistic regression models found that the main factors associated withbreakfast consumption habits among medical students were gender, class years of education, monthly expenses, faculty, appetite, sleeping quality, and the learning process; monthly expenses, sleeping quality, and the learning process showed a dose-dependent relationship.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ความชุกโดยรวมของการรับประทานอาหารเช้าเป็น 41.7% และ 23.5% สำหรับเพศชายและเพศหญิงตามลำดับ คณะการจัดการข้อมูลยามีอาหารเช้าสูงสุดข้ามชุก แบบจำลองการถดถอยโลจิสติกพบว่าปัจจัยหลักที่เกี่ยวข้องนิสัยการบริโภค withbreakfast ในหมู่นักศึกษาแพทย์มีเพศชั้นปีของการศึกษาค่าใช้จ่ายรายเดือนของคณะความอยากอาหารนอนหลับที่มีคุณภาพและกระบวนการเรียนรู้นั้นมีค่าใช้จ่ายรายเดือนที่มีคุณภาพการนอนและกระบวนการเรียนรู้ที่แสดงให้เห็นความสัมพันธ์ของปริมาณที่ขึ้นอยู่กับ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความชุกโดยรวมของข้ามอาหารเช้าเป็น 41.7% และ 23.5% สำหรับชายและหญิง ตามลำดับ คณะการแพทย์ข้อมูลจัดการอาหารเช้าสูงสุดข้ามชุกได้ โมเดลถดถอยโลจิสติกพบว่า นิสัยการใช้ withbreakfast ปัจจัยหลักที่เชื่อมโยงระหว่างนักศึกษาแพทย์มีเพศ ชั้นปีการศึกษา ค่าใช้จ่ายรายเดือน คณะ อาหาร นอนคุณภาพ และกระบวนการเรียนรู้ ค่าใช้จ่ายรายเดือน ที่นอนคุณภาพ และกระบวนการเรียนรู้แสดงให้เห็นความสัมพันธ์ขึ้นอยู่กับปริมาณรังสี

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในขณะเดียวกันโดยรวมของการงดรับประทานอาหารเช้าเป็น 41.7% และ 23.5% สำหรับหญิงและชายตามลำดับ คณะของยาการจัดการข้อมูลได้รับประทานอาหารเช้าสูงสุดที่กระโดดได้ชัยชนะ รุ่นสหสัมพันธ์เชิงเส้นด้านการขนส่งสินค้าพบว่าปัจจัยหลักที่เป็นตัวเชื่อมโยงนิสัยการ บริโภค withbreakfast ในหมู่นักศึกษาแพทย์ปี Class เพศของการศึกษาค่าใช้จ่ายรายเดือนคณะความกระหายสำหรับนอนหลับพักผ่อนมี คุณภาพ และกระบวนการเรียนรู้ที่ค่าใช้จ่ายรายเดือนมี คุณภาพ สำหรับนอนหลับพักผ่อนและกระบวนการเรียนรู้ที่แสดงให้เห็นความสัมพันธ์ขึ้นอยู่กับที่