In the present study, the prevalenc

In the present study, the prevalence of congenital malformations in the newborns were 2.22%, which is comparable with the earlier studies from India, which reported incidence of 2.72% and 1.9%. There are other reports from different parts of the world representing different frequency of congenital malformations.Although we got nearly the same result as reported in other studies,the prevalence of congenital anomaly would have been more than the present rate, if we could have included the abortions and stillbirths. Tertiary care hospital usually do not have definite catchment area and complicated cases are more commonly encountered. Hence, prevalence calculated in this type of hospital-based study cannot be projected to the total population. Community based study should be ideal for true estimation of incidence of congenital anomalies in a population.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในการศึกษาปัจจุบัน ส่วน malformations ธาใน newborns การถูก 2.22% ซึ่งเทียบได้กับการศึกษาก่อนหน้านี้จากอินเดีย ซึ่งรายงานอุบัติการณ์ของ 2.72% และ 1.9% มีรายงานอื่น ๆ จากส่วนต่าง ๆ ของโลกที่แสดงถึงความถี่ที่แตกต่างกันของ malformations ธา ถึงแม้ว่าเรามีเกือบผลลัพธ์เดียวกันในการศึกษาอื่น ๆ ความชุกของความผิดปกติที่ congenital จะได้มากกว่าอัตราปัจจุบัน ถ้าเราสามารถรวมการแท้งและ stillbirths โรงพยาบาลระดับตติยภูมิดูแลมักจะมีพื้นที่เก็บกักน้ำที่แน่นอน และมีพบกรณีที่ซับซ้อนมากกว่าปกติ ดังนั้น ไม่คาดชุกคำนวณชนิดนี้ตามโรงพยาบาลศึกษากับประชากร การศึกษาชุมชนที่ใช้ควรจะเหมาะสำหรับการประเมินอุบัติการณ์ของความผิด congenital ในประชากรจริง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในการศึกษาปัจจุบันที่นิยมกันอย่างแพร่หลายจนผิดรูป แต่กำเนิดในทารกแรกเกิดที่ถูก 2.22% ซึ่งก็เปรียบได้กับการศึกษาก่อนหน้าจากประเทศอินเดียซึ่งมีรายงานอุบัติการณ์ของ 2.72% และ 1.9% มีรายงานจากส่วนต่างๆของโลกที่เป็นตัวแทนของความถี่ที่แตกต่างกันของ malformations.Although พิการ แต่กำเนิดที่เราได้เกือบผลเช่นเดียวกับรายงานในการศึกษาอื่น ๆ ความชุกของความผิดปกติ แต่กำเนิดจะได้รับมากขึ้นกว่าอัตราปัจจุบันถ้าเราจะได้รวมเป็น การทำแท้งและการคลอด โรงพยาบาลตติยภูมิมักจะไม่ได้มีการเก็บกักน้ำที่ชัดเจนในพื้นที่และกรณีที่มีความซับซ้อนจะพบมากกว่าปกติ ดังนั้นความชุกคำนวณในรูปแบบของการศึกษาโรงพยาบาลตามนี้ไม่สามารถที่จะคาดการณ์จำนวนประชากรทั้งหมด การศึกษาชุมชนตามที่ควรจะเป็นที่ที่เหมาะสำหรับการประมาณค่าที่แท้จริงของการเกิดความผิดปกติ แต่กำเนิดในประชากร

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในการศึกษาพบว่า ความชุกของการพิการแต่กำเนิดในทารกแรกเกิดเป็น 2.22 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเทียบได้กับการศึกษาก่อนหน้านี้จากอินเดีย ซึ่งรายงานอุบัติการณ์ 2.72 % และ 1.9 % มีรายงานจากส่วนต่างๆของโลกที่เป็นตัวแทนของความถี่ที่แตกต่างกันของการพิการแต่กำเนิด แม้ว่าเราได้เกือบผลลัพธ์เดียวกันตามที่รายงานในการศึกษาอื่น ๆความชุกของความผิดปกติแต่กำเนิดจะได้รับมากกว่าอัตราปัจจุบัน ถ้าเราสามารถรวมทำแท้งและ stillbirths . โรงพยาบาลตติยภูมิมักจะไม่ได้มีพื้นที่ที่แน่นอน และกรณีที่ซับซ้อนมากขึ้นโดยทั่วไปที่พบ ดังนั้น ความชุกของการคำนวณในโรงพยาบาลประเภทนี้ไม่สามารถถูกเพิ่มประชากรชุมชนศึกษาควรจะเหมาะสำหรับการประมาณค่าจริงของอุบัติการณ์ของความผิดปกติแต่กำเนิดในประชากร