Which sugar is best for yeast growt

Which sugar is best for yeast growth?
"I tested four sugars (fructose, glucose, sucrose, and lactose). I concluded that sucrose made the yeast cells have the most foam. My question is why? I am especially curious about why glucose didn't make the yeast have the most foaming."
I wonder what concentration of sugar you used in each case? Was each sugar solution made up to the concentration eg the same molarity?
Basically, each sugar needs to be converted to glucose to enable it to feed into respiration and it is this process which produces the gas which causes the foaming.
Yeast is able to synthesise a range of enzymes to do this:-
Sucrose is a disaccharide:- GLUCOSE-FRUCTOSE = SUCROSE
Sucrase will split sucrose.
Isomerase will convert Fructose to Glucose.
Thus, 0.1M sucrose will yield 0.2M glucose (when ALL is converted to glucose).
Lactose is a disaccharide:- GLUCOSE-GALACTOSE = LACTOSE
Lactase will split lactose and Transacetylase will convert Galactose to Glucose.
However, I believe yeast does not have the gene for lactase and this is why the lactose sugar remains intact in 'Milk stout'.
So, I predict that lactose was bottom of your list, with the least foaming.
If a sugar is too concentrated, it will slow down the reaction. (This is why honey does not normally ferment.) So, you should be careful to only use dilute solutions in your experiment.
So, I suspect sucrose came out best in your test because it yielded twice as much glucose as the "same concentration" of glucose.
- See more at: http://www.saps.org.uk/saps-associates/browse-q-and-a/169-q-a-a-how-does-sugar-affect-yeast-growth#sthash.FiPSHrah.dpuf

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

น้ำตาลที่ดีสุดสำหรับการเจริญเติบโตของยีสต์"ฉันทดสอบสี่น้ำตาล (ฟรักโทส กลูโคส ซูโครส และแล็กโทส) สรุปว่า ซูโครสทำให้เซลล์ยีสต์ที่มีโฟมส่วนใหญ่ คำถามของฉันคือ ทำไม ฉันอยากรู้อยากเห็นโดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับทำไมน้ำตาลกลูโคสไม่ให้ยีสต์มี foaming มากที่สุด"ไม่ทราบว่า ความเข้มข้นของน้ำตาลที่คุณใช้ในแต่ละกรณีหรือไม่ แก้ปัญหาน้ำตาลแต่ละที่จะค่าความเข้มข้นเช่น molarity เดียวกันพื้น น้ำตาลแต่ละต้องถูกแปลงเป็นน้ำตาลกลูโคสเพื่อเปิดใช้งานตัวดึงข้อมูลในหายใจ และเป็นกระบวนการนี้ก่อให้เกิดก๊าซที่เป็นสาเหตุของการมีฟองยีสต์จะสามารถ synthesise ช่วงของเอนไซม์นี้: -ซูโครสเป็นไดแซ็กคาไรด์เป็น: -กลูโคสฟรักโทสซูโครส =Sucrase จะแบ่งซูโครสไอโซเมอเรสจะแปลงฟรักโทสกลูโคสดังนั้น 0.1 M ซูโครสจะได้น้ำตาลกลูโคส 0.2 M (เมื่อทั้งหมดถูกแปลงเป็นน้ำตาลกลูโคส)แล็กโทสเป็นไดแซ็กคาไรด์เป็น: -กลูโคสกาแล็กโทสแล็กโทส =Lactase จะแบ่งย่อยแลคโตส และ Transacetylase จะแปลงกาแล็กโทสน้ำตาลกลูโคสอย่างไรก็ตาม ผมเชื่อว่า ยีสต์มียีนสำหรับ lactase และเป็นเหตุให้น้ำตาลแล็กโทสยังคงเหมือนเดิมใน 'นมสเตาท์'ดังนั้น ฉันทายว่า แล็กโทสด้านล่างของรายการ กับ foaming น้อยถ้าเป็นน้ำตาลเข้มข้นเกินไป มันจะช้าลงปฏิกิริยา (นี่คือเหตุผลที่น้ำผึ้งไม่ปกติหมัก) ดังนั้น คุณควรจะระมัดระวังในการใช้โซลูชั่น dilute เท่านั้น ในการทดลองดังนั้น ฉันสงสัยว่า ซูโครสออกมาดีที่สุดในการทดสอบ เพราะมันเต็มสองเท่ากว่ากลูโคสเป็น "เดียวกันความเข้มข้น" ของกลูโคส- See more at: http://www.saps.org.uk/saps-associates/browse-q-and-a/169-q-a-a-how-does-sugar-affect-yeast-growth#sthash.FiPSHrah.dpuf

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ซึ่งน้ำตาลที่ดีที่สุดสำหรับการเจริญเติบโตของยีสต์?
"ผมทดสอบสี่น้ำตาล (ฟรุกโตสกลูโคสซูโครสและน้ำตาลแลคโต). ฉันได้ข้อสรุปว่าซูโครสทำให้เซลล์ยีสต์มีโฟมมากที่สุด. คำถามของฉันทำไม? ผมอยากรู้โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับสาเหตุที่ didn กลูโคส 'ทีทำให้ยีสต์มีฟองมากที่สุด. "
ฉันสงสัยว่าความเข้มข้นของน้ำตาลที่คุณใช้ในแต่ละกรณี? เป็นแต่ละสารละลายน้ำตาลขึ้นกับความเข้มข้นเช่น molarity เดียวกันหรือไม่
โดยทั่วไปแต่ละน้ำตาลจะต้องมีการแปลงเป็นน้ำตาลกลูโคสที่จะเปิดใช้งานเพื่อป้อนเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจและมันก็เป็นกระบวนการนี้ซึ่งเป็นผู้ผลิตก๊าซธรรมชาติซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดฟอง.
ยีสต์สามารถสังเคราะห์ ช่วงของเอนไซม์ที่จะทำนี้: -
ซูโครสเป็นไดแซ็กคาไรด์ - กลูโคสฟรุกโตสซูโครส =
. sucrase จะแบ่งซูโครส
. ไอโซจะแปลงเป็นน้ำตาลกลูโคสฟรุคโต
ดังนั้นซูโครส 0.1M 0.2M จะให้ผลผลิตน้ำตาลกลูโคส (เมื่อทั้งหมดจะถูกแปลงเป็นน้ำตาลกลูโคส) .
แลคโตสเป็นไดแซ็กคาไรด์ - กลูโคสกาแลคโต = แลคโตส
แลคเตสจะแบ่งแลคโตสและ Transacetylase จะแปลงเป็นน้ำตาลกลูโคสกาแลคโต.
แต่ผมเชื่อว่ายีสต์ไม่ได้มียีนแลคเตสและนี่คือเหตุผลน้ำตาลแลคโตสยังคงเหมือนเดิมใน 'นมอ้วน' .
ดังนั้นผมคาดการณ์ว่าแลคโตสเป็นด้านล่างของรายการของคุณด้วยอย่างน้อยฟอง.
ถ้าน้ำตาลมีความเข้มข้นมากเกินไปก็จะชะลอตัวลงปฏิกิริยา (นี่คือเหตุผลที่น้ำผึ้งไม่ปกติหมัก.) ดังนั้นคุณควรจะระมัดระวังในการใช้งานโซลูชั่นเจือจางเฉพาะในการทดสอบของคุณ.
ดังนั้นฉันสงสัยว่าซูโครสออกมาดีที่สุดในการทดสอบของคุณเพราะมันให้ผลกลูโคสมากเป็นสองเท่า "ความเข้มข้นเดียวกัน" . ของกลูโคส
- ดูเพิ่มเติมได้ที่:

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

น้ำตาลซึ่งเป็นที่ดีที่สุดสำหรับการเจริญเติบโตของยีสต์
" ผมทดสอบสี่น้ำตาล ( น้ำตาลฟรักโทส กลูโคส ซูโครส และแลคโตส ) ผมสรุปได้ว่า ซูโครส ทำให้เซลล์ยีสต์มีโฟมมากที่สุด คำถามคือทำไม ? ฉันยิ่งสงสัยทำไมกลูโคสไม่ได้ทำให้ยีสต์มีฟองมากที่สุด "
ฉันสงสัยว่า ความเข้มข้นของน้ำตาลที่คุณใช้ในแต่ละกรณีถูกสร้างขึ้นเพื่อแต่ละสารละลายน้ำตาลความเข้มข้นเช่นโมลาริตี้เดียวกัน
โดยทั่วไปแต่ละน้ำตาลต้องแปลงเป็นกลูโคสเพื่อให้มันป้อนเข้าไปในการหายใจและนี้คือกระบวนการซึ่งก่อให้เกิดก๊าซที่ทำให้เกิดฟอง .
ยีสต์สามารถสังเคราะห์เอนไซม์ทำช่วงนี้ -
ซูโครสเป็นไดแซ็กคาไรด์ : - 10 = โดยตรงจะแยก

ซูโครสไอโซเมอเรสจะแปลงฟรักโทสกลูโคส ซูโครส 0.1m
จึงจะให้ผล 0.2m กลูโคส ( เมื่อแปลงเป็นกลูโคส ) .
แลคโตสเป็นไดแซ็กคาไรด์ : - glucose-galactose = แลคโตสแลค แลคโตส และ transacetylase
จะแบ่งจะแปลงน้ำตาลกาแล็กโตสกลูโคส .
แต่ผมเชื่อว่ายีสต์ไม่ได้มียีนสำหรับแลคและนี้คือ ทำไมน้ำตาลแลคโตสในนมยังคง ' อ้วน ' .
ดังนั้นผมทำนายว่า แลคโตส อยู่ด้านล่างของรายการของคุณด้วยอย่างน้อยฟอง .
ถ้าน้ำตาลมากเกินไป ก็จะชะลอการเกิดปฏิกิริยา ( นี่คือเหตุผลว่าทำไมที่รักไม่ตามปกติหมัก ) ดังนั้นคุณควรจะระมัดระวังในการใช้โซลูชั่นที่เจือจางในการทดลองของคุณ .
ดังนั้นฉันสงสัยว่าน้ำตาลซูโครสออกมาดีที่สุดในการทดสอบของคุณ เพราะมันให้ผลสองครั้งเป็นกลูโคสมาก " เดียวกัน ความเข้มข้นของกลูโคส