Background: A substantial percentag

Background: A substantial percentage of North American women are nonadherent to cervical cancer screening guidelines despite the effectiveness of the Papinicolaou (pap) test for papillomavirus. Our objective was to determine factors associated with changes in adherence for cervical cancer screening guidelines over a 14-year period. Methods: Using data from cycles 1 (1994-1995) through 7 (2006-2007) of the Canadian National Population Health Survey, we used logistic regression to compare the regularity of pap testing (at least once every 36 months) among women. We compared women with increasing adherence to pap testing guidelines to those who were never adherent, and women with decreasing adherence to those who were always adherent. The sample included women aged 20-70 years who responded in at least three of seven waves of data collection and had not undergone a hysterectomy ( n=4949). Independent variables were based on Andersen's Behavioral Model of predisposing, enabling, and need variables. Results: The majority of our sample were either always adherent (61.4%) or had increasing adherence (9.9%) over the course of the study. Another 4.8% were never adherent, and 6.6% had decreasing adherence over their involvement in the study. Predominantly, both enabling (e.g., presence of regular doctor) and need (e.g., birth control pill use, obesity) factors were associated with changing patterns of adherence. Conclusions: Physicians have a crucial role to play in the trajectories of adherence to cervical cancer screening guidelines over time. In addition, women with obesity need to be particularly targeted for services because they are vulnerable to negative trajectories in adherence over time

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

พื้นหลัง: ร้อยละที่สำคัญของผู้หญิงอเมริกันเหนือมี nonadherent แนวทางการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกแม้จะมีประสิทธิผลของ papinicolaou (PAP) การทดสอบ papillomavirus วัตถุประสงค์ของเราคือเพื่อตรวจสอบปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงในการยึดมั่นในแนวทางการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเป็นระยะเวลากว่า 14 ปี วิธีการ:โดยใช้ข้อมูลจากรอบ 1 (1994-1995) ผ่าน 7 (2006-2007) ของแคนาดาแห่งชาติการสำรวจสุขภาพประชากรเราใช้การถดถอยโลจิสติกในการเปรียบเทียบความสม่ำเสมอของการทดสอบอาหารเหลว (อย่างน้อยหนึ่งครั้งในทุก 36 เดือน) ในหมู่ผู้หญิง เราเมื่อเทียบกับผู้หญิงที่มีการเพิ่มการยึดมั่นกับแนวทางการทดสอบอาหารเหลวสำหรับผู้ที่ไม่เคยสาวกและผู้หญิงที่มีการลดการยึดมั่นในบรรดาผู้ที่ได้เสมอสาวกตัวอย่างที่รวมผู้หญิงอายุ 20-70 ปีที่ตอบสนองอย่างน้อยสามของเจ็ดคลื่นของการเก็บรวบรวมข้อมูลและไม่ได้รับการผ่าตัดมดลูก (n = 4949) ตัวแปรอิสระขึ้นอยู่กับรูปแบบพฤติกรรมของแอนเดอ predisposing ทำให้และต้องตัวแปร ผล: ส่วนใหญ่ของตัวอย่างของเรามีทั้งเสมอสาวก (61.4%) หรือได้เพิ่มการยึดมั่น (99%) ในช่วงเวลาของการศึกษา อีก 4.8% ไม่เคยถูกพรรคพวกและ 6.6% ได้ลดลงกว่าการยึดมั่นในการมีส่วนร่วมในการศึกษา ส่วนใหญ่ทั้งการเปิดใช้งาน (เช่นการแสดงตนของแพทย์ประจำ) และความต้องการ (เช่นการควบคุมการเกิดการใช้ยาโรคอ้วน) ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับรูปแบบการเปลี่ยนแปลงของการยึดมั่น ข้อสรุป:แพทย์มีบทบาทสำคัญในการเล่นในวิถีของการยึดมั่นในแนวทางการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกในช่วงเวลา นอกจากนี้ผู้หญิงที่มีโรคอ้วนจะต้องมีการกำหนดเป้​​าหมายโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการให้บริการเพราะพวกเขามีความเสี่ยงที่จะไบร์ทลบ​​ในการยึดมั่นในช่วงเวลา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

พื้นหลัง: พบเปอร์เซ็นต์ของผู้หญิงแถบอเมริกาเหนือมี nonadherent ให้แนวทางแม้ มีประสิทธิภาพของการทดสอบ Papinicolaou (บ) สำหรับ papillomavirus ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก วัตถุประสงค์ของเราเพื่อ ตรวจสอบปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงในต่าง ๆ สำหรับแนวทางการตรวจคัดกรองเป็นระยะเวลา 14 ปีมะเร็งปากมดลูกได้ วิธีการ: ใช้ข้อมูลจากรอบ 1 (1994-1995) ถึง 7 (2006-2007) ของแคนาดาประเทศประชากรสุขภาพสำรวจ เราใช้ถดถอยโลจิสติกเพื่อเปรียบเทียบความของบทดสอบ (อย่างน้อยหนึ่งครั้งทุกเดือน 36) ผู้หญิง เราเปรียบเทียบผู้หญิงกับเพิ่มต่าง ๆ เพื่อทดสอบแนวทางที่เคยนฤมลบ และผู้หญิงที่ มีลดต่าง ๆ ให้กับผู้ที่เสมอนฤมล หญิงตัวอย่างรวมอายุ 20-70 ปีที่ตอบสนองในของคลื่น 7 ของการเก็บรวบรวมข้อมูล และได้เปลี่ยนมดลูก (n = 4949) ตัวแปรอิสระถูกใช้ในแบบจำลองพฤติกรรมของแอนเดอร์ของ predisposing เปิด และต้องการตัวแปร ผลลัพธ์: ตัวอย่างของเราส่วนใหญ่ถูกเสมอ adherent (61.4%) หรือมีติดเพิ่มขึ้น (99%) ช่วงเวลาของการศึกษา อีก 4.8% เคยนฤมล และ 6.6% ได้ลดลงติดผ่านการมีส่วนร่วมในการศึกษา ส่วนใหญ่ การเปิดใช้งาน (เช่น สถานะของแพทย์ทั่วไป) และปัจจัยที่จำเป็น (เช่น ใช้คุมกำเนิด โรคอ้วน) ถูกเชื่อมโยงกับการเปลี่ยนแปลงรูปแบบต่าง ๆ บทสรุป: แพทย์มีบทบาทสำคัญใน trajectories ของติดกับมะเร็งปากมดลูกที่ตรวจคัดกรองแนวทางเวลา นอกจากนี้ ผู้หญิงกับโรคอ้วนต้องมีโดยเฉพาะอย่างยิ่งเป้าหมายบริการเนื่องจากการลบ trajectories ในช่วงเวลาต่าง ๆ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ภาพ พื้นหลังเป็นเปอร์เซ็นต์เป็นอย่างมากของหญิงชาวอเมริกันทางด้านทิศเหนือมี nonadherent เป็นไปตามคู่มือตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกแม้จะมี ประสิทธิภาพ ของ papinicolaou ( PAP )การทดสอบสำหรับ papillomavirus . เป้าหมายของเราคือการพิจารณาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการเปลี่ยนแปลงในการ ภาค ยานุวัติคำแนะนำการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกในช่วงระยะเวลา 14 ปี วิธีทำโดยการใช้ข้อมูลจากรอบ 1 ( 1994-1995 )ผ่านการสำรวจ 7 ( 2006-2007 2006-2007 2006-2007 )ของประเทศแคนาดาเพื่อ สุขภาพ ประชากรที่เราใช้( Log ด้านการขนส่งเพื่อทำการเปรียบเทียบอย่างที่สุดของการทดสอบ PAP (อย่างน้อยหนึ่งครั้งทุกๆ 36 เดือน)ในหมู่สตรี เราเมื่อเทียบกับผู้หญิงด้วยการ ภาค ยานุวัติเพิ่มมากขึ้นในการแนวทางการทดสอบ PAP ผู้ที่ถูกพรรคพวกไม่เคยและผู้หญิงด้วยการลดการยึดมั่นในผู้ที่เป็นพรรคพวกอยู่เสมอตัวอย่างที่คิดรวมถึงผู้หญิงอายุ 20-70 ปีที่ได้ตอบในที่อย่างน้อยสามของ 7 คลื่นของคอลเลคชั่นข้อมูลและไม่ผ่าน for endometrial cancer - ( N = 4949 ) ตัวแปรเป็นอิสระอยู่บนพื้นฐานพฤติกรรมรุ่นของแอนเดอร์เซ่น predisposing ของการเปิดใช้งานและต้องใช้ตัวแปร ผลการค้นหาโดยส่วนใหญ่จะเป็นตัวอย่างของเรามีอยู่เสมอทั้งพรรคพวก( Length 61.4% )หรือมีการ ภาค ยานุวัติเพิ่มมากขึ้น( 9 )9% )ในหลักสูตรของการศึกษาให้. 4.8% คนพรรคพวกไม่เคยและ 6.6% มีการ ภาค ยานุวัติลดลงมากกว่าการมีส่วนร่วมของพวกเขาในการศึกษาที่ โดดเด่นไปด้วยการเปิดใช้งาน(เช่นการมีอยู่ของหมอเป็นประจำ)และความต้องการ(เช่นการใช้ยาคุมกำเนิดการควบคุมการเกิดโรคอ้วน)จากปัจจัยทั้งมีความสัมพันธ์โดยมีรูปแบบการเปลี่ยนการ ภาค ยานุวัติ บทสรุปแพทย์มีบทบาทสำคัญที่จะเล่นใน trajectories ที่ของการ ภาค ยานุวัติเป็นไปตามคู่มือตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกในช่วงเวลาหนึ่ง นอกจากนี้ผู้หญิงด้วยโรคอ้วนต้องโดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายสำหรับบริการเพราะพวกเขามีความเสี่ยงต่อการติดลบ trajectories ในการยึดมั่นในช่วงเวลา