1. The statistical methods used to

1. The statistical methods used to find the efficiency of CAI were:
1) Efficiency of CAI set up by Chiewpimai (1983)
2) Percentage
3) Mean
2. The Effectiveness Index of CAI by Goodman et al. (1980)
3. Statistics used for the achievement test were:
1) The difficulty (p) of the test
2) The discrimination Index (r) of the test
3) The reliability of the pre-test and post-test KR20 of Kuder Richardson
was 0.59
4) The difference of pre-test and post-test scores of the sample
was tested by t-test (Srisa-ad, 1992)

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

1.วิธีทางสถิติที่ใช้หาประสิทธิภาพของไกได้:1) ประสิทธิภาพของไกที่ตั้งขึ้น โดย Chiewpimai (1983)2 เปอร์เซ็นต์3) หมายความว่า2.ดัชนีประสิทธิผลของไกตามคลา et al. (1980)3. สถิติที่ใช้ในการทดสอบผลสัมฤทธิ์ได้:1) ความยาก (p) ของแบบทดสอบ2 เลือกปฏิบัติ)ดัชนี (r) ของแบบทดสอบ3) ความน่าเชื่อถือของการทดสอบก่อน และหลังทดสอบ KR20 ของ Kuder ริชาร์ดสันถูกคือ 0.594) ความแตกต่างของคะแนนทดสอบก่อน และหลังการทดสอบของตัวอย่างทดสอบ โดย t-ทดสอบ (Srisa-โฆษณา 1992)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

1. วิธีการทางสถิติที่ใช้ในการหาประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนมีดังนี้
1) ประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนที่ตั้งขึ้นโดย Chiewpimai (1983)
2) ร้อยละ
3) เฉลี่ย
2 ดัชนีประสิทธิผลของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนโดยกู๊ดแมน, et al (1980)
3 สถิติที่ใช้สำหรับการทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนมีดังนี้
1) ความยากลำบาก (พี) ของการทดสอบ
2) ดัชนีการเลือกปฏิบัติ (R) ของการทดสอบ
3) ความน่าเชื่อถือของการทดสอบก่อนและ KR20 หลังการทดสอบของ Kuder
ริชาร์ดได้0.59
4)
ความแตกต่างของการทดสอบก่อนและคะแนนหลังการทดสอบของกลุ่มตัวอย่างที่ได้รับการทดสอบโดยt-test (ศรีสอ้านโฆษณา 1992)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

1 . สถิติที่ใช้หาประสิทธิภาพของบทเรียนคือ :
1 ) ประสิทธิภาพของบทเรียนที่ตั้งขึ้นโดย chiewpimai ( 1983 )
2 )
3
) หมายถึงจำนวน 2 ดัชนีประสิทธิผลของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนโดย กู๊ดแมน และคณะ ( 1980 )
3 สถิติที่ใช้คือ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน :
1 ) ความยากง่าย ( p ) ของการทดสอบ
2 ) ค่าอำนาจจำแนก ( r ) ของการทดสอบ
3 ) แบบทดสอบก่อนเรียนและหลัง kr20 ของคูเดอร์ริชาร์ดสัน
เป็น 0.59
4 ) ความแตกต่างของแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนของกลุ่มตัวอย่างได้รับการทดสอบโดยการทดสอบที ( t-test )
( ศีรษะ ค.ศ. 1992 )