The Red Violin ไวโอลินเลือด ของ Francois Girard เป็นหนังที่ได้รางวัล Best Music by John Corigliano ในการชิง Academy award เป็นหนังปี 1998( และฉันก็เพิ่งได้ดูในปี 2010 เนี่ยนะ) ทีแรกก็เฉยๆ หยิบมาดูคิดว่าเป็นหนังลึกลับด้วยซ้ำ แต่อ่านคำบรรยายภาษาไทยด้านหลังเขียนว่า “นี่คือหนังสำหรับคนรักดนตรี” และเมื่อดูจบแล้วก็รู้สึกดีจริงๆด้วย ไม่ได้ถึงกับตื้นตันน้ำตาไหลแต่รู้สึกอยากติดตามอยากรู้เรื่องต่อเนื่อง
พล็อตเรื่องเกี่ยวกับไวโอลินตัวหนึ่งถูกสร้างโดยช่างทำไวโอลินชาวอิตาลีเมื่อสามศตวรรษที่แล้วในปี ค.ศ.1681 เพื่อเตรียมให้กับลูกที่กำลังจะคลอดของเขา โชคร้ายที่ภรรยาของเขาเสียชีวิตระหว่างคลอด ไวโอลินตัวนี้จึงไม่ได้เป็นไปตามความประสงค์ของผู้สร้าง เวลาผ่านไปไวโอลินตัวนี้ถูกบริจาคให้โบสถ์ที่เลี้ยงเด็กกำพร้าในออสเตรีย มีเด็กหลายคนได้เล่นต่อๆกันมา จนมีเด็กอัจฉริยะคนหนึ่งได้เล่น และมีนักดนตรีที่เห็นแววพาไปที่เวียนนาเพื่อแสดงให้เจ้าชายคัดเลือกสำหรับร่วมในการเดินทางไปรัสเซียของพระองค์ โชคร้ายอีกครั้งที่เด็กคนนี้เสียชีวิตต่อหน้าพระพักตร์ด้วยความเครียดและเดิมเป็นโรคหัวใจอยู่แล้ว ไวโอลินถูกฝังพร้อมศพ
แต่มีหัวขโมยได้มาขุดหลุมศพนำไวโอลินไป ครั้งนี้ไวโอลินตัวนั้นถูกเล่นต่อๆกันในกลุ่มยิปซีเร่ร่อน จนเมื่อมาถึงอังกฤษ เจ้าของที่ดินที่ยิปซีมาพักซึ่งเป็นนักไวโอลินที่มีสไตล์เฉพาะตัวในสมัยนั้นได้เห็นและนำไวโอลินนี้ไปใช้ในการแสดงของเขา การแสดงของเขาต้องมาจากแรงบันดาลใจที่เกิดจากหญิงสาวคนหนึ่ง ซึ่งเธอเองเป็นนักประพันธ์ที่ต้องการแรงบันดาลใจในการเขียนเช่นกัน เธอจึงเดินทางไปรัสเซีย และกลับมาพบว่าเขาหาแรงบันดาลใจจากหญิงอื่นเมื่อไม่มีเธอ เธอยิงไวโอลินตัวนั้นเสียหาย แล้วจากไป เขาฆ่าตัวตายในที่สุดเพราะสูญเสียแรงบันดาลใจและอ่อนแอเพราะฝิ่น
ไวโอลินถูกนำข้ามน้ำข้ามทะเลไปถึงเมืองจีนที่เซี่ยงไฮ้โดยคนรับใช้ชาวจีนของเขาที่กลับwxเมืองจีนและนำไวโอลินตัวนั้นไปขายในร้ายขายของเก่า ไวโอลินถูกขายต่อให้แม่ลูกชาวจีนคู่หนึ่ง ลูกสาวเมื่อเติบโตขึ้นตกอยู่ในช่วงปฏิวัติการปกครองของจีน เครื่องดนตรีตะวันตกจะถูกทำลาย ไวโอลินถูกมอบให้อาจารย์สอนดนตรีผู้เก็บเครื่องดนตรีหลบซ่อนการทำลายของเรดการ์ดจนสิ้นสุดยุคประธานเหมา ในที่สุดรัฐบาลจีนได้มอบคอลเลกชั่นเครื่องดนตรีเหล่านี้กลับมาสู่ประเทศตะวันตก จนเข้าสู่การประมูลในเมืองมอลทรีลออลในแคนาดา ฉากการประมูลเป็นฉากนำเรื่องจากนั้นหนังตัดเรื่องไปมาระหว่างแต่ละช่วงเวลาเดินทางของไวโอลิน ซึ่งตัดภาพได้เรียบรื่นดีมาก
แล้วเรื่องมาเฉลยกันตอนจบว่าช่างทำไวโอลินได้นำเลือดของภรรยาผู้เสียชีวิตมาทาสีไวโอลินโดยใช้แปรงที่ทำจากผมของเธอ ชื่อเรื่องภาษาไทยที่ตั้งชื่อว่า ไวโอลินเลือด จึงสื่อเนื้อหาส่วนนี้เข้าไปด้วย
โดยส่วนตัวชอบเรื่องนี้ทั้งฉากที่สวยงาม ดนตรีประกอบนั้นยอดเยี่ยม ฟังแล้วอยากเล่นไวโอลินตาม เนื้อเรื่องแต่ละช่วงแสดงให้เห็นยุคสมัยที่เปลี่ยนไปและลักษณะของภูมิภาคที่ต่างกัน
เกี่ยวกับไวโอลิน จะเห็นว่าเรื่องเริ่มที่ Cremona ซึ่งเป็นเมืองอยู่ทางเหนือของอิตาลี นับเป็นศูนย์กลางการผลิตเครื่องดนตรีโดยเฉพาะไวโอลินตระกูลต่างๆ ได้แก่ Amati, Guarneri และ Stradivari ( ในเรื่องใช้ชื่อ Nicolò Bussotti เป็นช่างทำไวโอลิน) เรื่องนี้ว่ากันว่าได้รับแรงบันดาลใจจากไวโอลินของ Stradivarius ที่ชื่อ The Red Mendelssohn สร้างในปี ค.ศ.1721 ปัจจุบันเป็นของนักไวโอลินชื่อ Elizabeth Pitcairn ผู้ได้ไวโอลินตัวนี้เป็นของขวัญวันเกิดซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 1.7 ล้านเหรียญจากการประมูลกับคริสตี้ที่ลอนดอน ชื่อ "The Red Mendelssohn"มาจากแถบสีแดงบนต้านขวาบนของตัวไวโอลินซึ่งไม่มีใครทราบที่มาของแถบนั้นเช่นกัน
มีนิยายอีกเรื่องหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับไวโอลินของสตราดิวาเรียสคือเรื่อง Antonietta เขียนโดย John Hersey ในปี 1991 Antonietta เป็นทั้งชื่อนิยายและเป็นชื่อของไวโอลินของ Stradivarius ที่สร้างในปี 1699 ในช่วงที่เขาเสียภรรยาและได้ตกหลุมรักกับสาวน้อยคนหนึ่งชื่อ Antonia