Royal rainmaking technologyIn 1955,

Royal rainmaking technology
In 1955, while flying to visit villagers in the Phuphan Mountainailand, His Majesty noticed that although there were plenty of heavy clouds along his flight path, they failed to bring rainfall to the parched lands below.
His many trips upcountry also informed the King that water scarcity, and the cycle of flooding and drought, had brought extreme hardship to farmers. With no scientific help, they usually relied on supernatural rituals to ask for rain.

To overcome the problems, His Majesty first introduced a concept of check dams that help slow down the flow of water and reduce the risk of flash flood.

Analysing the available scientific data, His Majesty made it known to one of his close aides, MR Debriddhi Devakul, of his firm intention to search for a way to bring down ‘’more rain than that given by nature’’.The Royal Rain, or artificial rain project, was thus born. The first successful attempt was made in 1969. Further tests helped to refine the technique.

According to His Majesty, artificial rain-making comprises three steps: Triggering, fattening and attacking. Potential rain clouds were seeded, built up, dragged and forced to yield rain with precipitation of a reasonable amount of water over target areas.


In 2003, the European Patent Office granted a patent, numbered EP1491088, to His Majesty the King for “weather modification by royal rainmaking technology”.

Thailand’s help has often been sought by other countries in applying this technology to combat drought.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เทคโนโลยี royal rainmakingในปี 1955 ในขณะที่บินไปเยี่ยมชาวบ้านใน Phuphan Mountainailand สมเด็จสังเกตเห็นว่า แม้ว่าจะมีฝนหนักตลอดเส้นทางการบินของเขา พวกเขาไม่สามารถนำฝนในดินแดนแห้งด้านล่างเดินทางของเขาจำนวนมากต่างจังหวัดยังทราบพระที่ขาดแคลนน้ำ และวงจรของน้ำท่วมและภัยแล้ง ได้นำความลำบากมากกับเกษตรกร ไม่เหลือทางวิทยาศาสตร์ พวกเขามักจะอาศัยในพิธีกรรมขอฝนที่เหนือธรรมชาติเพื่อเอาชนะปัญหา พระก่อนนำแนวคิดของฝายชะลอน้ำให้ช้าลงการไหลของน้ำ และลดความเสี่ยงจากอุทกภัยวิเคราะห์ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ สมเด็จทำรู้จักหนึ่งในเสนาธิการของเขาสนิท นาย Debriddhi ปรีดิ ของความตั้งใจของเขาบริษัทเพื่อค้นหาวิธีที่จะนำลง ''ฝนตกมากกว่าที่กำหนด โดยธรรมชาติ '' ฝนหลวง หรือโครงการฝนเทียม จึงเกิด ทำสำเร็จครั้งแรกในปี 1969 การทดสอบเพิ่มเติมช่วยในการปรับปรุงเทคนิคการตาม ทำฝนเทียมประกอบด้วย 3 ขั้นตอน: วิกฤติ สุกรขุน และโจมตี เมฆฝนที่มีศักยภาพเตรียม สร้างขึ้น ลาก และถูกบังคับให้ฝนฝนของจำนวนน้ำเหมาะสมกว่าพื้นที่เป้าหมายใน 2003 สำนักงานสิทธิบัตรยุโรปได้รับ EP1491088 สิทธิบัตร เลข สมเด็จสำหรับการ "ปรับเปลี่ยนสภาพอากาศโดยเทคโนโลยี royal rainmaking"มีขอความช่วยเหลือของไทยรับ โดยประเทศอื่น ๆ ในการใช้เทคโนโลยีนี้ในการต่อสู้ภัยแล้งมักจะ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เทคโนโลยีการทำฝนเทียมหลวง
ในปี 1955 ในขณะที่บินไปเยี่ยมชมชาวบ้านในโคราช Mountainailand พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสังเกตเห็นว่าแม้ว่าจะมีความอุดมสมบูรณ์ของเมฆหนักพร้อมเส้นทางการบินของพวกเขาล้มเหลวที่จะนำปริมาณน้ำฝนไปยังดินแดนที่แห้งแล้งด้านล่าง.
การเดินทางของเขาหลายคนต่างจังหวัดยังได้แจ้งต่อที่ พระมหากษัตริย์ที่ขาดแคลนน้ำและวงจรของน้ำท่วมและภัยแล้งได้นำความยากลำบากมากให้กับเกษตรกร ด้วยความช่วยเหลือทางวิทยาศาสตร์ที่พวกเขามักจะพึ่งพาพิธีกรรมเหนือธรรมชาติเพื่อขอฝน.

เพื่อแก้ไขปัญหาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวครั้งแรกที่นำแนวคิดของฝายที่ช่วยชะลอการไหลของน้ำและลดความเสี่ยงจากน้ำท่วมได้.

การวิเคราะห์ที่มีทางวิทยาศาสตร์ ข้อมูลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงทำให้มันเป็นที่รู้จักกันให้เป็นหนึ่งในที่ปรึกษาใกล้ชิดนาย Debriddhi เทวกุล, เจตนาของเขาเพื่อค้นหาวิธีการที่จะนำมาลง '' ฝนมากขึ้นกว่าที่ได้รับจากธรรมชาติ ''. เดอะรอยัลเรนหรือโครงการฝนเทียม เกิดจึง . ความพยายามที่ประสบความสำเร็จเป็นครั้งแรกที่ถูกสร้างขึ้นในปี 1969 นอกจากนี้การทดสอบช่วยในการปรับแต่งเทคนิค

ตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว, เทียมฝนทำประกอบด้วยสามขั้นตอนการเรียกขุนและโจมตี เมฆฝนที่มีศักยภาพเมล็ดสร้างขึ้นลากและถูกบังคับให้ผลผลิตฝนตกและมีการตกตะกอนของจำนวนที่เหมาะสมของน้ำมากกว่าพื้นที่เป้าหมาย.


ในปี 2003 สำนักงานสิทธิบัตรยุโรปได้รับสิทธิบัตร EP1491088 เลขเพื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวสำหรับ "การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ โดยเทคโนโลยีการทำฝนเทียมรอยัล ".

ความช่วยเหลือของไทยได้รับมักจะตามหาประเทศอื่น ๆ ในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีนี้ในการต่อสู้กับภัยแล้ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เทคโนโลยีฝนหลวงในปี 1955 ขณะที่บินไปเยี่ยมชาวบ้านใน mountainailand ภูพาน , พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสังเกตเห็นว่า แม้ว่าจะมีมากมายของเมฆหนักตามเส้นทางการบินของเขา , พวกเขาล้มเหลวที่จะพาน้ำฝนไปผากที่ดินด้านล่างของเขาหลายเที่ยวต่างจังหวัดยังแจ้งกษัตริย์ที่ความขาดแคลนน้ำและวัฏจักรของน้ำท่วมและความแห้งแล้ง ทำให้ยากลำบากแก่เกษตรกร ไม่มีวิทยาศาสตร์ช่วย พวกเขามักจะพึ่งพาพิธีกรรมเหนือธรรมชาติ เพื่อขอให้ฝนตกเพื่อเอาชนะปัญหา ฝ่าบาททรงแนะนำแนวคิดของการตรวจสอบเขื่อนที่ช่วยชะลอการไหลของน้ำและลดความเสี่ยงจากน้ำท่วมแฟลชการวิเคราะห์ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่มีอยู่ นั้นพระองค์ทรงเป็นที่รู้จักกับหนึ่งในผู้ช่วยใกล้ชิดของเขา คุณ debriddhi devakul ของบริษัทของเขา ความตั้งใจที่จะค้นหาวิธีที่จะนำลง ' 'more ฝนมากกว่าที่ได้จากธรรมชาติ ' ' ฝนหลวง หรือ เทียม ฝน โครงการ จึงเกิด ความพยายามที่ประสบความสำเร็จแรกถูกสร้างขึ้นในปี 1969 . การทดสอบเพิ่มเติมจะช่วยปรับปรุงเทคนิคตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงประดิษฐ์ , ฝนหลวง ประกอบด้วยสามขั้นตอน : เรียกเพรียวและโจมตี . ศักยภาพเมฆฝนถูก seeded , สร้างขึ้น ลากและบังคับให้ต้นฝนกับการตกตะกอนที่เหมาะสม ปริมาณน้ำเหนือพื้นที่เป้าหมายในปี 2003 สำนักงานสิทธิบัตรยุโรปได้รับจดทะเบียนสิทธิบัตร , หมายเลข ep1491088 เพื่อในหลวง " ในการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศโดยเทคโนโลยีฝนหลวง .ไทยช่วยได้มักถูกค้นหาโดยประเทศอื่น ๆในการใช้เทคโนโลยีนี้เพื่อต่อสู้กับภัยแล้ง