Figure H-7: ENROLLMENT Data Sorted

Figure H-7: ENROLLMENT Data Sorted by StudentNumber Using a Circular and a Two-way Linked List
There are many variations of linked lists. We can make the list into a circular list, or ring, by changing the link of the last record from zero to the address of the first record in the list. Now we can reach every item in the list starting at any item in the list. Figure H-7(a) shows a circular list for the StudentNumber order. A two-way linked list has links in both directions. In Figure H-7(b), a two-way linked list has been created for both ascending and descending student orders.
Records ordered using linked lists cannot be stored on a sequential file because some type of direct-access file organization is needed to use the link values. Thus, either indexed sequential or direct file organization is required for linked-list processing.
How Are Indexes Used to Maintain a Logical Record Order?
A logical record order can also be maintained using an index, or inverted list, as they are sometimes called. An index is simply a table that cross-references record addresses with some field value. For ex-ample, Figure H-8(a) shows the ENROLLMENT records stored in no particular order, and Figure H-8(b) shows an index on StudentNumber. In this index, the StudentNumbers are arranged in sequence, with each entry in the list pointing to a corresponding record in the original data.
As you can see, the index is simply a sorted list of StudentNumbers. To process ENROLLMENT sequen-tially on StudentNumber, we simply process the index sequentially, obtaining ENROLLMENT data by reading the records indicated by the pointers. Figure H-8(c) shows another index for ENROLLMENT—one that maintains ClassNumber order.
To use an index, the data to be ordered (here, ENROLLMENT) must reside on an indexed sequential or direct file, although the indexes can reside on any type of file. In practice, almost all DBMS products keep both the data and the indexes on direct files.
Figure H-8: ENROLLMENT Data and Corresponding Indexes: (a) ENROLLMENT Data, (b) Index on StudentNumber, and (c) Index on ClassNumber
If you compare the linked list with the index, you will notice the essential difference between them. In a linked list, the pointers are stored along with the data. Each record contains a link field containing a pointer to the address of the next related record. But in an index, the pointers are stored in indexes, separate from the data. Thus, the data records themselves contain no pointers. Both techniques are used by commercial DBMS products.
B-Trees
A special application of the concept of indexes, or inverted lists, is a B-tree, which is a multilevel index that allows both sequential and direct processing of data records. It also ensures a certain level of effi-ciency in processing because of the way that the indexes are structured.
A B-tree is an index that is made up of two parts: the sequence set and the index set. (These terms are used by IBM’s VSAM file organization documentation. You may encounter other synonymous terms.) The sequence set is an index containing an entry for every record in the file. This index is in physical se-quence, usually by primary key value. This arrangement allows sequential access to the data records, as follows: Process the sequence set in order, read the address of each record, and then read the record.
The index set is an index pointing to groups of entries in the sequence set index. This arrangement pro-vides rapid direct access to records in the file, and it is the index set that makes B-trees unique.
An example of a B-tree appears in Figure H-9, and an occurrence of this structure can be seen in Figure H-10. Notice that the bottom row in Figure H-9, the sequence set, is simply an index. It contains an entry for every record in the file (although for brevity, both the data records and their addresses have been omitted). Also, notice that the sequence set entries are in groups of three. The entries in each group are physically in sequence, and each group is chained to the next one by means of a linked list, as can be seen in Figure H-10.
Examine the index set in Figure H-9. The top entry contains two values: 45 and 77. By following the left-most link (to RRN2), we can access all the records whose key field values are less than or equal to 45; by following the middle pointer (to RRN3) we can access all the records whose key field values are greater than 45 and less than or equal to 77; and by following the rightmost pointer (to RRN4) we can access all the records whose key field values are greater than 77.
Figure H-9: General Structure of a Simple B-Tree
Figure H-10: Occurrence of B-Tree in Figure H-9
Similarly, at the next level there are two values and three pointers in each index entry. Each time we drop to another level, we narrow our search for a particular record. For example, if we continue to fol-low the leftmost pointer from the top entry and then follow the rightmost pointer from

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

รูป H-7: ข้อมูลการลงทะเบียนเรียงลำดับ โดยใช้เวียนและรายการเชื่อมโยงสอง StudentNumberมีหลายรูปแบบของรายการเชื่อมโยง เราสามารถทำให้รายการเป็นรายการหมุนเวียน หรือแหวน โดยการเปลี่ยนการเชื่อมโยงระเบียนสุดท้ายจากศูนย์ไปยังที่อยู่ของเรกคอร์ดแรกในรายการ ตอนนี้ เราสามารถเข้าถึงทุก ๆ รายการในรายการราคาเริ่มต้นที่รายการใด ๆ ในรายการ รูป H-7(a) แสดงรายการแบบวงกลมการ StudentNumber รายการโยงสองมีการเชื่อมโยงทั้งสองทิศ ในรูป H-7(b) รายการเชื่อมโยงสองแล้วจากน้อยไปมาก และจากมากไปน้อยสั่งนักเรียนสั่งใช้รายการเชื่อมโยงระเบียนไม่สามารถเก็บไว้ในแฟ้มตามลำดับเนื่องจากบางชนิดของแฟ้มโดยตรงเข้าถึงองค์กรจะต้องใช้ค่าเชื่อมโยง องค์กรใดทำดัชนีแฟ้มตามลำดับ หรือโดยตรงจึงจำเป็นสำหรับการประมวลผลรายการเชื่อมโยงวิธีดัชนีถูกใช้เพื่อรักษาบันทึกกรรมบันทึกกรรมสามารถรักษาได้โดยใช้ดัชนี หรือกลับรายการ เป็นบางครั้ง ดัชนีเป็นเพียงตารางที่ระเบียนที่อยู่ ด้วยค่าของฟิลด์บางผิดพลาด ในอดีตพื้นที่ H-8(a) รูปแสดงข้อมูลการลงทะเบียนที่เก็บดับ และ H-8(b) รูปแสดงดัชนีใน StudentNumber ในดัชนี StudentNumbers จะจัดเรียงลำดับ กับแต่ละรายการในรายการที่ชี้ไปยังข้อมูลที่สอดคล้องกันในข้อมูลต้นฉบับคุณสามารถดู ดัชนีเป็นเพียงแค่เรียงลำดับรายการของ StudentNumbers ดำเนินการลงทะเบียนใน StudentNumber sequen tially เราก็ประมวลผลดัชนีตามลำดับ รับข้อมูลการลงทะเบียน โดยการอ่านข้อมูลที่ระบุตัวชี้ รูปแสดง H-8(c) ดัชนีอื่นสำหรับการลงทะเบียน — หนึ่งที่สั่ง ClassNumberการใช้ดัชนี ข้อมูลการสั่งซื้อ (ที่นี่ ลงทะเบียน) ต้องอยู่ในการทำดัชนีตามลำดับ หรือโดยตรงไฟล์ แม้ว่าดัชนีสามารถอยู่ในแฟ้มชนิดใดก็ ในทางปฏิบัติ ผลิตภัณฑ์ DBMS เกือบทั้งหมดเก็บข้อมูลและดัชนีแฟ้มโดยตรงรูป H-8: ลงทะเบียนข้อมูลและดัชนีที่สอดคล้อง: (ก) การลงทะเบียนข้อมูล, (b) ดัชนีบน StudentNumber และ (c) ดัชนีบน ClassNumberถ้าคุณเปรียบเทียบรายการที่เชื่อมโยงกับดัชนี คุณจะสังเกตเห็นความแตกต่างที่สำคัญระหว่าง ในรายการเชื่อมโยง ตัวชี้ที่เก็บไว้พร้อมกับข้อมูล แต่ละระเบียนประกอบด้วยเขตข้อมูลเชื่อมโยงที่ประกอบด้วยตัวชี้ไปยังที่อยู่ของเรกคอร์ดที่เกี่ยวข้องต่อไป แต่ในดัชนี ตัวชี้ที่ถูกเก็บไว้ในดัชนี แยกต่างหากจากข้อมูล ดังนั้น ระเบียนข้อมูลตัวเองประกอบด้วยตัวชี้ไม่ ใช้เทคนิคทั้งสอง โดยผลิตภัณฑ์ DBMS เชิงพาณิชย์B-ต้นไม้โปรแกรมพิเศษของแนวคิดของดัชนี หรือกลับรายการ เป็น B- ซึ่งเป็นดัชนีหลายระดับที่ช่วยให้การประมวลผลข้อมูลโดยตรง และตามลำดับ มันยังช่วยระดับ effi ciency ในการประมวลผลเนื่องจากวิธีการที่มีโครงสร้างดัชนีบี-ทรีเป็นดัชนีที่ประกอบขึ้นด้วยสองส่วน: ลำดับการตั้งค่าและตั้งค่าดัชนี (เงื่อนไขเหล่านี้จะใช้ โดยองค์กรของ IBM VSAM แฟ้มเอกสารประกอบกัน คุณอาจพบคำพ้องอื่น ๆ) ชุดเป็นดัชนีที่ประกอบด้วยรายการสำหรับทุกเรกคอร์ดในไฟล์ ดัชนีนี้เป็นจริง se-quence ปกติโดยที่ค่าคีย์หลัก นี้จัดให้ถึงระเบียนข้อมูล ตามลำดับดังนี้: ประมวลผลลำดับในใบสั่ง อ่านอยู่ของแต่ละระเบียน และอ่านบันทึกแล้วชุดดัชนีคือ ดัชนีที่ชี้ไปยังกลุ่มของรายการในลำดับการตั้งค่าดัชนี นี้จัดโปร-vides เข้าถึงเรกคอร์ดในไฟล์โดยตรงอย่างรวดเร็ว และเป็นชุดดัชนีที่ทำให้ต้นไม้ B เฉพาะตัวอย่างของบี-ทรีปรากฏในรูป H-9 และการเกิดขึ้นของโครงสร้างนี้สามารถดูได้ในรูป H-10 สังเกตว่า แถวล่างในรูป H-9 ชุดลำดับ เป็นเพียงดัชนี มันประกอบด้วยรายการสำหรับทุกเรกคอร์ดในไฟล์ (แต่กระชับ ระเบียนข้อมูลและที่อยู่ของพวกเขาได้ถูกละไว้) ยัง สังเกตว่า รายการการตั้งค่าลำดับอยู่ในกลุ่มของสาม รายการในแต่ละกลุ่มเป็นจริงลำดับ และแต่ละกลุ่มเป็น chained กับโดยใช้รายการเชื่อมโยง สามารถเห็นในรูป H-10ตรวจสอบดัชนีในรูป H-9 รายการด้านบนประกอบด้วยค่าสองค่า: 45 และ 77 โดยข้างล่างซ้ายสุด (เช่น RRN2), เราสามารถเข้าถึงระเบียนทั้งหมดที่มีค่าเขตข้อมูลคีย์น้อยกว่า หรือเท่ากับ 45 โดยตัวชี้กลาง (เช่น RRN3) เราสามารถเข้าถึงระเบียนทั้งหมดที่มีค่าเขตข้อมูลคีย์มากกว่า 45 และน้อยกว่า หรือเท่ากับ 77 และตามตัวชี้ขวาสุด (ให้ RRN4) เราสามารถเข้าถึงระเบียนทั้งหมดที่มีค่าเขตข้อมูลคีย์มากกว่า 77รูป H-9: โครงสร้างทั่วไปของบี-ทรีเป็นอย่างรูป H-10: เกิดบี-ทรีในรูป H-9ในทำนองเดียวกัน ในระดับถัดไป ได้สองค่าและตัวชี้สามในแต่ละรายการดัชนี ทุกครั้งที่เราปล่อยระดับอื่น เราแคบเราค้นหาเรกคอร์ดเฉพาะ ตัวอย่างเช่น ถ้าเรายังคงต่ำ fol ชี้ซ้ายจากรายการด้านบน และทำ ตามตัวชี้ขวาสุดจาก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

รูปที่ H-7: ข้อมูลนักศึกษาจัดเรียงตาม StudentNumber
ใช้วงกลมและแบบสองทางรายการที่เชื่อมโยงมีหลายรูปแบบของรายการที่มีการเชื่อมโยง เราสามารถทำรายการเป็นรายการกลมหรือแหวนโดยการเปลี่ยนการเชื่อมโยงของการบันทึกที่ผ่านมาจากศูนย์ไปยังที่อยู่ของระเบียนแรกในรายการ ตอนนี้เราสามารถเข้าถึงรายการในรายการเริ่มต้นทุกรายการใด ๆ ในรายการ รูปที่ H-7 (ก) แสดงรายการกลมสำหรับการสั่งซื้อ StudentNumber สองทางรายการที่เชื่อมโยงมีการเชื่อมโยงทั้งสองทิศทาง ในรูป H-7 (ข), สองทางรายการที่เชื่อมโยงได้ถูกสร้างขึ้นสำหรับทั้งมากและจากคำสั่งซื้อของนักเรียน.
บันทึกคำสั่งให้ใช้รายการเชื่อมโยงไม่สามารถถูกเก็บไว้ในแฟ้มตามลำดับเนื่องจากประเภทขององค์กรไฟล์โดยตรงเข้าถึงบางส่วนที่จำเป็นในการ ใช้การเชื่อมโยงค่า ดังนั้นทั้งองค์กรไฟล์การเรียงลำดับหรือการจัดทำดัชนีโดยตรงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการประมวลผลเชื่อมโยงรายการ.
วิธีการที่ดัชนีที่ใช้ในการรักษาบันทึกการสั่งซื้อลอจิคัล?
คำสั่งบันทึกตรรกะยังสามารถรักษาได้โดยใช้ดัชนีหรือรายการกลับเช่นที่พวกเขาบางครั้งเรียกว่า ดัชนีเป็นเพียงตารางที่ข้ามอ้างอิงอยู่กับการบันทึกค่าเขตข้อมูลบางส่วน สำหรับอดีตกว้างขวางรูป H-8 () แสดงให้เห็นถึงการบันทึกการลงทะเบียนที่เก็บไว้ในลำดับใดไม่มีและรูป H-8 (ข) แสดงให้เห็นว่าดัชนีใน StudentNumber ในดัชนีนี้ StudentNumbers จะจัดอยู่ในลำดับที่มีแต่ละรายการในรายการที่ชี้ไปบันทึกที่สอดคล้องกันในข้อมูลเดิม.
ที่คุณสามารถดูดัชนีเป็นเพียงรายการที่เรียงลำดับของ StudentNumbers เพื่อให้กระบวนการลงทะเบียน sequen-tially ใน StudentNumber เราก็ดำเนินการตามลำดับดัชนีที่ได้รับข้อมูลนักศึกษาโดยการอ่านบันทึกที่ระบุโดยตัวชี้ รูปที่ H-8 (ค) แสดงให้เห็นว่าดัชนีสำหรับการลงทะเบียนหนึ่งที่รักษาเพื่อ ClassNumber อีก.
ที่จะใช้ดัชนีข้อมูลที่จะสั่งซื้อ (ที่นี่ลงทะเบียน) จะต้องอยู่ในแฟ้มเรียงลำดับหรือโดยตรงการจัดทำดัชนีแม้ว่าดัชนีจะอยู่ใน ชนิดของไฟล์ใด ๆ ในทางปฏิบัติเกือบทุกผลิตภัณฑ์ DBMS เก็บข้อมูลของทั้งสองและดัชนีในไฟล์โดยตรง.
รูป H-8: นักศึกษาข้อมูลและสอดคล้องกับดัชนี (ก) นักศึกษาข้อมูล (ข) ดัชนีในการ StudentNumber และ (ค) ดัชนีในการ ClassNumber
หาก คุณเปรียบเทียบรายการที่เชื่อมโยงกับดัชนีคุณจะสังเกตเห็นความแตกต่างที่สำคัญระหว่างพวกเขา ในรายการที่เชื่อมโยงตัวชี้จะถูกเก็บไว้พร้อมกับข้อมูล บันทึกแต่ละคนมีสนามที่มีการเชื่อมโยงตัวชี้ไปยังที่อยู่ของการบันทึกที่เกี่ยวข้องต่อไปได้ แต่ในดัชนีชี้ถูกเก็บไว้ในดัชนีที่แยกต่างหากจากข้อมูล ดังนั้นข้อมูลที่บันทึกตัวเองมีตัวชี้ไม่มี เทคนิคทั้งสองจะถูกใช้โดยผลิตภัณฑ์ DBMS เชิงพาณิชย์.
B-ต้นไม้โปรแกรมพิเศษของแนวคิดของดัชนีหรือรายการกลับเป็น B ต้นไม้ซึ่งเป็นดัชนีที่ช่วยให้หลายระดับทั้งการประมวลผลและตรงตามลำดับของการบันทึกข้อมูล
. นอกจากนี้ยังช่วยให้มั่นใจได้ระดับหนึ่งของ Effi-ขาดเพียงในการประมวลผลเนื่องจากวิธีการที่ดัชนีมีโครงสร้าง
A B ต้นไม้เป็นดัชนีที่ถูกสร้างขึ้นจากสองส่วนลำดับการตั้งค่าและการตั้งค่าดัชนี (คำเหล่านี้จะถูกใช้โดยไฟล์ VSAM ของไอบีเอ็มเอกสารองค์กร. คุณอาจพบคำที่ความหมายเหมือนกันอื่น ๆ .) ชุดลำดับคือดัชนีที่มีการบันทึกรายการสำหรับทุกคนในไฟล์เป็นนักการ ดัชนีนี้อยู่ในทางกายภาพ SE-quence โดยปกติค่าคีย์หลัก ข้อตกลงนี้จะช่วยให้เข้าถึงลำดับการบันทึกข้อมูลดังต่อไปนี้.
ดำเนินการตามลำดับที่กำหนดไว้ในการสั่งซื้ออ่านอยู่ของแต่ละระเบียนที่แล้วอ่านบันทึกการตั้งค่าดัชนีเป็นดัชนีที่ชี้ไปยังกลุ่มของรายการในดัชนีลำดับตั้ง ข้อตกลงนี้โปร Vides อย่างรวดเร็วเข้าถึงโดยตรงไปยังระเบียนในแฟ้มและมันเป็นชุดดัชนีที่ทำให้ B-ต้นไม้ที่ไม่ซ้ำกัน.
ตัวอย่างของ B ต้นไม้ปรากฏขึ้นในรูป H-9 และการเกิดขึ้นของโครงสร้างนี้สามารถเห็น ในรูป H-10 ขอให้สังเกตว่าแถวด้านล่างในรูป H-9, ชุดลำดับเป็นเพียงดัชนี มันมีรายการสำหรับทุกระเบียนในแฟ้มที่ (แต่สำหรับความกะทัดรัดทั้งบันทึกข้อมูลและที่อยู่ของพวกเขาได้รับการละเว้น) นอกจากนี้ยังสังเกตเห็นว่ารายการที่กำหนดลำดับที่อยู่ในกลุ่มของสาม รายการในแต่ละกลุ่มที่มีร่างกายในลำดับและแต่ละกลุ่มจะถูกล่ามโซ่ไว้กับหนึ่งต่อไปโดยวิธีการของรายการที่เชื่อมโยงที่สามารถมองเห็นได้ในรูป H-10.
ตรวจสอบการตั้งค่าดัชนีในรูป H-9 รายการด้านบนมีสองค่า: 45 และ 77 โดยต่อไปนี้การเชื่อมโยงที่ด้านซ้ายสุด (เพื่อ RRN2) เราสามารถเข้าถึงระเบียนทั้งหมดที่มีค่าของเขตข้อมูลที่สำคัญน้อยกว่าหรือเท่ากับ 45; โดยทำตามตัวชี้กลาง (เพื่อ RRN3) เราสามารถเข้าถึงระเบียนทั้งหมดที่มีค่าคีย์ฟิลด์มากกว่า 45 และน้อยกว่าหรือเท่ากับ 77; และต่อไปนี้ตัวชี้ขวาสุด (เพื่อ RRN4) เราสามารถเข้าถึงระเบียนทั้งหมดที่มีค่าคีย์ฟิลด์มากกว่า 77
รูป H-9: โครงสร้างทั่วไปของง่าย
B-ต้นไม้รูปที่H-10: การเกิดของ B-ต้นไม้ในรูป H-9
ในทำนองเดียวกันในระดับต่อไปมีสองสามค่านิยมและคำแนะนำในแต่ละรายการดัชนี ทุกครั้งที่เราลดลงไปอีกระดับหนึ่งเราค้นหาของเราสำหรับการบันทึกโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตัวอย่างเช่นถ้าเรายังคงตามมาต่ำชี้ซ้ายจากรายการด้านบนแล้วทำตามตัวชี้ขวาสุดจาก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

รูป h-7 : การลงทะเบียนข้อมูลเรียงตาม studentnumber โดยใช้วงกลมและสองทางเชื่อมโยงรายการมีหลายรูปแบบของการเชื่อมโยงรายการ เราสามารถทำรายการลงในรายการ , วงกลม หรือแหวน โดยการเปลี่ยนลิงค์ของบันทึกสุดท้ายจากศูนย์ไปยังที่อยู่ของบันทึกแรกในรายการ ตอนนี้เราสามารถเข้าถึงทุกรายการในรายการเริ่มต้นที่รายการใด ๆในรายการ รูป h-7 ( ) แสดงรายการวงกลมสำหรับ studentnumber การสั่งซื้อ สองทางเชื่อมโยงรายการที่มีการเชื่อมโยงในทั้งสองทิศทาง ในรูป h-7 ( B ) , สองทางเชื่อมโยงรายการถูกสร้างขึ้นสำหรับทั้งขึ้นและลงคำสั่งนักเรียนบันทึกการสั่งใช้รายการเชื่อมโยงไม่สามารถเก็บไว้ในแฟ้มข้อมูล เพราะบางชนิดของการเข้าถึงโดยตรงไฟล์องค์กรจำเป็นต้องใช้ค่าเชื่อมโยง ดังนั้น ทั้งดัชนีกลุ่มหรือองค์กรโดยตรงไฟล์ที่จําเป็นสําหรับรายการเชื่อมโยงการประมวลผลวิธีดัชนีที่ใช้รักษาเพื่อบันทึกตรรกะ ?คำสั่งบันทึกตรรกะยังสามารถรักษาโดยใช้ดัชนีหรือกลับรายการที่พวกเขาเป็นบางครั้งเรียกว่า ดัชนีเป็นเพียงแค่ตารางการอ้างอิงข้ามบันทึกที่อยู่กับบางเขตข้อมูลค่า สำหรับเช่นกว้างขวาง รูป h-8 ( ) แสดงการบันทึกเก็บไว้ ไม่เรียงลำดับ และรูป h-8 ( b ) แสดงให้เห็นว่าดัชนีใน studentnumber . ในดัชนีนี้ studentnumbers จัดเรียงลำดับ มีรายการในแต่ละรายการที่ชี้ไปยังระเบียนที่สอดคล้องกันในข้อมูลเดิมที่คุณสามารถดู , ดัชนีเป็นเพียงแค่เรียงรายชื่อ studentnumbers . กระบวนการการลงทะเบียน ซีเคว้น tially บน studentnumber เราเพียงแค่กระบวนการดัชนีตามลำดับ ได้รับข้อมูลการลงทะเบียน โดยการอ่านบันทึกที่ระบุโดยตัวชี้ . รูป h-8 ( C ) แสดงให้เห็นว่าการรักษาอีกดัชนีหนึ่ง classnumber การสั่งซื้อการใช้ดัชนี , ข้อมูลการสั่ง ( ที่นี่ ลงทะเบียน ) ต้องอยู่ในดัชนีแฟ้มลำดับหรือโดยตรง แม้ว่าดัชนีจะอยู่ในชนิดของไฟล์ใด ในการฝึกเกือบทุก DBMS ผลิตภัณฑ์เก็บทั้งข้อมูลและดัชนีไฟล์โดยตรงรูป h-8 : ข้อมูลการลงทะเบียนและดัชนีที่สอดคล้องกัน ( ก ) ข้อมูลการลงทะเบียน ( ข ) ดัชนีใน studentnumber และ ( c ) ดัชนีใน classnumberถ้าคุณเปรียบเทียบรายการที่เชื่อมโยงกับดัชนี คุณจะสังเกตเห็นความแตกต่างที่สำคัญระหว่างพวกเขา ในรายการที่เชื่อมโยง ตัวชี้จะถูกเก็บไว้พร้อมกับข้อมูล แต่ละระเบียนที่มีการเชื่อมโยงข้อมูลที่ชี้ไปยังที่อยู่ของถัดไปที่เกี่ยวข้องบันทึก แต่ในดัชนี , ตัวชี้จะถูกเก็บไว้ในดัชนีที่แยกต่างหากจากข้อมูล ดังนั้น ข้อมูลประวัติตัวเองไม่มีตัวชี้ . เทคนิคทั้งสองใช้ DBMS พาณิชย์ผลิตภัณฑ์b-treesโปรแกรมพิเศษของแนวคิดของดัชนี หรือกลับรายการเป็นแบบบีซึ่งเป็นระดับดัชนีที่ช่วยให้ทั้งต่อเนื่องและการประมวลผลโดยตรงของระเบียนข้อมูล มันยังช่วยให้ระดับของ effi ประสิทธิภาพในการประมวลผลเนื่องจากวิธีการที่ดัชนีที่มีโครงสร้าง .มีต้นไม้เป็นดัชนีที่ถูกสร้างขึ้นจากสองส่วน : การตั้งค่าและดัชนีชุด ( เงื่อนไขเหล่านี้จะถูกใช้โดยบริษัทวีแซมไฟล์เอกสารขององค์กร คุณอาจพบเงื่อนไขพ้องอื่น ๆ ) ตามลําดับ ตั้งเป็นดัชนีที่ประกอบด้วยรายการสำหรับทุกระเบียนในแฟ้ม ดัชนีนี้ในทางกายภาพ เซ quence มักจะโดยค่าคีย์หลัก ข้อตกลงนี้จะช่วยให้ระบบการเข้าถึงข้อมูลประวัติ ดังนี้ กระบวนการลำดับชุดเพื่ออ่านที่อยู่ของแต่ละบันทึกและอ่านบันทึกดัชนี SET ดัชนีที่ชี้ไปยังกลุ่มของรายการในลำดับดัชนี นี้จัดโปร vides เข้าถึงอย่างรวดเร็วไปยังระเบียนในแฟ้ม และเป็นดัชนีที่ทำให้ b-trees เป็นเอกลักษณ์ตัวอย่างของต้นไม้ปรากฏในรูป h-9 และการเกิดโครงสร้างนี้สามารถเห็นได้ในรูป h-10 . สังเกตว่าแถวล่างในรูป h-9 , ลำดับชุด เป็นเพียงดัชนี มันมีรายการสำหรับทุกระเบียนในแฟ้ม ( แม้ว่าช่วงเวลา ทั้งข้อมูลประวัติและที่อยู่ของพวกเขาได้ละเว้น ) นอกจากนี้ สังเกตว่าลำดับการตั้งค่ารายการในกลุ่มสาม รายการในแต่ละกลุ่มมีร่างกายในลำดับ และแต่ละกลุ่มจะถูกล่ามโซ่ไว้กับหนึ่งถัดไป โดยวิธีการของรายการที่เชื่อมโยง , ที่สามารถเห็นได้ในรูป h-10 .ตรวจสอบดัชนีตลาดหลักทรัพย์ในรูป h-9 . รายการด้านบนประกอบด้วยค่าสองค่า : 45 77 ตามไปที่ลิงค์มากที่สุด ( rrn2 ) เราสามารถเข้าถึงที่สำคัญค่าเขตข้อมูลบันทึกทั้งหมดจะน้อยกว่าหรือเท่ากับ 45 ; ตามชี้กลาง ( rrn3 ) เราสามารถเข้าถึงระเบียนที่มีเขตข้อมูลคีย์ค่าทั้งหมดมีค่ามากกว่า 45 และน้อยกว่าหรือเท่ากับ 77 ; และโดยต่อไปนี้ ตัวชี้ตำแหน่ง ( rrn4 ) เราสามารถเข้าถึงที่สำคัญค่าเขตข้อมูลบันทึกทั้งหมดมีมากกว่า 77รูป h-9 : โครงสร้างทั่วไปของต้นไม้ง่ายรูป h-10 : การเกิดขึ้นของต้นไม้ในรูป h-9ในทำนองเดียวกันในระดับถัดไป มี สอง และสาม ชี้ค่านิยมในแต่ละรายการดัชนี แต่ละครั้งที่เราลดลงไปอีกระดับหนึ่ง เราจำกัดการค้นหาของเราสำหรับการบันทึกเฉพาะ ตัวอย่างเช่น ถ้าเรายังคงต่ำ fol ชี้ซ้ายสุดจากด้านบนรายการและจากนั้นตามตำแหน่งตัวชี้จาก