When the ASP.NET run time processes

When the ASP.NET run time processes the request for a page, it checks the various configuration
files to see whether the current user is allowed to access that resource. For requests to files in the
Management folder, it encounters the rule set in the element. It starts scanning the various
allow and deny elements with roles or users attributes to specify the users or roles that are
affected by the rule. The roles and users attributes take one or more role or user names, separated
by a comma. As soon as a rule is found that matches, the scanning process is stopped and that rule is
applied. If no rule is satisfied, access is granted! Therefore, it’s important to end the rule with a deny
rule to block all other users that haven’t been granted access previously.
If you’d add an authorization element to the Web.config in the Management folder, the settings you
apply there are looked at first because the security model works inside out. That is, it starts by scanning
the Web.config file (if present) in the folder that contains the requested page. If it doesn’t find the file
there or it doesn’t contain settings that block or grant access, it goes up in the folder hierarchy searching
for configuration files with authorization elements. In the previous exercise, the run-time found the
settings in the Web.config file in the root that were then applied to the folder.
When an unauthenticated user logs in, the first rule won’t match because the anonymous user is not a
member of the Managers role. The user is then denied access because of the deny rule that blocks all
users, indicated by the asterisk (*).
After you logged in as a Manager and requested the same resource, the rule set was scanned again. The
run time then found the allow element that grants access to the Managers role and immediately let
you in. The final rule that blocks access to all other users was not even checked. In addition to specific
roles or usernames and the asterisk (*) to refer to all users, you can also use the question mark (?) to
refer to unauthenticated — or anonymous — users. So, for example, to let any logged-in user access the
Reviews folder regardless of the role they are in, and block access to all other users, you can add the
following element to your configuration file:

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เมื่อการการ ASP.NET เรียกใช้เวลากระบวนการร้องขอสำหรับเพ ตรวจสอบการกำหนดค่าต่าง ๆแฟ้มเพื่อดูว่า ผู้ใช้ปัจจุบันสามารถเข้าถึงทรัพยากรที่ สำหรับการร้องขอไปยังไฟล์ในการโฟลเดอร์การจัดการ พบกฎของการตั้งค่าในการ องค์ประกอบการ เริ่มต้นการสแกนแบบต่าง ๆอนุญาต และปฏิเสธการองค์ประกอบ ด้วยแอททริบิวต์บทบาทหรือผู้ใช้เพื่อระบุผู้ใช้หรือบทบาทที่รับผลกระทบจากกฎ คุณลักษณะบทบาทและผู้ใช้อย่าง น้อยหนึ่งบทบาทหรือผู้ใช้ชื่อ คั่นโดยเครื่องหมายจุลภาค ทันทีที่กฎพบที่ตรง หยุดทำการสแกน และเป็นกฎที่นำไปใช้ ถ้าไม่มีกฎไม่พอใจ เข้าให้ ดังนั้น จะต้องจบกฎกับการปฏิเสธกฎการบล็อกผู้ใช้อื่น ๆ ทั้งหมดที่ยังไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าก่อนหน้านี้ถ้าคุณจะเพิ่มองค์ประกอบตรวจสอบ Web.config ในโฟลเดอร์การจัดการ การตั้งค่าคุณใช้มีที่มองในตอนแรกเนื่องจากรูปแบบการรักษาความปลอดภัยทำงานภายในออก กล่าวคือ มันเริ่มต้น ด้วยการสแกนการ Web.config แฟ้ม (ถ้ามี) ในโฟลเดอร์ที่ประกอบด้วยหน้าที่ร้องขอ ถ้าโปรแกรมไม่พบแฟ้มมี หรือจะไม่ประกอบด้วยการตั้งค่าที่บล็อก หรืออนุญาตให้เข้า มันไปขึ้นในลำดับชั้นของโฟลเดอร์ค้นหาสำหรับแฟ้มการตั้งค่าคอนฟิกกับองค์ประกอบของการตรวจสอบ ในแบบฝึกหัดก่อนหน้านี้ พบขณะทำการการตั้งค่าในแฟ้ม Web.config ในรากที่ใช้แล้วไปยังโฟลเดอร์เมื่อผู้ใช้ไม่ล็อกใน กฎแรกไม่ตรงกันเนื่องจากผู้ใช้ที่ไม่ระบุชื่อไม่มีสมาชิกของบทบาทผู้จัดการ ผู้ถูกปฏิเสธเข้าแล้วเนื่องจากกฎการปฏิเสธที่บล็อกทั้งหมดผู้ใช้ แสดง โดยเครื่องหมายดอกจัน (*)หลัง จากที่คุณเข้าสู่ระบบในฐานะผู้จัดการร้องขอทรัพยากรเดียวกัน ชุดกฎถูกสแกนอีกครั้ง ที่เวลาทำงาน แล้วพบองค์ประกอบอนุญาตให้เข้ากับบทบาทผู้จัดการให้ทันทีคุณใน กฎสุดท้ายที่บล็อกเข้าถึงผู้ใช้อื่น ๆ ทั้งหมดไม่ตรวจสอบได้ นอกจากนี้ให้ระบุบทบาท หรือชื่อผู้ใช้ และเครื่องหมายดอกจัน (*) เพื่ออ้างอิงถึงผู้ใช้ทั้งหมด คุณสามารถใช้เครื่องหมายคำถาม (?) เพื่อถึงไม่ — ไม่ระบุชื่อซึ่งผู้ใช้ ดังนั้น เช่น ให้เข้าล็อกอินผู้ใช้ใด ๆโฟลเดอร์ในรีวิวว่าบทบาทพวกเขาเป็น และบล็อคการเข้าถึงผู้ใช้อื่น ๆ ทั้งหมด คุณสามารถเพิ่มการต่อไปนี้องค์ประกอบแฟ้มการกำหนดค่าของคุณ:

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เมื่อเวลาทำงาน ASP.NET
ประมวลผลการร้องขอสำหรับหน้ามันจะตรวจสอบการตั้งค่าต่างๆไฟล์เพื่อดูว่าผู้ใช้ปัจจุบันได้รับอนุญาตให้เข้าถึงทรัพยากรที่
สำหรับการร้องขอไปยังไฟล์ในโฟลเดอร์การจัดการพบกฎที่ตั้งอยู่ในธาตุ. มันเริ่มต้นการสแกนต่างๆช่วยให้และปฏิเสธองค์ประกอบที่มีบทบาทหรือผู้ใช้แอตทริบิวต์การระบุผู้ใช้หรือบทบาทที่ได้รับผลกระทบจากกฎ บทบาทและคุณลักษณะที่ผู้ใช้ใช้เวลาหนึ่งหรือมากกว่าบทบาทหรือชื่อผู้ใช้คั่นด้วยเครื่องหมายจุลภาค เร็วที่สุดเท่าที่เป็นกฎพบว่าตรงกับขั้นตอนการสแกนจะหยุดการทำงานและการปกครองที่นำมาใช้ หากไม่มีการปกครองมีความพึงพอใจในการเข้าถึงจะได้รับ! ดังนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะยุติการปกครองด้วยการปฏิเสธกฎเพื่อป้องกันผู้ใช้อื่น ๆ ที่ยังไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าถึงก่อนหน้านี้. หากคุณต้องการเพิ่มองค์ประกอบอนุญาตไป Web.config ในโฟลเดอร์การจัดการการตั้งค่าที่คุณใช้มีมองไปที่แรกเพราะรักษาความปลอดภัยแบบการทำงานภายในออก นั่นคือมันเริ่มต้นด้วยการสแกนแฟ้ม Web.config (ถ้ามี) ในโฟลเดอร์ที่มีหน้าการร้องขอ ถ้ามันไม่ได้หาไฟล์ที่มีหรือมันไม่ได้มีการตั้งค่าที่ป้องกันหรือสิทธิการเข้าถึงมันจะไปขึ้นในลำดับชั้นโฟลเดอร์การค้นหาสำหรับแฟ้มการกำหนดค่าที่มีองค์ประกอบอนุญาต ในการออกกำลังกายก่อนหน้านี้ระยะเวลาที่พบการตั้งค่าในแฟ้ม Web.config ในรากที่ถูกนำไปใช้แล้วไปยังโฟลเดอร์. เมื่อมีการเข้าสู่ระบบของผู้ใช้ที่ไม่ได้อยู่ในกฎข้อแรกจะไม่ตรงกับผู้ใช้ที่ไม่ระบุชื่อเพราะไม่ได้เป็นสมาชิกของบทบาทผู้จัดการ ผู้ใช้ถูกปฏิเสธการเข้าถึงแล้วเพราะการปฏิเสธกฎที่บล็อคทั้งหมดผู้ใช้ที่ระบุโดยเครื่องหมายดอกจัน (*). หลังจากที่คุณเข้าสู่ระบบเป็นผู้จัดการและขอทรัพยากรเดียวกันชุดกฎได้รับการสแกนอีกครั้ง เวลาทำงานแล้วก็พบว่าช่วยให้องค์ประกอบที่ให้การเข้าถึงบทบาทของผู้จัดการและทันทีที่ปล่อยให้คุณ. กฎข้อสุดท้ายที่บล็อกการเข้าถึงผู้ใช้อื่น ๆ ได้รับการตรวจสอบแม้ไม่ได้ นอกเหนือจากการที่เฉพาะเจาะจงบทบาทหรือชื่อผู้ใช้และเครื่องหมายดอกจัน (*) จะหมายถึงผู้ใช้งานทุกท่านยังสามารถใช้เครื่องหมายคำถามไป (?) หมายถึงการที่ไม่ได้ - หรือไม่ระบุชื่อ - ผู้ใช้ ดังนั้นสำหรับตัวอย่างเช่นในการปล่อยให้ใด ๆ เข้าสู่ระบบในการเข้าถึงผู้ใช้รีวิวโฟลเดอร์โดยไม่คำนึงถึงบทบาทของพวกเขาอยู่ในและปิดกั้นการเข้าถึงผู้ใช้อื่นๆ คุณสามารถเพิ่มต่อไปนี้




















องค์ประกอบในการตั้งค่าไฟล์ของคุณ:

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เมื่อ ASP.NET เวลาหนีกระบวนการร้องขอหน้า การตรวจสอบแฟ้มการกำหนดค่า
ต่างๆเพื่อดูว่าผู้ใช้ปัจจุบันจะอนุญาตให้สามารถเข้าถึงทรัพยากร สำหรับการร้องขอไฟล์ในการจัดการโฟลเดอร์ ก็พบกฎที่ตั้งไว้ใน < ที่ตั้ง > > เริ่มต้นการสแกนต่างๆ
อนุญาตและปฏิเสธองค์ประกอบที่มีบทบาทหรือผู้ใช้แอตทริบิวต์เพื่อระบุผู้ใช้หรือบทบาทที่
ผลกระทบจากกฎ บทบาทและคุณลักษณะของผู้ใช้ใช้หนึ่งหรือมากกว่าหนึ่งบทบาท หรือชื่อผู้ใช้แยก
ด้วยเครื่องหมายจุลภาค ทันทีที่กฎพบว่าตรงกัน ขั้นตอนการสแกน จะหยุดและกฎที่
ประยุกต์ ถ้าไม่มีกฎจะพอใจ การเข้าถึงจะได้รับ ! ดังนั้นมันสำคัญที่จะสิ้นสุดการปกครองด้วยการปฏิเสธ
กฎบล็อกผู้ใช้อื่น ๆทั้งหมดที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเข้าถึง
ก่อนหน้านี้ถ้าคุณต้องการเพิ่มการอนุญาตให้ web.config องค์ประกอบในการจัดการโฟลเดอร์ , การตั้งค่าที่คุณ
ใช้มีจะมองก่อน เพราะรูปแบบการรักษาความปลอดภัยภายในงานออก คือว่า มันเริ่มต้นโดยการสแกนไฟล์ web.config
( ถ้ามี ) ในโฟลเดอร์ที่มีการร้องขอหน้าเว็บ หากไม่พบไฟล์
มีหรือไม่มีการตั้งค่าบล็อกหรืออนุญาตการเข้าถึงไปในโฟลเดอร์การค้นหา
เพื่อปรับแต่งไฟล์กับลำดับชั้นขององค์ประกอบการอนุญาต ในแบบฝึกหัดก่อนหน้านี้ ครั้งพบ
การตั้งค่าในไฟล์ web.config ในรากนั้น จึงใช้กับโฟลเดอร์ .
เมื่อผู้ใช้บันทึกที่ตั้งใน ข้อแรก คงไม่เหมาะ เพราะผู้ใช้ที่ไม่ระบุชื่อไม่ใช่
สมาชิกของผู้จัดการบทบาทผู้ใช้ถูกปฏิเสธการเข้าถึง เพราะปฏิเสธกฎบล็อกผู้ใช้ทั้งหมด
, ที่ระบุโดยเครื่องหมายดอกจัน ( * )
หลังจากที่คุณเข้าสู่ระบบในฐานะผู้จัดการและร้องขอทรัพยากรเดียวกัน กฎการตั้งค่าสแกนอีกครั้ง
เวลาหนีแล้วพบว่าองค์ประกอบที่อนุญาตให้เข้าถึงผู้จัดการบทบาททันทีปล่อยให้
คุณใน สุดท้ายกฎที่บล็อกการเข้าถึงผู้ใช้อื่น ๆทั้งหมดที่ยังไม่ได้ตรวจสอบโดยเฉพาะ
บทบาทหรือชื่อผู้ใช้และเครื่องหมายดอกจัน ( * ) เพื่อดูผู้ใช้ทั้งหมด นอกจากนี้คุณยังสามารถใช้เครื่องหมายคำถาม ( ? )

ดูที่ตั้ง - นิรนาม - ผู้ใช้ ดังนั้นตัวอย่างเช่นเพื่อให้เข้าสู่ระบบการเข้าถึงผู้ใช้
รีวิวโฟลเดอร์ไม่ว่าบทบาทของพวกเขาเป็นใน และปิดกั้นการเข้าถึงผู้ใช้อื่น ๆทั้งหมด คุณสามารถเพิ่ม
ต่อไปนี้ < สถานที่ > องค์ประกอบของการตั้งค่าของคุณ :