Basing their conclusions on a revie

Basing their conclusions on a review of the literature and interviews with experts in the field, Schippmann et al.(2000) attempted to clarify the distinction between the two approaches. Their report identified 17 variables on which competency modeling and job analysis could be compared, and they rated each variable according to the level of rigor at which they were practiced. These variables are summarized in Table 2.1. The first 10 variables represent valuative frontend activities that can be expected to influence the quality of the inferences to be drawn from the resulting analysis Job analysis was seen as demonstrating more rigor on every evaluative criterion, with the exception of establishing a link to business goals and strategies. The final seven variables are meant to be nonevaluative and focus on the uses of the re sulting information and the type of characteristics investigated. In this case, job analysis was generally rated as less rigorous than was competency modeling except for the focus on technical skills and the development of selection and deei sion applications

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อ้างอิงของบทสรุปในการทบทวนวรรณกรรมและการสัมภาษณ์กับผู้เชี่ยวชาญในฟิลด์ Schippmann et al.(2000) พยายามชี้แจงความแตกต่างระหว่างสองยื่น รายงานของพวกเขาระบุในสมรรถนะที่สร้างแบบจำลองและการวิเคราะห์งานสามารถเปรียบเทียบตัวแปรที่ 17 และพวกเขาได้คะแนนแต่ละตัวแปรตามระดับที่พวกเขาถูกฝึกฝน rigor ตัวแปรเหล่านี้สามารถสรุปได้ในตาราง 2.1 ตัวแปรแรก 10 แสดงกิจกรรม valuative frontend ที่สามารถคาดว่าจะมีผลต่อคุณภาพของ inferences จะออกจากได้วิเคราะห์งานวิเคราะห์ถูกเห็นเป็นเห็น rigor เพิ่มเติมเกณฑ์ทุก evaluative ยกเว้นการสร้างการเชื่อมโยงกับเป้าหมายธุรกิจและกลยุทธ์ที่ ตัวแปรที่เจ็ดสุดท้ายจะหมายถึงการ nonevaluative และความในการใช้งานของใหม่ sulting ข้อมูลและชนิดของลักษณะตรวจสอบ ในกรณีนี้ วิเคราะห์งานถูกโดยทั่วไปจัดเป็นเข้มงวดน้อยกว่ามีโมเดลสมรรถนะยกเว้นเน้นทักษะทางเทคนิคและการพัฒนาของตัวเลือกและ deei งานน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

พิจารณาข้อสรุปของพวกเขาในการทบทวนวรรณกรรมและการสัมภาษณ์กับผู้เชี่ยวชาญในสาขาที่ Schippmann et al. (2000) พยายามที่จะชี้แจงความแตกต่างระหว่างทั้งสองแนวทาง รายงานของพวกเขาระบุ 17 ตัวแปรที่การสร้างแบบจำลองและการวิเคราะห์ความสามารถในการทำงานอาจจะเทียบและพวกเขาจัดอันดับแต่ละตัวแปรตามระดับของความรุนแรงที่พวกเขาได้รับการฝึก ตัวแปรเหล่านี้ได้สรุปไว้ในตารางที่ 2.1 ครั้งแรก 10 ตัวแปรที่เป็นตัวแทนของกิจกรรมหน้า valuative ที่สามารถคาดหวังที่จะมีผลต่อคุณภาพของการหาข้อสรุปที่จะมาจากการวิเคราะห์การวิเคราะห์การทำงานที่เกิดขึ้นถูกมองว่าเป็นแสดงให้เห็นถึงความยากลำบากมากขึ้นในการเกณฑ์ประเมินทุกด้วยข้อยกเว้นของการสร้างความเชื่อมโยงไปยังเป้าหมายทางธุรกิจและ กลยุทธ์ สุดท้ายเจ็ดตัวแปรจะหมายถึงการ nonevaluative และมุ่งเน้นการใช้ประโยชน์จากข้อมูลใหม่ sulting และประเภทของลักษณะการตรวจสอบ ในกรณีนี้การวิเคราะห์งานเป็นอันดับโดยทั่วไปเป็นที่เข้มงวดน้อยกว่าคือการสร้างแบบจำลองความสามารถยกเว้นการมุ่งเน้นไปที่ทักษะทางเทคนิคและการพัฒนาของการเลือกและการใช้งานของไซออน deei

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

จากข้อสรุปของพวกเขาในการทบทวนวรรณกรรมและการสัมภาษณ์กับผู้เชี่ยวชาญในฟิลด์ schippmann et al . ( 2000 ) ได้พยายามชี้แจงถึงความแตกต่างระหว่างสองวิธี รายงานระบุว่า 17 ตัวแปรที่วิเคราะห์งานโมเดลลิ่งและสมรรถนะอาจจะเทียบ และคะแนนแต่ละตัวแปรตามระดับของความรุนแรงที่พวกเขาถูกฝึกมาตัวแปรเหล่านี้จะถูกสรุปในตารางที่ 2.1 . 10 ตัวแรกแสดงกิจกรรม valuative frontend ที่สามารถคาดหวังที่จะมีผลต่อคุณภาพของ ใช้ ในการวาดจากการวิเคราะห์ผลลัพธ์งานวิเคราะห์ ถูกมองว่าเป็น แสดงให้เห็นถึงความรุนแรงมากขึ้นในทุกเกณฑ์การประเมินมีข้อยกเว้นของการสร้างลิงค์เพื่อเป้าหมายทางธุรกิจและกลยุทธ์สุดท้าย 7 ตัวแปร ตั้งใจจะ nonevaluative และมุ่งเน้นการใช้ของอีก sulting ข้อมูลและชนิดของลักษณะที่ศึกษา ในกรณีนี้ วิเคราะห์งานได้โดยทั่วไปในระดับที่เข้มงวดน้อยกว่า คือ ความสามารถในการ ยกเว้น เน้นทักษะทางวิชาการและการพัฒนาของการเลือกและการประยุกต์ใช้ deei ฌัน