The Goal Setting Theory[edit]The Go

The Goal Setting Theory[edit]
The Goal Setting Theory was developed by Locke in 1968, in order to explain human actions in specific work situations [6] . The theory argues that goals and intentions are cognitive and willful, and that they serve as mediators of human actions and that our needs and our goals are mediated by our values, which determine what is beneficial for us.

The two most important findings of this theory are that setting specific goals (e.g., I want to earn $500 more a month) generates higher levels of performance than setting general goals (e.g., I want to earn more money), and that goals that are hard to achieve are linearly and positively connected to performance: The harder the goal, the more a person will work to reach it.[6] Goals are proposed to mediate the influence of incentives and feedback on performance. The model has spawned much research, and this has supported these predictions.

A goal is described as a specified level of efficiency in a certain area, usually to be reached under a time limit. Goals have two characteristics: content, and intensity. Content refers to the chosen achievement (e.g., I want to form a loving relationship). Intensity refers to the quantity of physical and mental resources needed to create or achieve the content. The original model proposed by Locke consisted of five steps: Environmental Stimuli → Cognition → Evaluation → Intentions Goal Setting → Performance.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ทฤษฎีการตั้งเป้าหมาย [แก้ไข]ทฤษฎีการตั้งเป้าหมายเป็นพัฒนา โดยล็อกอยู่ใน 1968 เพื่ออธิบายการกระทำที่มนุษย์ในสถานการณ์การทำงานเฉพาะ [6] ทฤษฎีจนเป้าหมายและความตั้งใจรับรู้ และดื้อ รั้น และพวกเขาทำหน้าที่เป็นอักเสบที่การกระทำของมนุษย์ และ mediated ที่ ความต้องการและเป้าหมายของเรา โดยค่าของเรา ซึ่งกำหนดสิ่งที่จะเป็นประโยชน์สำหรับเราลึกสำคัญสองทฤษฎีนี้เป็นที่ตั้งเป้าหมายเฉพาะ (เช่น ต้องการรายได้เดือนมากกว่า $500) สร้างประสิทธิภาพระดับสูงกว่าการตั้งเป้าหมายทั่วไป (เช่น อยากได้เงิน), และว่า ที่ยากที่จะบรรลุเป้าหมายเชิงเส้น และบวกเชื่อมต่อประสิทธิภาพ: ยากที่เป้าหมาย การคนจะทำงานถึงจะ [6] มีการนำเสนอเป้าหมายบรรเทาอิทธิพลของแรงจูงใจและความคิดเห็นเกี่ยวกับประสิทธิภาพ แบบมีเป้าหมายวิจัยมาก และนี้ได้คาดการณ์เหล่านี้ก็สนับสนุนอธิบายเป้าหมายเป็นระดับที่ระบุประสิทธิภาพในบางพื้นที่ มักจะเข้าถึงได้ภายใต้เวลาที่จำกัด เป้าหมายมีลักษณะสอง: เนื้อหา และความเข้ม เนื้อหาหมายถึงความสำเร็จท่าน (เช่น ฉันต้องการสร้างความสัมพันธ์ความรัก) ความรุนแรงหมายถึงปริมาณของทรัพยากรทางกายภาพ และจิตใจที่จำเป็น ในการสร้างให้เนื้อหา แบบเดิมที่เสนอ โดยล็อกประกอบด้วยห้าขั้นตอน: สิ่งแวดล้อมสิ่งเร้า→ประชาน→ประเมิน→ตั้งค่าเป้าหมาย Intentions →ประสิทธิภาพ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เป้าหมายการตั้งทฤษฎี [แก้ไข]
เป้าหมายการตั้งทฤษฎีรับการพัฒนาโดยล็อคในปี 1968 เพื่อที่จะอธิบายการกระทำของมนุษย์ในสถานการณ์ทำงานที่เฉพาะเจาะจง [6] ทฤษฎีที่ระบุว่าเป้าหมายและความตั้งใจมีความคิดและเจตนาและที่พวกเขาทำหน้าที่เป็นผู้ไกล่เกลี่ยการกระทำของมนุษย์และความต้องการและเป้าหมายของเราเป็นผู้ไกล่เกลี่ยโดยค่านิยมของเราซึ่งตรวจสอบสิ่งที่เป็นประโยชน์สำหรับเรา. ทั้งสองค้นพบที่สำคัญที่สุดของทฤษฎีนี้ ที่การตั้งค่าเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง (เช่นผมต้องการที่จะได้รับ $ 500 ต่อเดือน) สร้างระดับที่สูงขึ้นของประสิทธิภาพการทำงานมากกว่าการตั้งค่าเป้าหมายทั่วไป (เช่นผมต้องการที่จะได้รับเงินมากขึ้น) และเป้าหมายที่ยากที่จะประสบความสำเร็จจะเป็นเส้นตรงและเชื่อมต่อในเชิงบวก เพื่อประสิทธิภาพการทำงาน: ยากที่เป้าหมายให้มากขึ้นคนที่จะทำงานไปถึงที่นั่น [6] เป้าหมายได้รับการเสนอให้เป็นสื่อกลางในอิทธิพลของแรงจูงใจและความคิดเห็นเกี่ยวกับผลการดำเนินงาน. แบบจำลองที่ได้กลับกลายวิจัยมากและนี้ได้ให้การสนับสนุนการคาดการณ์เหล่านี้. เป้าหมายจะถูกอธิบายว่าเป็นระดับที่กำหนดไว้อย่างมีประสิทธิภาพในบางพื้นที่มักจะมาถึงภายใต้เวลาที่ จำกัด เป้าหมายมีสองลักษณะเนื้อหาและความรุนแรง เนื้อหาหมายถึงการได้รับการแต่งตั้งสำเร็จ (เช่นผมต้องการที่จะก่อให้เกิดความรักความสัมพันธ์) ความเข้มหมายถึงปริมาณของทรัพยากรทางร่างกายและจิตใจที่จำเป็นในการสร้างหรือบรรลุเนื้อหา รูปแบบเดิมที่เสนอโดยล็อคประกอบด้วยห้าขั้นตอนสิ่งแวดล้อมกระตุ้นความรู้ความเข้าใจ→→→การประเมินความตั้งใจ →การตั้งค่าเป้าหมายผลการปฏิบัติงาน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การกำหนดเป้าหมายทฤษฎี [ แก้ไข ]
ทฤษฎีการวางเป้าหมายการพัฒนาโดยล็อคในปี 1968 เพื่ออธิบายการกระทำของมนุษย์ โดยเฉพาะสถานการณ์การทำงาน [ 6 ] ทฤษฎีให้เหตุผลว่าเป้าหมายและความตั้งใจที่จะรับรู้ และการจงใจและที่พวกเขาทำหน้าที่เป็นผู้ไกล่เกลี่ยของการกระทําของมนุษย์และความต้องการและเป้าหมายของเราของเรา ) โดยค่าของเราซึ่งกำหนดสิ่งที่เป็นประโยชน์สำหรับเรา

สองข้อที่สำคัญที่สุดของทฤษฎีนี้คือการกำหนดเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง ( เช่น ฉันต้องการที่จะได้รับ $ 500 ต่อเดือน ) สร้างระดับที่สูงขึ้นของประสิทธิภาพมากกว่าการตั้งค่าเป้าหมายทั่วไป ( เช่น ฉันต้องการที่จะได้รับเงินมากขึ้น ) และเป้าหมายที่ยากที่จะบรรลุเป็นเส้นตรงและบวกเชื่อมต่อกับประสิทธิภาพ : ยาก เป้าหมาย ยิ่งเป็นคนที่จะทำงานเพื่อเข้าถึงมัน[ 6 ] เป้าหมายจะขอไกล่เกลี่ย อิทธิพลของแรงจูงใจและข้อเสนอแนะในการปฏิบัติงาน รูปแบบการวิจัยมี spawned มากและนี้ได้สนับสนุนการคาดการณ์เหล่านี้

เป้าหมายอธิบายเป็นตัวกำหนดระดับของประสิทธิภาพในบางพื้นที่ที่มักจะมาถึงในเวลาที่กำหนด เป้าหมายมีลักษณะสอง : เนื้อหาและความเข้ม เนื้อหา หมายถึง ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่เลือก ( เช่นฉันต้องการที่จะฟอร์มความสัมพันธ์รัก ) ความรุนแรง หมายถึง ปริมาณของทรัพยากรที่จำเป็นในการสร้างร่างกาย และจิตใจ หรือบรรลุเนื้อหา รุ่นต้นฉบับที่เสนอโดยล็อคประกอบด้วยห้าขั้นตอน : การรับรู้สิ่งเร้า→ keyboard - key - name สิ่งแวดล้อมการประเมินความตั้งใจ N → keyboard - key - name → keyboard - key - name การตั้งเป้าหมายการทำงาน
→ keyboard - key - name .