ถ้าเราลองพูดคำว่า “ความรัก” คนส่วนใ

ถ้าเราลองพูดคำว่า “ความรัก” คนส่วนใหญ่ที่เป็นวัยรุ่น น่าจะคิดถึงความรักของคนหนุ่มสาวความรักของชาย-หญิง การเป็นแฟน และการแต่งงาน แต่บางทีวัยรุ่นอย่างเราก็ลืมกันไปว่า ความรักนั้นมีอีกมากมายหลายชนิด หลากหลายความสัมพันธ์แต่รูปแบบนั้นคงเหมือนกันอยู่ในเรื่องความสัมพันธ์ ความรู้สึกดีๆที่มีให้แก่กัน ความผูกพัน ความอบอุ่นในหัวใจและความเป็นห่วงเป็นใยซึ่งกันและกัน วันนี้ฉันได้คุยกับเพื่อนคนหนึ่งเธอเป็นสาวสวยน่ารัก มองโลกในแง่ดี แต่เพิ่งเลิกกับแฟนมา ก็คุยๆกันไป ฉันก็นึกว่าเธอจะเศร้าแต่ดูเธอยังเข้มแข็ง เป็นตัวของตัวเองอยู่ เธอพูดอยู่ประโยคหนึ่งซึ่งฉันประทับใจมาก เธอบอกว่าการที่สูญเสียความรักจากคนๆหนึ่งไปมันก็เป็นเรื่องที่น่าเสียใจอยู่หรอก แต่เธอได้พบว่ายังมีความรักจากคนรอบๆตัวอยู่ (ญาติ พี่น้อง พ่อแม่ เพื่อน หมา สัตว์เลี้ยง) พวกเขายังคงรักเธอเป็นห่วงเธอด้วยใจจริง เธอบอกต่อว่า จริงๆแล้วก็ไม่น่าเสียใจด้วยซ้ำเพราะ ความรักความห่วงใยจากหลายๆคนที่คอยมอบให้นั้นมันมีค่ายิ่งกว่าความรักของคนเพียงคนเดียวที่ทิ้งเธอไป
พอเธอพูดจบฉันก็ปรบมือให้เลยจ้า
เป็นคำพูดที่น่าประทับใจจริงๆใช่เลย!

สมมติว่าความรักของคุณกับแฟนนั้นคือคบเพลิงอันหนึ่งที่อยู่ท่ามกลางความมืดและหนาวเหน็บ คุณสองคนจุดมันขึ้นมาเพื่อใช้ส่องทาง และทำให้อบอุ่นที่นี้ถ้าคบเพลิงอันนี้ได้มอดดับลงไปจะด้วยเหตุผลใดก็แล้วแต่และเขาคนนั้นได้เดินจากไป ทิ้งให้คุณอยู่ในความมืดมิดคนเดียว คุณก็ร้องไห้เสียใจว่าต่อจากนี้จะไปทางไหน ไม่เหลือใครอีกแล้ว จะอยู่ยังไง แต่แทนที่จะก้มหน้าหน้าไห้จนไม่สนใจอย่างอื่น คุณลองเงยหน้าขึ้นมองไปรอบๆตัวสิ จะเห็นว่า…

ยังมีคบเพลิงที่เป็นความรักของพ่อแม่ เพื่อน พี่น้อง และคนอีกมากมาย รวมถึงสัตว์เลี้ยง (บางตัว) ที่เป็นห่วงคุณอยา คบเพลิงเหล่านี้คอยเป็นแสงสว่าง ช่วยเหลือให้ความอบอุ่น ส่องทางให้คุณยามเสียใจขาดกำลังใจ ต้องการที่พึ่ง คนเราส่วนใหญ่พอเสียใจผิดหวังเรื่องความรัก ก็มักจะคิดว่าไม่เหลือใครอีกแล้ว ไม่มีใครอีกแล้ว จะอยู่กับใครต่อไป ลืมไปว่ารอบๆตัวเรา ยังมีคนที่รักเรา ห่วงเรา แคร์เรา เหลืออยู่อีกมาก แต่คุณอาจจะไม่รู้ตัว

จากคำพูดของเพื่อนฉัน หากลองย้อนมองกลับไปรอบๆตัว ลองมองในมุมที่ต่างไปจากที่เคยเห็นและรู้สึกเพื่อนบางคน พ่อ แม่ พี่น้อง ทุกคนล้วนรักคุณเป็นห่วงคุณด้วยกันทั้งนั้น อาจจะไม่ใช่ความรักของหนุ่มสาวอย่างที่คุ้นเคย
“ความรักก็คือความรักนั่นแหละ
แม้มันไม่ได้มีเพียงรูปแบบเดียวให้สัมผัส
แต่ความรู้สึกที่ได้รับนั้นก็ไม่ได้ต่างกัน
เปิดใจเสียใหม่ ลองมองโลกในมุมใหม่
คุณจะเห็นความรักจากคนมากมาย ที่พร้อมจะมอบให้คุณ”

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ถ้าเราลองพูดคำว่า "ความรัก" คนส่วนใหญ่ที่เป็นวัยรุ่น การเป็นแฟนและการแต่งงาน ความรักนั้นมีอีกมากมายหลายชนิด ความรู้สึกดีๆที่มีให้แก่กันความผูกพัน มองโลกในแง่ดี แต่เพิ่งเลิกกับแฟนมาก็คุย ๆ กันไป เป็นตัวของตัวเองอยู่ (ญาติพี่น้องพ่อแม่เพื่อนหมาสัตว์เลี้ยง) เธอบอกต่อว่า ทิ้งให้คุณอยู่ในความมืดมิดคนเดียว ไม่เหลือใครอีกแล้วจะอยู่ยังไง คุณลองเงยหน้าขึ้นมองไปรอบ ๆ ตัวสิ เพื่อนพี่น้องและคนอีกมากมายรวมถึงสัตว์เลี้ยง (บางตัว) ที่เป็นห่วงคุณอยาคบเพลิงเหล่านี้คอยเป็นแสงสว่างช่วยเหลือให้ความอบอุ่นส่องทางให้คุณยามเสียใจขาดกำลังใจต้องการที่พึ่ง ก็มักจะคิดว่าไม่เหลือใครอีกแล้วไม่มีใครอีกแล้วจะอยู่กับใครต่อไปลืมไปว่ารอบ ๆ ตัวเรายังมีคนที่รักเราห่วงเราแคร์เราเหลืออยู่อีกมาก หากลองย้อนมองกลับไปรอบ ๆ ตัว พ่อแม่พี่น้อง ที่พร้อมจะมอบให้คุณ "

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ถ้าเราลองพูดคำว่า " ความรัก " คนส่วนใหญ่ที่เป็นวัยรุ่นน่าจะคิดถึงความรักของคนหนุ่มสาวความรักของชาย - หญิงการเป็นแฟนและการแต่งงานแต่บางทีวัยรุ่นอย่างเราก็ลืมกันไปว่าความรักนั้นมีอีกมากมายหลายชนิดความรู้สึกดีๆที่มีให้แก่กันความผูกพันความอบอุ่นในหัวใจและความเป็นห่วงเป็นใยซึ่งกันและกันวันนี้ฉันได้คุยกับเพื่อนคนหนึ่งเธอเป็นสาวสวยน่ารักมองโลกในแง่ดีแต่เพิ่งเลิกกับแฟนมาก็คุยๆกันไปเป็นตัวของตัวเองอยู่เธอพูดอยู่ประโยคหนึ่งซึ่งฉันประทับใจมากเธอบอกว่าการที่สูญเสียความรักจากคนๆหนึ่งไปมันก็เป็นเรื่องที่น่าเสียใจอยู่หรอกแต่เธอได้พบว่ายังมีความรักจากคนรอบๆตัวอยู่ ( ญาติพี่น้องพ่อแม่หมาสัตว์เลี้ยง ) พวกเขายังคงรักเธอเป็นห่วงเธอด้วยใจจริงเธอบอกต่อว่าจริงๆแล้วก็ไม่น่าเสียใจด้วยซ้ำเพราะความรักความห่วงใยจากหลายๆคนที่คอยมอบให้นั้นมันมีค่ายิ่งกว่าความรักของคนเพียงคนเดียวที่ทิ้งเธอไป
พอเธอพูดจบฉันก็ปรบมือให้เลยจ้า
เป็นคำพูดที่น่าประทับใจจริงๆใช่เลย !

สมมติว่าความรักของคุณกับแฟนนั้นคือคบเพลิงอันหนึ่งที่อยู่ท่ามกลางความมืดและหนาวเหน็บคุณสองคนจุดมันขึ้นมาเพื่อใช้ส่องทางทิ้งให้คุณอยู่ในความมืดมิดคนเดียวคุณก็ร้องไห้เสียใจว่าต่อจากนี้จะไปทางไหนไม่เหลือใครอีกแล้วจะอยู่ยังไงแต่แทนที่จะก้มหน้าหน้าไห้จนไม่สนใจอย่างอื่นคุณลองเงยหน้าขึ้นมองไปรอบๆตัวสิจะเห็นว่า
. . . . . . .