New urbanism advocates for the desi

New urbanism advocates for the design of the compact, pedestrian-friendly, mixed-use developments thought to promote walking. New urbanist proponents also claim their developments incur other social and wellbeing benefits, including enhanced safety from crime; however there is limited empirical evidence supporting this. We tested the premise that new urbanism inhibits crime by examining the relationship between compliance with a planning policy based on new urbanism and: (1) residents' reports of victimisation; and (2) objective crime measures. RESIDE Participants (n = 603) who had lived in their new developments for 36 months completed a questionnaire that included items on their experiences of victimisation. Detailed measures quantifying the degree to which these developments (n = 36) complied with the policy requirements were generated in Geographic Information Systems. Logistic regression examined the associations between policy compliance and self-report victimisation, and negative binomial log-linear models examined area-level associations between compliance and objective crime. For each 10% increase in overall policy compliance, the odds of being a victim reduced by 40% (OR = 0.60, CI = 0.53–0.67, p = 0.000). Findings for the individual policy ‘elements’ were consistent with this: for each 10% increment in compliance with the community design, movement network, lot layout and public parkland elements, the odds of victimisation reduced by approximately 6% (p = 0.264), 51% (p = 0.001), 15% (p = 0.000) and 22% (p = 0.001) respectively. However, while policy compliance correlated with lower odds of self-report victimisation among residents, the associations between compliance and development-wide (objective) crime were positive but non-significant. The results indicate that planning policies based on new urbanism may indeed deliver other social and wellbeing benefits for residents, however they also hint that the design of an ‘objectively’ safe place may differ from the design of a ‘subjectively’ safe space.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

พัฒนาถนน พื urbanism ใหม่สนับสนุนสำหรับการออกแบบขนาดกะทัดรัด คิดเพื่อส่งเสริมการเดิน กุญแจ urbanist ใหม่เรียกร้องการพัฒนาของพวกเขาต้องเสียอื่น ๆ ผลประโยชน์สังคมและคุณภาพชีวิต รวมทั้งเพิ่มความปลอดภัยจากอาชญากรรม อย่างไรก็ตาม มีหลักฐานเชิงประจักษ์จำกัดสนับสนุนนี้ เราทดสอบสถานที่ตั้งที่ urbanism ใหม่ยับยั้งอาชญากรรม โดยการตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างความสอดคล้องกับนโยบายการวางแผนตาม urbanism ใหม่ และ: รายงานของผู้อยู่อาศัย (1) victimisation และ (2) อาชญากรรมวัตถุประสงค์มาตรการ ผู้ตื่น (n = 603) ที่มีอยู่ในการพัฒนาใหม่สำหรับ 36 เดือนเสร็จสมบูรณ์แบบสอบถามที่อยู่บน victimisation ประสบการณ์ของพวกเขา รายละเอียดมาตรการเชิงปริมาณระดับใดเหล่านี้พัฒนา (n = 36) ด้วยนโยบายการสร้างความต้องการในระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ ถดถอยโลจิสติกการตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างการปฏิบัติตามนโยบายและรายงานตนเอง victimisation และแบบเชิงเส้นบันทึกทวินามลบตรวจสอบพื้นที่ระดับความสัมพันธ์ระหว่างวัตถุประสงค์อาชญากรรมและการปฏิบัติ สำหรับแต่ละเพิ่มขึ้น 10% ในการปฏิบัติตามนโยบายโดยรวม อัตราต่อรองของ เหยื่อลดลง 40% (หรือ = 0.60, CI = 0.53 – 0.67, p = 0.000) ประเด็นนโยบาย 'องค์ประกอบ' ได้สอดคล้องกับ: สำหรับแต่ละเพิ่มขึ้น 10% ตามการออกแบบชุมชน เครือข่ายเคลื่อนที่ เค้ามาก และองค์ประกอบสวนสาธารณะ ราคาของ victimisation ลดลงประมาณ 6% (p = 0.264), 51% (p = 0.001), 15% (p = 0.000) และ 22% (p = 0.001) ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม ในขณะที่การปฏิบัติตามนโยบายความสัมพันธ์กับราคาต่ำกว่าของ victimisation เองรายงานระหว่างผู้อยู่อาศัย ความสัมพันธ์ระหว่างอาชญากรรมทั้งพัฒนา (วัตถุประสงค์) และปฏิบัติตามได้เป็นบวก แต่ไม่สำคัญ ผลลัพธ์บ่งชี้ว่า การวางแผนนโยบายที่อิง urbanism ใหม่อาจแน่นอนประโยชน์อื่น ๆ สังคมและสุขภาพที่ดีสำหรับผู้อยู่อาศัย อย่างไรก็ตาม พวกเขายังแย้มว่า สถานที่การออกแบบของตัว 'เป็นกลาง' ปลอดภัยอาจแตกต่างจากการออกแบบพื้นที่ปลอดภัย 'ทำจิตใจ'

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สนับสนุนวิถีชีวิตใหม่ในการออกแบบขนาดเล็กกะทัดรัดเดินเท้าเป็นมิตร, ใช้ผสมการพัฒนาความคิดที่จะส่งเสริมการเดิน ผู้เสนอ urbanist ใหม่ยังอ้างการพัฒนาของพวกเขาเกิดขึ้นทางสังคมและสุขภาพที่ดีของผลประโยชน์อื่น ๆ รวมทั้งเพิ่มความปลอดภัยจากอาชญากรรม แต่มีหลักฐานเชิงประจักษ์ จำกัด สนับสนุนนี้ เราได้ทดสอบสมมติฐานที่ว่าวิถีชีวิตใหม่ที่ช่วยยับยั้งการก่ออาชญากรรมโดยการตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างการปฏิบัติตามนโยบายการวางแผนบนพื้นฐานของวิถีชีวิตใหม่และ (1) ผู้อยู่อาศัยรายงานจากการตกเป็นเหยื่อ; และ (2) มาตรการอาชญากรรมวัตถุประสงค์ ผู้เข้าร่วมอาศัยอยู่ (n = 603) ที่อาศัยอยู่ในการพัฒนาใหม่ของพวกเขาสำหรับ 36 เดือนเสร็จแบบสอบถามที่รวมรายการในประสบการณ์ของพวกเขาเหยื่อ มาตรการเชิงปริมาณละเอียดระดับที่การพัฒนาเหล่านี้ (n = 36) ปฏิบัติตามข้อกำหนดของนโยบายที่ถูกสร้างขึ้นในระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ ถดถอยโลจิสติตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างการปฏิบัติตามนโยบายและการรายงานตนเองตกเป็นเหยื่อและลบทวินามแบบจำลองเชิงเส้นเข้าสู่ระบบตรวจสอบความสัมพันธ์ของพื้นที่ระดับระหว่างการปฏิบัติตามวัตถุประสงค์และอาชญากรรม สำหรับแต่ละเพิ่มขึ้น 10% ในการปฏิบัติตามนโยบายโดยรวม, อัตราต่อรองของการเป็นเหยื่อลดลง 40% (หรือ = 0.60, CI = 0.53-0.67, P = 0.000) ผลการวิจัยสำหรับ 'องค์ประกอบ' นโยบายของแต่ละบุคคลมีความสอดคล้องกับนี้สำหรับแต่ละเพิ่มขึ้น 10% ในการปฏิบัติด้วยการออกแบบชุมชนเครือข่ายการเคลื่อนไหวรูปแบบจำนวนมากและสวนสาธารณะองค์ประกอบอัตราต่อรองของการตกเป็นเหยื่อลดลงประมาณ 6% (p = 0.264) 51% (p = 0.001) 15% (p = 0.000) และ 22% (p = 0.001) ตามลำดับ อย่างไรก็ตามในขณะที่การปฏิบัติตามนโยบายที่มีความสัมพันธ์กับอัตราต่อรองลดลงของการรายงานตนเองตกเป็นเหยื่อในหมู่ประชาชน, ความสัมพันธ์ระหว่างการปฏิบัติตามและการพัฒนาในวงกว้าง (วัตถุประสงค์) อาชญากรรมเป็นบวก แต่ไม่ใช่อย่างมีนัยสำคัญ ผลการวิจัยพบว่านโยบายการวางแผนขึ้นอยู่กับวิถีชีวิตใหม่แน่นอนอาจส่งผลประโยชน์ทางสังคมและคุณภาพชีวิตอื่น ๆ สำหรับผู้อยู่อาศัย แต่พวกเขายังมีคำแนะนำว่าการออกแบบสถานที่ 'อคติ' ปลอดภัยอาจแตกต่างจากการออกแบบของ 'จิตใจ' พื้นที่ปลอดภัย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สนับสนุนวิถีชีวิตใหม่สำหรับการออกแบบที่กะทัดรัดของคนเดินเท้า , เป็นกันเอง , ใช้ผสมพัฒนาความคิดเพื่อส่งเสริมการเดิน ผู้เสนอ urbanist ใหม่ยังอ้างว่าพัฒนาการของพวกเขาก่อให้เกิดประโยชน์และสวัสดิการทางสังคมอื่น ๆ รวมทั้งเพิ่มความปลอดภัยจากอาชญากรรม อย่างไรก็ตามมีหลักฐานเชิงประจักษ์ จำกัด สนับสนุนนี้ เราทดสอบหลักฐานใหม่ยับยั้งอาชญากรรมวิถีชีวิตโดยการตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างความสอดคล้องกับนโยบายใหม่ตาม ( 1 ) และวิถีชีวิตชาวบ้านรายงาน victimisation ; และ ( 2 ) มาตรการผิดวัตถุประสงค์ อยู่คน ( n = 301 ) ซึ่งเคยอยู่ในการพัฒนาใหม่ของพวกเขาสำหรับ 36 เดือน แบบสอบถามที่รวมรายการในประสบการณ์ของ victimisation เรียบร้อยแล้ว รายละเอียดการวัดค่าระดับที่การพัฒนาเหล่านี้ ( 36 ) ปฏิบัติตามนโยบายของความต้องการที่ถูกสร้างขึ้นในระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ ถดถอยโลจิสติกการตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างการปฏิบัติตามนโยบาย และรายงาน victimisation และลบแบบเชิงเส้นรูปแบบเข้าสู่ระบบตรวจสอบสมาคมระดับพื้นที่ระหว่างความสอดคล้อง และผิดวัตถุประสงค์ สำหรับแต่ละ 10 % เพิ่มตามนโยบายโดยรวม โอกาสเป็นเหยื่อลดลง 40 % ( OR = 0.60 , CI = 0.53 ) 0.67 , p = 0.000 ) ข้อมูลสำหรับแต่ละนโยบาย " องค์ประกอบ " ที่สอดคล้องกับนี้สำหรับแต่ละ 10 % เพิ่มความสอดคล้องกับการออกแบบชุมชน การเคลื่อนไหวของเครือข่าย รูปแบบและองค์ประกอบสวนสาธารณะมาก โอกาสที่ victimisation ลดลงประมาณ 6 % ( p = 0.264 ) 51 เปอร์เซ็นต์ ( P = 0.001 ) 15 % ( p = 0.000 , ) และ ร้อยละ 22 ( p = 0.001 ) ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม ในขณะที่การปฏิบัติตามนโยบาย มีความสัมพันธ์กับอัตราต่อรองราคา victimisation ตนเองของประชาชน สมาคมระหว่างการปฏิบัติและการพัฒนากว้าง ( วัตถุประสงค์ ) อาชญากรรมที่เป็นบวก แต่ไม่มีนัยสำคัญ ผลการศึกษาพบว่า นโยบายการวางแผนใหม่ตามวิถีชีวิตแท้จริงอาจส่งอื่น ๆทางสังคมและคุณภาพชีวิตเพื่อประโยชน์ของประชาชน อย่างไรก็ตาม พวกเขายังเปรยว่าการออกแบบของ " อคติ " ปลอดภัยอาจแตกต่างจากการออกแบบของ " อย่าง " ปลอดภัยพื้นที่