ปัญหาการคอรัปชันในระบบการบริหารราชการแผ่นดินของประเทศไทย นับเป็นภัยคุกคามร้ายแรงที่บั่นทอนทั้งเสถียรภาพและความก้าวหน้าของสังคมและประเทศชาติ และนับวันจะทวีความรุนแรงแผ่ขยายไปในแทบทุกภาคส่วนของสังคมไทยอย่างกว้างขวาง ศาสตราจารย์ผาสุก พงษ์ไพจิตรผู้ทำงานวิจัยเกี่ยวกับการคอร์รัปชันแสดงความเห็นว่า ปัญหาการคอร์รัปชันในประเทศไทย มักเกิดขึ้นภายใต้การปกครองที่รวมศูนย์อำนาจ และระบบที่ข้าราชารเป็นใหญ่ ซึ่งกลายเป็นระบบที่ขาดการตรวจสอบ ดังนั้น การแก้ปัญหาคอร์รัปชันด้วยระบบที่เป็นเผด็จการ มีแต่จะทำให้ปัญหาคอร์รัปชันเลวร้ายลง
ในขณะที่ วสันต์ ภัยหลีกลี้ ผู้อำนวยการสถาบันต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันกล่าวว่า แนวทางและมาตรการในการแก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันในส่วนที่เกี่ยวข้องกับสภาปฏิรูปแห่งชาตินั้นได้นำเสนอแนวทางที่เรียกว่า‘ยุทธศาสตร์ 3 ป’ คือ ปลูกฝัง ป้องกัน ปราบปราม โดยการปลูกฝัง สร้างให้คนมีจริยธรรม ศีลธรรม มีความซื่อสัตย์สุจริต
ป้องกันโดยการปรับปรุงในหลายมาตรการ เช่น ลดการใช้ดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ ทำให้การเรียกค่าน้ำร้อนน้ำชา หรือเงินใต้โต๊ะลดน้อยลงไป
ปราบปรามโดยให้ ควรมีศาลคดีทุจริต หรือแผนกคดีทุจริตในศาลอาญาขึ้น เพื่อทำหน้าที่ตัดสินคดีทุจริตของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือผู้ที่อยู่ในองค์กรอิสระโดยเฉพาะ และนำคนผิดมาลงโทษให้ได้