The ongoing changes to the Earth’s

The ongoing changes to the Earth’s climate will have far reaching effects on the future availability of freshwater resources. Here are five ways climate change will affect the world’s freshwater resources.

Rising Sea Level
According to the United States Environmental Protection Agency, rising sea levels can turn coastal aquifers into saltwater and cause problems for the local water infrastructure (this is known as saltwater intrusion). An example is the Biscayne aquifer that supplies water to the Florida Keys. Rising sea levels would add saltwater to the Biscayne aquifer, making it saline.

Increasing Droughts
According to NASA climate modeling, the increasing temperature will make a megadrought highly likely in the Southwest before the end of the century. The researchers estimate a 80% chance that there will be a drought spanning multiple decades in the Southwestern United States which would cause devastating shortages in freshwater supplies.

Changes in Snowfall/Rainfall
Increased temperatures result in decreased snowfall in the mountains which lead to less freshwater flow to rivers. The California snow pack is already at the lowest levels on record and this has put significant stress on the state’s reservoirs. Higher temperatures also lead to increased evaporation which means more water in the atmosphere and less rainfall in some areas. Climate models predict a strengthening of existing precipitation patterns, meaning dry areas will get drier.

Extreme Rainfall
Climate change is projected to increase major storms and flooding especially in the Midwest and Northeast. Flooding can damage the water infrastructure that treats and distributes freshwater. It can also overflow sewer systems and cause rivers to come in contact with pollutants, both which can contaminate freshwater resources.

Melting Glaciers
Since glaciers provide a major source of freshwater, shrinking glaciers will reduce the availability to accessible freshwater. Scientists at a meeting of the American Geophysical Union said that glaciers in parts of the Canadian Rockies will shrink to 5 to 20 percent of their current size. Glaciers are like reservoirs that store water in the winter and release it in the summer. They currently store about 69% of the world’s freshwater. More than one-sixth of the world population relies on glaciers and seasonal snow packs for water resources. If all land ice melted, the sea level would rise 230 feet globally.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างต่อเนื่องเพื่อโลกจะได้ไกลถึงผลกระทบต่อความพร้อมในอนาคตของทรัพยากรน้ำจืด ที่นี่ห้าวิธีเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจะส่งผลกระทบต่อทรัพยากรน้ำจืดของโลก. มีเพิ่มขึ้นระดับน้ำทะเลตามที่หน่วยงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเลสามารถเปิดชั้นหินอุ้มน้ำชายฝั่งทะเลเข้าไปในน้ำเค็มและทำให้เกิดปัญหาสำหรับโครงสร้างพื้นฐานน้ำในท้องถิ่น (นี้เป็นที่รู้จักกันการรุกของน้ำเค็ม) . ตัวอย่างคือน้ำแข็งบิสเคย์ที่ให้น้ำฟลอริดาคีย์ ที่เพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเลจะเพิ่มน้ำเค็มกับบิสเคย์น้ำแข็งทำให้น้ำเกลือ. เพิ่มขึ้นภัยแล้งตามที่การสร้างแบบจำลองสภาพภูมิอากาศของนาซาอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นจะทำให้ megadrought มีแนวโน้มสูงในภาคตะวันตกเฉียงใต้ก่อนสิ้นศตวรรษนี้ นักวิจัยคาดว่ามีโอกาส 80% ที่จะมีภัยแล้งทอดหลายทศวรรษที่ผ่านมาในทิศตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกาซึ่งจะทำให้เกิดการขาดแคลนทำลายล้างในวัสดุสิ้นเปลืองน้ำจืด. การเปลี่ยนแปลงในปริมาณฝน / เพิ่มอุณหภูมิส่งผลให้ปริมาณลดลงในภูเขาที่นำไปสู่การไหลของน้ำจืดน้อย แม่น้ำ แพ็คหิมะแคลิฟอร์เนียอยู่แล้วที่ระดับต่ำสุดในบันทึกนี้และได้ใส่ความเครียดอย่างมีนัยสำคัญในอ่างเก็บน้ำของรัฐ อุณหภูมิที่สูงขึ้นยังนำไปสู่การระเหยเพิ่มขึ้นซึ่งหมายความว่าน้ำมากขึ้นในชั้นบรรยากาศและปริมาณน้ำฝนน้อยกว่าในบางพื้นที่ แบบจำลองภูมิอากาศคาดการณ์เสริมสร้างความเข้มแข็งของรูปแบบการตกตะกอนที่มีอยู่หมายถึงพื้นที่แห้งจะได้รับแห้ง. มากฝนเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นที่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นพายุใหญ่และน้ำท่วมโดยเฉพาะอย่างยิ่งในมิดเวสต์และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ น้ำท่วมสามารถสร้างความเสียหายโครงสร้างพื้นฐานน้ำที่ปฏิบัติและจัดจำหน่ายน้ำจืด นอกจากนี้ยังสามารถล้นระบบท่อน้ำทิ้งและก่อให้เกิดแม่น้ำที่จะมาสัมผัสกับสารมลพิษทั้งสองซึ่งสามารถปนเปื้อนทรัพยากรน้ำจืด. ธารน้ำแข็งละลายเนื่องจากธารน้ำแข็งให้เป็นแหล่งน้ำจืดที่สำคัญของการหดตัวของธารน้ำแข็งจะช่วยลดความพร้อมที่จะสามารถเข้าถึงน้ำจืด นักวิทยาศาสตร์ในที่ประชุมของสมาคมฟิสิกส์อเมริกันกล่าวว่าธารน้ำแข็งในส่วนของแคนาดาร็อกกี้จะหดตัวถึง 5 ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ของขนาดปัจจุบันของพวกเขา ธารน้ำแข็งเป็นเช่นอ่างเก็บน้ำที่เก็บน้ำในช่วงฤดูหนาวและปล่อยมันในช่วงฤดูร้อน พวกเขากำลังเก็บประมาณ 69% ของน้ำจืดของโลก มากกว่าหนึ่งในหกของประชากรโลกอาศัยอยู่กับธารน้ำแข็งและหิมะแพ็คตามฤดูกาลสำหรับทรัพยากรน้ำ หากทุกดินแดนน้ำแข็งละลายระดับน้ำทะเลจะเพิ่มขึ้น 230 ฟุตทั่วโลก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การเปลี่ยนแปลงไปของโลกอย่างต่อเนื่อง บรรยากาศจะได้ไกลถึงผลกระทบต่อความพร้อมของทรัพยากรปลาในอนาคต ที่นี่ห้าวิธีที่ภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงจะส่งผลกระทบต่อทรัพยากรน้ำจืดของโลกจากระดับน้ำทะเลตามที่สหรัฐอเมริกาหน่วยงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อม , ระดับน้ําทะเลเพิ่มขึ้นสามารถเปลี่ยนชั้นชายฝั่งเป็นปัญหาน้ำและสาเหตุของโครงสร้างพื้นฐานน้ำท้องถิ่น ( นี้จะเรียกว่าน้ำเค็มบุกรุก ) ตัวอย่างคือ น้ำที่ส่งน้ำ บิสเคย์นฟลอริด้าคีย์ ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นจะเพิ่มเกลือเพื่อ Biscayne น้ำแข็งทำให้มันเค็มเพิ่มแล้งตามแบบจำลองสภาพภูมิอากาศของนาซา การเพิ่มอุณหภูมิจะทำให้ megadrought มีแนวโน้มสูงในทิศตะวันตกเฉียงใต้ก่อนสิ้นศตวรรษ นักวิจัยประมาณ 80% โอกาสที่จะมีภัยแล้งครอบคลุมหลายทศวรรษในสหรัฐอเมริกาซึ่งทำให้แรงในวัสดุขาดแคลนน้ำจืด .การเปลี่ยนแปลงในหิมะ / ฝนเพิ่มอุณหภูมิผลทำให้หิมะตกในภูเขาซึ่งนำไปสู่น้อยกว่าน้ำจืดไหลแม่น้ำ แคลิฟอร์เนียหิมะแพ็คอยู่ในระดับต่ำสุดในบันทึกนี้และได้วางความเครียดที่สำคัญในรัฐของอ่างเก็บน้ำ อุณหภูมิที่สูงขึ้นยังทำให้การระเหยน้ำเพิ่มขึ้น ซึ่งหมายความว่า ในบรรยากาศ และมีฝนตกน้อยในบางพื้นที่ แบบจำลองภูมิอากาศทำนายรูปแบบการสร้างความเข้มแข็งของเดิม หมายถึง บริเวณที่แห้งจะได้แห้งปริมาณน้ำฝนมากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นพายุใหญ่และน้ำท่วม โดยเฉพาะในมิดเวสต์และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ น้ำท่วมทำลายโครงสร้างพื้นฐานน้ำที่ถือว่า และกระจายน้ำจืด . มันยังล้นระบบท่อระบายน้ำและทำให้แม่น้ำเข้ามาติดต่อกับมลพิษ ทั้งที่สามารถปนเปื้อนทรัพยากรปลาน้ำจืดละลายธารน้ำแข็งเนื่องจากธารน้ำแข็งให้แหล่งที่มาของน้ำจืดธารน้ำแข็งหดตัวจะลดความพร้อมที่จะเข้าถึงน้ำจืด . นักวิทยาศาสตร์ในที่ประชุมของสหภาพธรณีฟิสิกส์อเมริกันกล่าวว่า ธารน้ำแข็งในส่วนของเทือกเขาร็อกกี้ของแคนาดาจะหด 5 ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ของขนาดปัจจุบันของพวกเขา ธารน้ำแข็งเป็นแหล่งที่จัดเก็บน้ำในฤดูหนาว และปล่อยในช่วงฤดูร้อน พวกเขาขณะนี้ร้านประมาณ 69% ของน้ำจืดของโลก . มากกว่าหนึ่งในหกของประชากรโลกอาศัยธารน้ำแข็งและหิมะตามฤดูกาลสำหรับบรรจุน้ำ ถ้าโลกน้ำแข็งละลาย ระดับน้ำทะเลจะสูงขึ้น 230 ฟุต ทั่วโลก