Phosphorus CyclePhosphorus is an es

Phosphorus Cycle
Phosphorus is an essential mineral nutrient for all plants and animals. Phosphorus forms the ions the of phosphates and hydrogen phosphates. These phosphates are important parts of DNA molecules and are also a part of energy storing molecules like the ATP and ADP and also fat molecules of the cell membranes. Phosphorus is also a building block of certain parts like bones and teeth in humans and animals.
The phosphorus cycle is defined as the biogeochemical cycle which describes the movement of phosphorus through the spheres of the ecosystem that is through lithosphere, hydrosphere and biosphere. Atmosphere does not have an important role in the phosphorus cycle as phosphorus and phosphorus based compounds are usually in solid form in typical temperature range.

The role of phosphorus in animals and plants
Phosphorus is an essential nutrient for animals and plants. It plays a critical role in cell development and is a key component of molecules that store energy, such as ATP (adenosine triphosphate), DNA and lipids (fats and oils). Insufficient phosphorus in the soil can result in a decreased crop yield.



The phosphorus cycle process is as follows:
• The phosphorus enters the soil and water through the weathering of rocks.
• Plants take in these phosphorus ions from the soil.
• The phosphates are then transferred from plants to herbivores animals.
• These herbivores animals are eaten by carnivores.
• The phosphates that are absorbed by the animals are returned to the soil through excretion and from decomposition of plants and dead material by microbes.
• The dead plant materials and other waste products are decayed through the action of bacteria.
• The phosphate is released out to the environment by this process.
• The phosphate in the soil is leached out or eroded into water.
• The water is again utilized by algae and plants as nutrients
The lack of phosphate results in slow growing or stunted plant growth. If there is more of phosphate in the plant, there is excess growth seen in the some algae

Most phosphorus is unavailable to plants
Since most of our phosphorus is locked up in sediments and rocks, it’s not available for plants to use. A lot of the phosphorus in soils is also unavailable to plants.
Soil phosphorus becomes unavailable to plants through several routes:
• Bacteria: Bacteria convert plant-available phosphate into organic forms that are then not available to plants. Although other bacteria make phosphate available by mineralisation, the contribution of this is small.
• Adsorption: Inorganic (and available) phosphorus can be chemically bound (adsorbed) to soil particles, making it unavailable to plants. Desorption is the release of adsorbed phosphorus from its bound state into soil solution.
• pH: Inorganic phosphorus compounds need to be soluble to be taken up by plants. This depends on the acidity (pH) of the soil. If soils are less than pH 4 or greater than pH 8, the phosphorus starts to become tied up with other compounds, making it less available to plants.

Phosphate fertilisers replenish soil phosphorus
Many farmers replenish phosphorus through the use of phosphate fertilisers. The phosphorus is obtained by mining deposits of rock phosphate. Locally produced sulfuric acid is used to convert the insoluble rock phosphate into a more soluble and usable form – a fertiliser product called superphosphate.


Water pollution
Phosphates are effective fertilizers, but they also cause pollution problems in lakes streams. Because phosphorus is often the nutrient in limited supply, even a small increase in availability can cause a significant effect. Over-enrichment of phosphate can lead to algae blooms. This excess of algae causes increased consumption by bacteria, which then leads to even higher bacterial concentrations. In the process the bacteria use up much of the dissolved oxygen in the water during cellular respiration and thereby cause the death of fish due to oxygen deprivation.
Human Impact
• Human impacts on the phosphorus cycle are from the introduction of synthetic fertilizers.
• Plants may not be able to use the phosphate in the form of fertilizers; most of the nutrients is lost through water run-off.
• The phosphate present in the water sediments at bottom of water body.
• Manure when applied to the frozen ground most of it will be lost during the spring thaw.
• In certain large feed application, it may result in excessive run-off of phosphate into streams.
• Other source of phosphates due to human activity is the out flow from sewage plants.
• The phosphate from the sewage is not removed, if it is not treated and extra amount of phosphate enters the water body.

Interesting Phosphorus Cycle Facts:
• The element phosphorous was discovered in 1669 by Hennig Brand in Germany.
• Once phosphorus gets lost during runoff, it remains lost from the cycle forever.
• Phosphorus is essential for plant growth.
• Phosphorus can most likely be found underground in soil and rocks.
• When too much phosphorus containing fertilizer is washed into the ocean, it causes an increase in algae growth called an algae bloom.
• After rocks break down underground, phosphorus is usually released and absorbed by plants.
• Once an animal or plant dies and decays, phosphorus is returned to the ground.
• Once phosphorus enters a plant or animal, it moves through the organism very quickly.
• Phosphorus is responsible for holding DNA together.
• Animals receive phosphorus directly by eating plants or indirectly by eating plant eating animals.
• If released phosphorus from marine animals becomes part of the underwater sediment, it may remain there forever.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วัฏจักรฟอสฟอรัสฟอสฟอรัสเป็นสารแร่จำเป็นสำหรับพืชและสัตว์ทั้งหมด ฟอสฟอรัสแบบประจุการไฮโดรเจนฟอสเฟตและฟอสเฟต ฟอสเฟตเหล่านี้มีส่วนสำคัญของโมเลกุลดีเอ็นเอ และเป็นส่วนหนึ่งของพลังงานที่เก็บโมเลกุล ATP และ ADP และโมเลกุลไขมันของเยื่อหุ้มเซลล์ ฟอสฟอรัสเป็นกลุ่มอาคารบางชิ้นเช่นกระดูกและฟันมนุษย์และสัตว์ วัฏจักรฟอสฟอรัสถูกกำหนดเป็นตัวชีวธรณีเคมีซึ่งอธิบายถึงการเคลื่อนที่ของฟอสฟอรัสผ่านท้องถิ่นของระบบนิเวศที่เป็นธรณีภาค hydrosphere และชีวบริเวณ บรรยากาศไม่ได้มีบทบาทสำคัญในวัฏจักรฟอสฟอรัสเป็นฟอสฟอรัส และสารประกอบฟอสฟอรัสที่ใช้มักอยู่ในฟอร์มของแข็งในอุณหภูมิปกติ บทบาทของฟอสฟอรัสในพืชและสัตว์ฟอสฟอรัสเป็นธาตุอาหารจำเป็นสำหรับสัตว์และพืช มันมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาของเซลล์ และเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของโมเลกุลที่เก็บพลังงาน เช่น ATP (อะดีโนซีนไตรฟอสเฟต), ดีเอ็นเอและโครงการ (ไขมันและน้ำมัน) ฟอสฟอรัสในดินไม่เพียงพออาจส่งผลกับผลผลิตพืชลดลง กระบวนการวัฏจักรของฟอสฟอรัสจะเป็นดังนี้: •ฟอสฟอรัสใส่ดินและน้ำ โดยสภาพอากาศของหิน •พืชใช้ในการประจุเหล่านี้ฟอสฟอรัสจากดิน •ฟอสเฟตแล้วโอนย้ายจากพืชสู่สัตว์ herbivores • Herbivores สัตว์เหล่านี้จะกิน โดย carnivores •ฟอสเฟตที่ถูกดูดซึม โดยสัตว์จะถูกส่งกลับในดิน ผ่านการขับถ่าย และแยกส่วนประกอบของพืชและวัสดุการตาย โดยจุลินทรีย์ •วัสดุพืชที่ตายแล้วและของเสียอื่น ๆ จะผุผ่านการกระทำของแบคทีเรีย•ฟอสเฟตที่ปล่อยออกสู่สิ่งแวดล้อมโดยกระบวนการนี้•ฟอสเฟตในดิน leached ออก หรือกัดเซาะลงไปในน้ำ •อีกครั้งมีใช้น้ำ โดยสาหร่ายและพืชเป็นอาหารการขาดฟอสเฟตผลช้าเจริญเติบโต หรือแคระการเจริญเติบโตของพืช ถ้ามีฟอสเฟตในโรงงานมากขึ้น มีการเติบโตเกินที่เห็นในสาหร่ายบาง ฟอสฟอรัสส่วนใหญ่พร้อมกับพืชเนื่องจากฟอสฟอรัสของเราส่วนใหญ่จะถูกล็อคขึ้นในตะกอนและหิน มันไม่มีสำหรับพืชใช้ ของฟอสฟอรัสในดินเนื้อปูนยังไม่สามารถทำได้กับพืชฟอสฟอรัสในดินจะไม่พร้อมใช้งานพืชผ่านหลายเส้นทาง:•แบคทีเรีย: แบคทีเรียแปลงพืชมีฟอสเฟตในรูปแบบเกษตรอินทรีย์ที่มีแล้วไม่ให้พืช แม้ว่าแบคทีเรียอื่น ๆ ทำให้ฟอสเฟตพร้อม ด้วย mineralisation ส่วนนี้จะมีขนาดเล็ก•ดูดซับ: ฟอสฟอรัสอนินทรีย์ (และใช้) สามารถถูกสารเคมีกับ (adsorbed) อนุภาคดิน ทำให้ไม่สามารถใช้กับพืชได้ Desorption เป็นการเปิดตัวของฟอสฟอรัส adsorbed จากสถานะที่ถูกผูกไว้ไปแก้ปัญหาดิน• pH: สารประกอบอนินทรีย์ฟอสฟอรัสที่จำเป็นต้องละลายน้ำควรขึ้น โดยพืช นี้ขึ้นอยู่กับมี (pH) ของดิน ถ้าดินเนื้อปูนน้อยกว่าค่า pH 4 หรือสูงกว่าค่า pH 8 ฟอสฟอรัสเริ่มจะกลายเป็นติดกับสารประกอบอื่น ทำให้น้อยมีพืช ปุ๋ยฟอสเฟตเติมฟอสฟอรัสดินเกษตรกรจำนวนมากเติมฟอสฟอรัสโดยใช้ปุ๋ยฟอสเฟต ฟอสฟอรัสได้รับจากเงินฝากทำเหมืองแร่ของหินฟอสเฟต กรดกำมะถันที่ผลิตในท้องถิ่นใช้แปลงละลายหินฟอสเฟตละลายน้ำได้มากขึ้น และใช้งานได้แบบสินค้า fertiliser ที่เรียกว่า superphosphate มลพิษทางน้ำฟอสเฟตเป็นปุ๋ยที่มีประสิทธิภาพ แต่พวกเขายังทำให้เกิดปัญหามลพิษในทะเลสาบลำธาร เนื่องจากฟอสฟอรัสเป็นธาตุอาหารที่ในซัพพลายจำกัด ได้เพิ่มขนาดเล็กในความพร้อมอาจทำให้เกิดผลอย่างมีนัยสำคัญ โดดเด่นมากกว่าของฟอสเฟตอาจทำให้สาหร่ายบลูมส์ เกินนี้ของสาหร่ายทำให้ปริมาณการใช้เพิ่มขึ้น โดยแบคทีเรีย ซึ่งนำไปสู่ความเข้มข้นสูงที่เชื้อแบคทีเรียแล้ว ในกระบวนการ แบคทีเรียใช้ค่าของปริมาณออกซิเจนที่ละลายในน้ำระหว่างมือหายใจ และจึงทำให้เกิดการตายของปลาเนื่องจากภาวะขาดออกซิเจนผลกระทบต่อมนุษย์•ผลกระทบต่อมนุษย์ในวัฏจักรฟอสฟอรัสจากการแนะนำปุ๋ยที่สังเคราะห์ได้ •พืชอาจไม่สามารถใช้ฟอสเฟตในรูปของปุ๋ย ส่วนใหญ่สารอาหารจะหายไปผ่านน้ำ run-off •ฟอสเฟตอยู่ในตะกอนน้ำที่ด้านล่างของร่างกายน้ำ •มูลเมื่อใช้กับพื้นน้ำแข็งส่วนใหญ่จะหายไปในระหว่าง thaw สปริง •ในโปรแกรมอาหารขนาดใหญ่ อาจส่งผล run-off ของฟอสเฟตที่มากเกินไปในกระแสข้อมูล •แหล่งอื่นของฟอสเฟตเนื่องจากกิจกรรมของมนุษย์เป็นการไหลออกจากน้ำเสียโรงงาน •ฟอสเฟตจากน้ำเสียจะไม่ถูกลบ ถ้าจะไม่ถือว่าจำนวนฟอสเฟตเสริมเข้าสู่ร่างกายน้ำไป สนใจฟอสฟอรัสรอบข้อเท็จจริง:•องค์ประกอบ phosphorous ถูกค้นพบใน 1669 โดยแบรนด์ Hennig ในเยอรมนี•เมื่อฟอสฟอรัสจะสูญหายไประหว่างที่ไหลบ่า ยังคงสูญหายจากวงจรตลอดไป•ฟอสฟอรัสเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตของพืช•ฟอสฟอรัสสามารถจะพบดินในดินและหิน•เมื่อฟอสฟอรัสมากเกินไปประกอบด้วยปุ๋ยเป็นน้ำล้างใน จะเกิดเพิ่มขึ้นในเรียกว่าบลูมมีสาหร่ายเจริญเติบโตของสาหร่าย•หลังจากแบ่งหินลงใต้ดิน ฟอสฟอรัสมักออก และดูดซึม โดยพืช•เมื่อสัตว์หรือพืชตาย และ decays ฟอสฟอรัสจะถูกส่งกลับไปพื้นดิน•เมื่อป้อนฟอสฟอรัสพืชหรือสัตว์ มันเคลื่อนที่ผ่านสิ่งมีชีวิตที่ได้อย่างรวดเร็ว•ฟอสฟอรัสมีหน้าที่ในการเก็บดีเอ็นเอด้วยกัน•สัตว์ที่รับฟอสฟอรัสโดยตรง โดยการกินพืช หรือโดยทางอ้อม ด้วยการกินพืชกินสัตว์•ถ้าปล่อยฟอสฟอรัสจากสัตว์ทะเลเป็น ส่วนหนึ่งของตะกอนใต้น้ำ มันอาจยังคงมีตลอดไป

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ฟอสฟอรัสวัฏจักรฟอสฟอรัสเป็นแร่ธาตุอาหารที่จำเป็นสำหรับพืชและสัตว์
ฟอสฟอรัสในรูปแบบของไอออนฟอสเฟตและฟอสเฟตไฮโดรเจน ฟอสเฟตเหล่านี้เป็นส่วนที่สำคัญของโมเลกุล DNA และยังเป็นส่วนหนึ่งของการจัดเก็บพลังงานโมเลกุลเช่นเอทีพีและ ADP และโมเลกุลของไขมันของเยื่อหุ้มเซลล์ ฟอสฟอรัสนอกจากนี้ยังมีการสร้างบล็อกของชิ้นส่วนบางอย่างเช่นกระดูกและฟันในคนและสัตว์.
วัฏจักรฟอสฟอรัสที่ถูกกำหนดให้เป็นรอบ biogeochemical ซึ่งอธิบายการเคลื่อนไหวของฟอสฟอรัสผ่านทรงกลมของระบบนิเวศที่ผ่านเปลือกโลกอุทกและชีวมณฑลที่ บรรยากาศไม่ได้มีบทบาทสำคัญในวงจรฟอสฟอรัสฟอสฟอรัสและฟอสฟอรัสสารประกอบที่ใช้มักจะอยู่ในรูปแบบที่มั่นคงในช่วงอุณหภูมิปกติ. บทบาทของฟอสฟอรัสในสัตว์และพืชฟอสฟอรัสเป็นสารอาหารที่จำเป็นสำหรับพืชและสัตว์ มันมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาของเซลล์และเป็นองค์ประกอบสำคัญของโมเลกุลที่เก็บพลังงานเช่น ATP (adenosine triphosphate) ดีเอ็นเอและไขมัน (ไขมันและน้ำมัน) ฟอสฟอรัสไม่เพียงพอในดินอาจส่งผลให้ผลผลิตลดลง. กระบวนการวัฏจักรฟอสฟอรัสจะเป็นดังนี้:. •ฟอสฟอรัสเข้าไปในดินและน้ำผ่านการผุกร่อนของหิน•พืชใช้เวลาในการเหล่านี้ไอออนฟอสฟอรัสจากดิน. •ฟอสเฟตที่มี จากนั้นก็ย้ายจากพืชสัตว์สัตว์กินพืช. •สัตว์กินพืชสัตว์เหล่านี้จะถูกกินโดยสัตว์กินเนื้อ. •ฟอสเฟตที่ถูกดูดซึมโดยสัตว์ที่จะถูกส่งกลับไปยังดินผ่านการขับถ่ายและการย่อยสลายของพืชและวัสดุตายโดยจุลินทรีย์. •วัสดุพืชที่ตายแล้วและ ของเสียอื่น ๆ จะผุผ่านการกระทำของแบคทีเรีย. •ฟอสเฟตจะถูกปล่อยออกออกไปยังสภาพแวดล้อมโดยกระบวนการนี้. •ความฟอสเฟตในดินถูกชะล้างออกหรือกัดเซาะลงไปในน้ำ. •น้ำถูกนำมาใช้อีกครั้งโดยสาหร่ายและพืชเป็นสารอาหารการขาดผลฟอสเฟตในการเจริญเติบโตช้าหรือเจริญเติบโตของพืชแคระแกรน หากมีมากขึ้นของฟอสเฟตในโรงงานที่มีการเจริญเติบโตเกินกว่าที่เห็นในสาหร่ายบางฟอสฟอรัสส่วนใหญ่ไม่สามารถใช้งานกับพืชเนื่องจากส่วนใหญ่ของฟอสฟอรัสของเราจะถูกขังไว้ในตะกอนและก้อนหินก็ไม่สามารถใช้ได้กับพืชที่จะใช้ จำนวนมากของฟอสฟอรัสในดินที่ยังไม่สามารถใช้ได้กับพืช. ฟอสฟอรัสในดินกลายเป็นไม่สามารถใช้ได้กับพืชผ่านหลายเส้นทาง: แบคทีเรีย•: แบคทีเรียแปลงฟอสเฟตพืชที่มีอยู่ในรูปแบบเกษตรอินทรีย์ที่มีแล้วไม่สามารถใช้ได้กับพืช แม้ว่าเชื้อแบคทีเรียอื่น ๆ ทำให้ฟอสเฟตแร่ใช้ได้โดยการมีส่วนร่วมในครั้งนี้มีขนาดเล็ก. •การดูดซับ: นินทรีย์ (และมี) ฟอสฟอรัสสามารถผูกพันทางเคมี (ดูดซับ) อนุภาคดินทำให้มันไม่สามารถใช้ได้กับพืช คายเป็นรุ่นของฟอสฟอรัสดูดซับจากรัฐผูกพันของตนลงในสารละลายดิน. •ค่า pH: สารประกอบของฟอสฟอรัสนินทรีย์จะต้องมีการละลายน้ำที่จะนำขึ้นมาจากพืช นี้ขึ้นอยู่กับความเป็นกรด (pH) ของดิน ถ้าดินมีน้อยกว่าค่า pH 4 หรือสูงกว่าค่า pH 8 ฟอสฟอรัสเริ่มที่จะกลายเป็นที่เชื่อมโยงกับสารอื่น ๆ ทำให้สามารถใช้ได้กับพืชน้อย. ปุ๋ยฟอสเฟตเติมฟอสฟอรัสในดินเกษตรกรจำนวนมากเติมฟอสฟอรัสผ่านการใช้ปุ๋ยฟอสเฟต ฟอสฟอรัสจะได้รับเงินฝากจากการทำเหมืองหินฟอสเฟต ในประเทศที่ผลิตกรดกำมะถันจะใช้ในการแปลงหินฟอสเฟตที่ไม่ละลายน้ำในรูปแบบที่ละลายน้ำได้มากขึ้นและสามารถใช้งานได้ - ผลิตภัณฑ์ปุ๋ยที่เรียกว่า superphosphate. มลพิษทางน้ำฟอสเฟตเป็นปุ๋ยที่มีประสิทธิภาพ แต่พวกเขายังก่อให้เกิดปัญหามลพิษในลำธารทะเลสาบ เพราะฟอสฟอรัสมักจะเป็นสารอาหารในการจัดหาที่ จำกัด แม้จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในความพร้อมสามารถก่อให้เกิดผลกระทบอย่างมาก มากกว่าการเพิ่มคุณค่าของฟอสเฟตสามารถนำไปสู่บุปผาสาหร่าย ส่วนที่เกินจากสาเหตุสาหร่ายนี้การบริโภคที่เพิ่มขึ้นจากเชื้อแบคทีเรียซึ่งจะนำไปสู่ความเข้มข้นแม้แบคทีเรียที่สูงขึ้น ในการที่แบคทีเรียใช้มากขึ้นของออกซิเจนที่ละลายในน้ำในระหว่างการหายใจของเซลล์และจึงทำให้เกิดการตายของปลาเนื่องจากการกีดกันออกซิเจน. ผลกระทบต่อความมั่นคงของมนุษย์•ผลกระทบต่อความมั่นคงของมนุษย์ในวัฏจักรฟอสฟอรัสมาจากการแนะนำของปุ๋ยสังเคราะห์. •พืชอาจ ไม่สามารถที่จะใช้ฟอสเฟตในรูปแบบของปุ๋ย; ที่สุดของสารอาหารที่จะหายไปผ่านน้ำวิ่งออก. •ความฟอสเฟตอยู่ในตะกอนน้ำที่ด้านล่างของร่างกายน้ำ. •ปุ๋ยเมื่อนำไปใช้กับพื้นดินที่แข็งที่สุดของมันจะหายไปในระหว่างการละลายในฤดูใบไม้ผลิ. •ในอาหารที่มีขนาดใหญ่บางอย่าง แอพลิเคชันก็อาจส่งผลให้เกิดมากเกินไปวิ่งออกฟอสเฟตลงไปในลำธาร. •แหล่งอื่น ๆ ของฟอสเฟตเนื่องจากกิจกรรมของมนุษย์มีการไหลออกจากโรงบำบัดน้ำเสีย. •ฟอสเฟตจากน้ำเสียที่ไม่ได้เอาออกหากยังไม่ได้รับการรักษาและเงินพิเศษ ฟอสเฟตเข้าสู่ร่างกายน้ำ. ที่น่าสนใจข้อเท็จจริงวัฏจักรฟอสฟอรัส: •ธาตุฟอสฟอรัสที่ถูกค้นพบใน 1669 โดยหนิกยี่ห้อในประเทศเยอรมนี. •เมื่อฟอสฟอรัสได้รับหายไปในช่วงที่ไหลบ่าก็ยังคงหายไปจากวงจรตลอดไป. •ฟอสฟอรัสเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเติบโตของพืช•ฟอสฟอรัสส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่สามารถพบได้ในดินดินและหิน. •เมื่อฟอสฟอรัสมากเกินไปมีปุ๋ยก็จะถูกชะล้างลงไปในทะเลจะทำให้เพิ่มขึ้นในการเจริญเติบโตของสาหร่ายที่เรียกว่าบานสาหร่าย. •หลังจากหินทำลายลงใต้ดินฟอสฟอรัสถูกปล่อยออกมาและมักจะ ดูดซึมโดยพืช. •เมื่อสัตว์หรือพืชตายและสูญสลายฟอสฟอรัสจะถูกส่งกลับไปยังพื้นดิน. •เมื่อฟอสฟอรัสเข้าไปในพืชหรือสัตว์ที่มันเคลื่อนผ่านสิ่งมีชีวิตได้อย่างรวดเร็ว. •ฟอสฟอรัสเป็นผู้รับผิดชอบสำหรับการถือครองดีเอ็นเอด้วยกัน. •สัตว์ได้รับ ฟอสฟอรัสโดยตรงโดยการกินพืชหรือโดยอ้อมจากการกินพืชกินสัตว์. •หากฟอสฟอรัสปล่อยออกมาจากสัตว์ทะเลจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของตะกอนใต้น้ำก็อาจจะยังคงอยู่ที่นั่นตลอด

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วัฏจักรฟอสฟอรัสเป็นธาตุอาหารฟอสฟอรัส
แร่ธาตุสำหรับพืชและสัตว์ ฟอสฟอรัสในรูปแบบไอออนของสารประกอบฟอสเฟตและไฮโดรเจนฟอสเฟต . ฟอสเฟตเหล่านี้เป็นชิ้นส่วนสำคัญของดีเอ็นเอของโมเลกุล และยังเป็นส่วนหนึ่งของพลังงานเก็บโมเลกุล ATP ADP และยังชอบและโมเลกุลของไขมันของเยื่อหุ้มเซลล์ฟอสฟอรัสเป็นบล็อกอาคารของชิ้นส่วนบางอย่าง เช่น กระดูกและฟันของมนุษย์และสัตว์
วัฏจักรฟอสฟอรัส หมายถึงวัฏจักรชีวธรณีเคมีซึ่งอธิบายถึงการเคลื่อนที่ของฟอสฟอรัสผ่านทรงกลมของระบบนิเวศที่ผ่านเปลือกโลกอุทกภาคและชีวภาค , .บรรยากาศที่ไม่มีบทบาทสำคัญในวัฏจักรฟอสฟอรัสฟอสฟอรัสและฟอสฟอรัสเป็นสารมักจะใช้ในรูปแบบของแข็งในอุณหภูมิปกติ

บทบาทของฟอสฟอรัสในพืชและสัตว์ ฟอสฟอรัสเป็นธาตุอาหารที่จำเป็น
สำหรับพืชและสัตว์ มันมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเซลล์และโมเลกุลที่เป็นองค์ประกอบสำคัญของพลังงานที่จัดเก็บเช่น เอทีพี ( อะดีโนซีนไตรฟอสเฟต ) , ดีเอ็นเอและไขมัน ( ไขมันและน้ำมัน ) ฟอสฟอรัสในดินไม่เพียงพอได้ผลในการลดผลผลิต .



ฟอสฟอรัสวงจรกระบวนการดังต่อไปนี้ :
- ฟอสฟอรัสในดินและน้ำผ่านดินหิน
พืช - ใช้ประจุฟอสฟอรัสจากดิน
- ฟอสเฟตนั้นจะถูกโอนจากพืชกับพืชสัตว์
- สัตว์กินสัตว์กินพืชเหล่านี้ .
- ฟอสเฟตที่ถูกดูดซึม โดยสัตว์จะกลับคืนสู่ดินผ่านการขับถ่ายและจากการสลายตัวของพืชที่ตายแล้วและวัสดุ โดยจุลินทรีย์
- วัสดุพืชตาย และผลิตภัณฑ์อื่น ๆผุเสียผ่านการกระทำของแบคทีเรีย .
- ฟอสเฟตจะถูกปล่อยออกสู่สิ่งแวดล้อม โดยกระบวนการนี้ .
- ฟอสเฟตในดินถูกชะล้างออก หรือกร่อนลงในน้ำ
- น้ำอีก ) โดยสาหร่ายและพืชเป็นสารอาหาร
ขาดฟอสเฟต ผลในการเติบโตช้าหรือแคระ การเจริญเติบโตของพืช หากมีเพิ่มเติมของฟอสเฟตในพืชมีการเจริญเติบโตส่วนเกินในบาง

เห็นสาหร่ายฟอสฟอรัสส่วนใหญ่จะไม่มีพืช
เนื่องจากส่วนใหญ่ของฟอสฟอรัสของเราถูกขังอยู่ในดินตะกอนและหิน มันไม่สามารถใช้ได้สำหรับพืชใช้ มากของฟอสฟอรัสในดินยังไม่มีพืช ฟอสฟอรัสในดินให้พืช
จะกลายเป็นไม่พร้อมใช้งานผ่านหลายเส้นทาง :
- แบคทีเรีย แบคทีเรียแปลงฟอสเฟตของพืชในรูปแบบอินทรีย์ที่ไม่สามารถใช้ได้กับพืชแม้ว่าแบคทีเรียอื่น ๆทำให้ฟอสเฟตที่พร้อมใช้งาน โดย mineralisation , มีส่วนร่วมของนี้มีขนาดเล็ก .
- ดูดซับอนินทรีย์ฟอสฟอรัส : ( และมี ) สามารถเคมีจำกัด ( ดูดซับ ) อนุภาคดิน ทำให้มันไม่สามารถใช้ได้กับพืช คายเป็นรุ่นดูดซับฟอสฟอรัสจากรัฐจำกัดในสารละลายดิน
- M :อนินทรีย์สารประกอบฟอสฟอรัสต้องละลายน้ำจะถูกนำขึ้นโดยพืช นี้ขึ้นอยู่กับความเป็นกรด ( pH ) ของดิน ถ้าดินมี pH น้อยกว่า 4 หรือมากกว่าที่ pH 8 , ฟอสฟอรัสเริ่มผูกพันกับสารประกอบอื่น ๆให้ใช้ได้น้อยลง พืช ดิน ฟอสฟอรัสฟอสเฟตปุ๋ยเติมเต็ม


เกษตรกรหลายคนเติมฟอสฟอรัสผ่านการใช้ปุ๋ยฟอสเฟตฟอสฟอรัสที่ได้จากเหมืองแร่เงินฝากของหินฟอสเฟต เครื่องผลิตกรดกำมะถัน ใช้แปลงหินฟอสเฟตละลายลงในแบบฟอร์มที่ละลายน้ำได้มากขึ้น และสามารถใช้งานได้ทั้งปุ๋ยซูเปอร์ฟอสเฟต ผลิตภัณฑ์ โทร .



น้ำมลพิษฟอสเฟตที่มีประสิทธิภาพปุ๋ย แต่พวกเขายังก่อให้เกิดปัญหามลภาวะในทะเลสาบลำธารเพราะฟอสฟอรัสมักเป็นสารอาหารในอุปทานที่มี จำกัด แม้เล็ก ๆเพิ่มปริมาณสามารถก่อให้เกิดผลกระทบที่สำคัญ ผ่านวัดฟอสเฟตสามารถนำไปสู่บุปผาสาหร่าย ส่วนสาเหตุการเพิ่มขึ้นของสาหร่าย แบคทีเรีย ซึ่งจะนำไปสู่ที่สูงขึ้นของความเข้มข้น