From 1 July 2008 IFRIC 13 becomes m

From 1 July 2008 IFRIC 13 becomes mandatory in Australia, requiring a
standardised deferred revenue treatment to account for a plethora of
Customer Loyalty Programmes (CLP). This paper highlights the diverse
views of appropriate classification, and the ambiguities faced by those
accounting for CLP. A text based analysis of documents pertaining to
IFRIC 13 shows the International Financial Reporting Interpretations
Committee (IFRIC) to be committed to a principles based approach in
making its interpretation. While IFRIC members were responsive to the
concerns of interested parties, they were not subservient to the ensuing
lobbying process.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

จาก 1 2551 กรกฎาคม IFRIC 13 งานในออสเตรเลีย ต้องการมาตรฐานการรักษารายได้สำหรับมากมายลูกค้าลอยัลตี้โปรแกรม (CLP) กระดาษนี้ไฮไลท์มีความหลากหลายมุมมองที่เหมาะสม และงงงวยที่ประสบ โดยผู้บัญชีสำหรับ CLP ข้อความจากการวิเคราะห์เอกสารที่เกี่ยวข้องกับIFRIC 13 แสดงตีรายงานทางการเงินของประเทศกรรมการ (IFRIC) จะทำให้หลักการที่ใช้ในทำให้การ ในขณะที่สมาชิก IFRIC ตอบสนองต่อการกังวลของบุคคลที่สนใจ พวกเขาไม่ได้ subservient การทวีปกระบวนการล็อบบี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

จาก 1 กรกฎาคม 2008 IFRIC 13 กลายเป็นผู้ได้รับมอบอำนาจในออสเตรเลียต้อง
รักษารายได้รอตัดบัญชีมาตรฐานการบัญชีสำหรับมากมายเหลือเฟือของ
โปรแกรมความภักดีของลูกค้า (CLP) กระดาษนี้ไฮไลท์ที่มีความหลากหลาย
มุมมองของการจำแนกเหมาะสมและงงงวยที่ต้องเผชิญกับผู้ที่
บัญชีสำหรับ CLP การวิเคราะห์ข้อความตามเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการ
IFRIC 13 แสดงให้เห็นถึงการรายงานทางการเงินการตีความ
ของคณะกรรมการ (IFRIC) ที่จะมุ่งมั่นกับหลักการวิธีการที่ใช้ใน
การทำให้การตีความ ขณะที่สมาชิก IFRIC ได้ตอบสนองต่อความ
กังวลของผู้มีส่วนได้เสียที่พวกเขาไม่ยอมจำนนกับลีสซิ่ง
กระบวนการวิ่งเต้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

จาก 1 กรกฎาคม 2551 ifric 13 กลายเป็นข้อบังคับในออสเตรเลีย ที่ต้องการรายได้รอการตัดบัญชี มาตรฐานการรักษามากมายโปรแกรมความภักดีของลูกค้า ( CLP ) กระดาษนี้ไฮไลท์ที่หลากหลายมุมมองของหมวดหมู่ที่เหมาะสม และงงงวยกับเหล่านั้นการบัญชีสำหรับ CLP . ข้อความจากเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์ของifric 13 แสดงให้เห็นถึงการรายงานทางการเงินระหว่างประเทศคณะกรรมการ ( ifric ) ที่จะมุ่งมั่นที่จะหลักการวิธีการที่ใช้ในการตีความของ ในขณะที่สมาชิก ifric เป็นตอบสนองต่อความกังวลของผู้สนใจ พวกเขาไม่ได้จึงจะตามมาฝ่ายกระบวนการ