การทูต ตัวแทนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ บทบาทหน้าที่นักการทูต คือ การรักษาและส่งเสริมผลประโยชน์ของไทยในเวทีต่างประเทศ ดูแล้วเป็นงานที่มีขอบข่ายกว้างมาก ในอดีต บทบาทของนักการทูต ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการเมือง และมีบทบาทหลักถึงขั้นเป็นตัวตัดสินความอยู่รอดของเอกราชและอธิปไตยของประเทศชาติ แต่ในยุคโลกาภิวัฒน์นี้ บทบาทของนักการทูตต้องปรับเปลี่ยนไปเพื่อให้ก้าวทันความซับซ้อนที่เพิ่มขึ้น และการที่นานาประเทศต้องพึ่งพาซึ่งกันและกันมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจมีบทบาทสำคัญขึ้นในนโยบายต่าง ประเทศ โดยเชื่อมโยงกับปัจจัยทางการเมืองและสังคมมากขึ้น
คุณสมบัติของนักการทูตเป็นคนช่างสงสัย เชื่ออะไรยาก ไม่ยอมรับอะไรอย่างปราศจากเหตุผล ชอบตั้งคำถาม มีความสนใจในปัญหาของบ้านเมืองและสังคม ใส่ใจกับความเดือดร้อน ทุกข์สุขของผู้คนที่อยู่ร่วมกันในสังคมบทบาทหน้าที่ของนักการทูต หน้าที่สำคัญของนักการทูต คือ การรักษาและส่งเสริมผลประโยชน์ของไทยในเวทีต่างประเทศ โดยทำหน้าที่รวบรวมและรายงานข้อมูลซึ่่งอาจส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์ของชาติ ซึ่งบ่อยครั้งมักเป็นการแนะนำเกี่ยวกับมาตรการรับมือให้แก่รัฐบาลของประเทศ จากนั้น เมื่อมีนโยบายรับมือออกมาจากรัฐบาลแล้ว นักการทูตจะมีหน้าที่ในการถ่ายทอด ด้วยวิธีการที่ชักจูงให้แก่รัฐบาลประเทศที่ประจำอยู่นั้น เพื่อพยายามโน้มน้าวให้รัฐบาลเหล่านั้นดำเนินการให้เหมาะสมกับผลประโยชน์ของประเทศแม่ ด้วยวิธีการดังกล่าวนักการทูตจึงเป็นจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดของวงจรใน กระบวนการนโยบายต่างประเทศอยากเป็นทูตต้องเรียนอะไร
ผู้ที่จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่6 เลือกศึกษาต่อในคณะรัฐศาสตร์ เอกการทูต สิ่งที่สำคัญ คือ ต้องมีพื้นฐานอังกฤษ ยิ่งมีความรู้มากยิ่งดี และการทูตไม่ใช่ว่าจะเน้นด้านภาษาอย่างเดียว แต่เราต้องเรียนนโยบาย การเมือง องค์กร ของประเทศต่าง ๆด้วย ซึ่งก็คือต้องศึกษาเกี่ยวกับการเมืองของต่างประเทศ ถ้าจะให้ดีควรเรียนภาษาอื่นเพิ่มด้วย มีประวัติศาสตร์ แต่เป็นประวัติศาสตร์เหตุการณ์โลกและการปกครองเสียมากกว่า