From Figure 2, the result suggests

From Figure 2, the result suggests that Thai jewelry industry has faced fluctuating level of
comparative advantage over time from 3.32 in 2006 to 9.45 in 2007 and later decrease to 1.87 in
2009. The significantly high of comparative advantage is shown in 2007 since Thailand started to
export silver jewelry product (HS code 7106) to India and India also increased its demand for silver.
However, Thai jewelry industry faced the significant decrease in the level of comparative advantage
in 2009 due to the decrease in exporting silver products from Thailand to India. In addition, precious
stone and synthetic or reconstructed precious stone industry should have been promoted to export to
India since their RCA indices have been increased during the study period with the average RCA
indices at 15.75 and 31.18, respectively.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

จากรูปที่ 2 ผลชี้ให้เห็นว่า อุตสาหกรรมเครื่องประดับที่ไทยต้องเผชิญกับระดับความเปรียบเปรียบเทียบเวลาจาก 3.32 ใน 2006 เพื่อ 9.45 ใน 2007 และหลังลดลง 1.87 ใน2009.อย่างมีนัยสำคัญสูงความได้เปรียบเปรียบเทียบจะแสดงในปี 2007 เนื่องจากไทยเริ่มส่งออกเครื่องประดับเงินผลิตภัณฑ์ (รหัส HS 7106) อินเดียและอินเดียยังเพิ่มอุปสงค์ของเงินอย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมเครื่องประดับไทยกับลดลงอย่างมีนัยสำคัญในระดับความได้เปรียบเปรียบเทียบในปี 2552 เนื่องจากการลดลงของการส่งออกผลิตภัณฑ์เครื่องเงินจากไทยไปอินเดีย นอกจากนี้ ล้ำค่าหินและอุตสาหกรรมมณีสังเคราะห์ หรือสร้างขึ้นใหม่ควรมีการส่งเสริมการส่งออกไปอินเดียเนื่องจากดัชนี RCA ของพวกเขาได้ถูกเพิ่มขึ้นในระหว่างรอบระยะเวลาศึกษากับ RCA เฉลี่ยดัชนีที่ 15.75 และ 31.18 ตามลำดับ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

จากรูปที่ 2 ผลแสดงให้เห็นว่าอุตสาหกรรมเครื่องประดับไทยต้องเผชิญกับความผันผวนของระดับ
ได้เปรียบโดยเปรียบเทียบในช่วงเวลาจาก 3.32 ใน 2006-9.45 ในปี 2007 และต่อมาลดลงเหลือ 1.87 ใน
2009 อย่างมีนัยสำคัญสูงได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบจะแสดงในปี 2007 นับตั้งแต่ประเทศไทยเริ่มที่จะ
ส่งออกสินค้าเครื่องประดับเงิน (HS Code 7106) ไปยังประเทศอินเดียและอินเดียนอกจากนี้ยังเพิ่มความต้องการใช้เงินของตน.
อย่างไรก็ตามอุตสาหกรรมเครื่องประดับไทยต้องเผชิญกับการลดลงอย่างมีนัยสำคัญในระดับของความได้เปรียบโดยเปรียบเทียบ
ใน ปี 2009 เนื่องจากการลดลงของการส่งออกผลิตภัณฑ์เงินจากประเทศไทยไปยังประเทศอินเดีย นอกจากนี้ยังมีค่า
หินและสังเคราะห์หรือสร้างขึ้นใหม่อุตสาหกรรมหินที่มีค่าควรจะได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้ส่งออกไปยัง
ประเทศอินเดียตั้งแต่ดัชนี RCA ของพวกเขาได้รับการเพิ่มขึ้นในช่วงระยะเวลาการศึกษากับอาร์ซีเอโดยเฉลี่ย
ดัชนีที่ 15.75 และ 31.18 ตามลำดับ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

จากรูปที่ 2 ผลการศึกษาพบว่า อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทยต้องเผชิญกับความผันผวนของระดับ
ความได้เปรียบตลอดเวลาจากข้อมูลในปี 2550 และภายหลัง 9.45 ลดลง 1.87 ใน
2009 ระดับ สูง ของความได้เปรียบโดยเปรียบเทียบที่ปรากฏใน 2007 ตั้งแต่ไทยเริ่มส่งออกเครื่องประดับเงิน

สินค้า ( รหัส HS 7106 ) อินเดียและอินเดียยังมีความต้องการเพิ่มขึ้นสำหรับเงิน .
อย่างไรก็ตามอุตสาหกรรมเครื่องประดับไทยจึงลดลงอย่างมากในระดับของ
ความได้เปรียบใน 2009 เนื่องจากการลดลงในการส่งออกผลิตภัณฑ์เงินจากไทยไปอินเดีย นอกจากนี้ อัญมณีสังเคราะห์ หรือสร้างใหม่
อุตสาหกรรมอัญมณี และควรได้รับการส่งเสริมที่จะส่งออกไปยัง
อินเดียตั้งแต่ดัชนี RCA ของพวกเขาได้เพิ่มขึ้นในช่วงระยะเวลาการศึกษากับ
โดยเฉลี่ยและดัชนีที่ 500 31.18 ตามลำดับ