Cover crop cultivation during the c

Cover crop cultivation during the cold fallow season has been strongly recommended in mono-rice cultivation
system to improve soil quality. Its addition as green manure could stimulate methane (CH4)
emission in the submerged paddy soil during rice cultivation, but its effect has not been evaluated
well. Leguminous Chinese milk vetch (hereafter milk vetch) and non-leguminous rye were seeded
after rice harvesting in 2008 and 2009, and total above-ground biomasses were incorporated with
the recommended mineral fertilizers (NPK + milk vetch, and NPK + rye, respectively) before rice transplanting
in 2009 and 2010. No fertilization (control) and mineral fertilization alone (NPK) plots were
installed for comparison. Methane flux which was investigated by the closed chamber method during
rice cultivation was significantly increased by chemical fertilization to ca. 80–250% over the control
(138–141 kg CH4 ha−1), but increased more markedly by cover crop biomass addition to ca. 28–121% over
the NPK treatment. Milk vetch was more effective on stimulating less CH4 emission (28–61% increase
over NPK) and improving rice productivity (18–31% increase over NPK) than rye (86–121% increase of
CH4 emission and
−3–6% of yield increase over NPK). As a result, the total CH4 flux per grain yield was significantly
increased by rye addition, but were similar between the NPK + milk vetch and NPK treatments.
Conclusively, low C/N ratio cover crop like milk vetch might be more recommendable green manure to
minimize CH4 emission impact and increase rice productivity than high C/N ratio cover crop like rye in
paddy soil.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เพาะปลูกพืชครอบคลุมระหว่าง fallow หนาวได้ถูกแนะนำในข้าวขาวดำระบบการปรับปรุงคุณภาพดิน ตัวนี้เป็นมูลเขียวสามารถกระตุ้นมีเทน (CH4)มลพิษในดินนาน้ำท่วมระหว่างข้าว แต่ผลได้รับการประเมินไม่ดี Seeded leguminous จีน vetch นม (โดย vetch นม) และไม่ leguminous ไรหลังจากข้าว เก็บเกี่ยวในปี 2008 และ 2009 และ biomasses ข้างล่างทั้งหมดถูกรวมด้วยปุ๋ยแร่แนะนำ (NPK + นม vetch และ NPK + ข้าว ไรย์ ตามลำดับ) ก่อนข้าว transplantingในปี 2009 และ 2010 ปฏิสนธิ (ควบคุม) และในปัจจุบันแร่ผืน (NPK) เพียงอย่างเดียวไม่ได้ติดตั้งสำหรับการเปรียบเทียบ ฟลักซ์ของมีเทนที่ถูกตรวจสอบ โดยวิธีการปิดหอการค้าระหว่างข้าวมากขึ้น โดยในปัจจุบันเคมี ca 80 – 250% ผ่านตัวควบคุม(138-141 กิโลกรัม CH4 ha−1), แต่เพิ่มมากขึ้นอย่างเด่นชัด โดยครอบคลุมพืชชีวมวลนี้ ca 28 – 121% ผ่านการรักษา NPK นม vetch คือเพิ่มประสิทธิภาพในการกระตุ้นน้อยลงปล่อยก๊าซ CH4 (28-61% เพิ่มขึ้นมากกว่า NPK) และปรับปรุงผลผลิตข้าว (18-31% เพิ่มขึ้นมากกว่า NPK) มากกว่าข้าวไรย์ (86-121% เพิ่มปล่อยก๊าซ CH4 และ−3 – 6% ของผลผลิตเพิ่มขึ้นมากกว่า NPK) ดัง ฟลักซ์ CH4 รวมต่อผลผลิตข้าวได้มากเพิ่มขึ้น โดยเพิ่มข้าวไรย์ แต่ได้คล้ายระหว่าง NPK + นม vetch และรักษา NPKเห็น ต่ำพืชครอบคลุมอัตราส่วน C/N เช่นนม vetch อาจนำเกี่ยวกับภัตตาคารขึ้นเขียวมูลการลดผลกระทบต่อการปล่อยก๊าซ CH4 และเพิ่มผลผลิตข้าวมากกว่าสูง C/N อัตราครอบคลุมพืชผลเช่นไรในดินนา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ปกเพาะปลูกในช่วงฤดูเพาะปลูกเย็นได้รับการแนะนำในการเพาะปลูกข้าวขาวดำระบบการปรับปรุงคุณภาพดิน นอกจากนี้ในฐานะที่เป็นปุ๋ยพืชสดจะกระตุ้นให้เกิดก๊าซมีเทน (CH4)
ปล่อยก๊าซเรือนกระจกในดินนาข้าวจมอยู่ใต้น้ำในช่วงการเพาะปลูกข้าว
แต่ผลของมันยังไม่ได้รับการประเมินอย่างดี นมตระกูลถั่วจีนเถา (ต่อพืชเถานม)
และข้าวที่ไม่ใช่ตระกูลถั่วเมล็ดหลังการเก็บเกี่ยวข้าวในปี2008 และปี 2009
และรวมชีวมวลเหนือพื้นดินถูกรวมกับที่แนะนำปุ๋ยแร่(NPK + เถานมและ NPK + ข้าวตามลำดับ)
ก่อนที่จะปลูกข้าวในปี2009 และปี 2010 ไม่มีการปฏิสนธิ (ควบคุม) และการให้ปุ๋ยแร่ธาตุเพียงอย่างเดียว (NPK)
แปลงที่ได้รับการติดตั้งสำหรับการเปรียบเทียบ
การไหลของก๊าซมีเทนซึ่งได้รับการตรวจสอบโดยวิธีการปิดห้องในระหว่างการปลูกข้าวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญโดยการใส่ปุ๋ยเคมีเพื่อแคลิฟอร์เนีย 80-250% ในช่วงการควบคุม
(138-141 กก. CH4 ฮ่า-1) แต่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดจากปกนอกจากชีวมวลพืชแคลิฟอร์เนีย 28-121% ในช่วงการรักษา NPK
นมเป็นพืชเถาที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นในการกระตุ้นให้เกิดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อย CH4 (เพิ่มขึ้น 28-61%
ในช่วง NPK) และการปรับปรุงการผลิตข้าว (เพิ่มขึ้น 18-31% ในช่วง NPK) มากกว่าข้าว (เพิ่มขึ้น 86-121%
ของการปล่อยก๊าซCH4 และ
-3-6% ของ การเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนที่มากกว่า NPK) เป็นผลให้ฟลักซ์ CH4
รวมต่อผลผลิตข้าวได้อย่างมีนัยสำคัญเพิ่มขึ้นนอกจากนี้ข้าวไรแต่มีความคล้ายคลึงกันระหว่าง NPK + เถานมและการรักษา NPK.
สรุปต่ำ C / N อัตราส่วนปกพืชเช่นพืชเถานมอาจจะเป็นปุ๋ยพืชสดฝากฝังมากขึ้นในการ
ลดผลกระทบต่อการปล่อยก๊าซ CH4 และเพิ่มผลผลิตข้าวสูงกว่า C / N
อัตราส่วนปกพืชเช่นข้าวในดินนา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ครอบคลุมการปลูกพืชในฤดูหนาวที่รกร้างมีขอแนะนำในการปลูกข้าวระบบ
โมโน เพื่อปรับปรุงคุณภาพดิน นอกจากเป็นปุ๋ยพืชสดจะช่วยกระตุ้นการปล่อยก๊าซมีเทน ( ร่าง )
ในดินนาจมอยู่ใต้น้ำในช่วงการปลูกข้าว แต่ผลของมันไม่ได้ถูกประเมิน
ดี ฮวางกีทั้งจีน ( ต่อเวชนม ) และไม่ใช่พืชตระกูลถั่วถูก seeded
ไรย์ข้าวหลังการเก็บเกี่ยวในปี 2008 และ 2009 และทั้งหมดข้างต้น BIOMASSES ดินที่ถูกรวมกับ
แนะนำแร่ปุ๋ย ( NPK ฮวางกีและ NPK ไรย์ ตามลำดับ ) ก่อนข้าวปักดำ
ในปี 2009 และ 2010 ไม่มีการปฏิสนธิ ( ควบคุม ) และปุ๋ย ( NPK ) แร่อย่างเดียว ส่วนแปลง
ติดตั้งสำหรับการเปรียบเทียบ ก๊าซมีเทน ซึ่งพบว่าฟลักซ์โดยวิธีห้องปิดในระหว่าง
การปลูกข้าวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยปุ๋ยเคมีไปประมาณ 80 – 250% มากกว่าการควบคุม
( 138 ) 141 กก. ร่างฮา− 1 ) แต่เพิ่มขึ้นอย่างเด่นชัด โดยครอบคลุมพืชชีวมวลจาก 28 แคลิฟอร์เนีย– 121 % มากกว่า
รักษา NPK . เวชน้ำนมมีประสิทธิภาพในการปล่อยร่างน้อย ( 28 ) 61% เพิ่ม
มากกว่า NPK ) และปรับปรุงผลผลิตข้าว ( 18 – 31 % เพิ่มขึ้นมากกว่า NPK ) ข้าวไรย์ ( 86 ) กว่า 121% เพิ่มขึ้น

ปล่อยร่างและ− 3 – 6 % ของผลผลิตเพิ่มขึ้นมากกว่า NPK ) ผล การ รวมร่างต่อผลผลิตอย่างมีนัยสำคัญเพิ่มขึ้นนอกจากนี้
ไรย์ แต่คล้ายกันมากระหว่าง NPK ฮวางกี NPK และการรักษา .
ดั้งเดิมอัตราส่วนต่ำ พืชคลุมดิน เช่น เวชนมอาจจะฝากฝังเพิ่มเติมปุ๋ยพืชสดเพื่อลดมลพิษและผลกระทบ
ร่างเพิ่มผลผลิตข้าวกว่าสูงอัตราส่วนพืชคลุมดิน เช่น ข้าวในดินนา
.