Soybean (Glycine max L.) is the mos

Soybean (Glycine max L.) is the most cultivated oilseed crop in the world, mainly because it combines moderate oil content and high amount of protein, which represents approximately 20–40% of its total mass, respectively (Shukla et al., 1992). Data from the United States Department of Agriculture indicate an estimated global soybean production in 2013/14 of 283.95 million metric tons. This estimate shows US ranking as first in world on soybean production, followed by Brazil and Argentina, representing 31.52%, 30.82% and 19.05% of global production, respectively (USDA, 2014).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ถั่วเหลือง (Glycine max L.) เป็นพืช oilseed ปลูกมากที่สุดในโลก ส่วนใหญ่ เพราะมันรวมน้ำมันปานกลางสูงเนื้อหา และปริมาณของโปรตีน ซึ่งแสดงถึงประมาณ 20-40% ของผลรวมของมวล ตามลำดับ (ชูกลา et al. 1992) ข้อมูลจากกระทรวงเกษตรสหรัฐระบุว่า การผลิตถั่วเหลืองโลกประมาณ 2013/14 ของ 283.95 ล้านเมตริกตัน ประเมินนี้แสดงเราจัดอันดับเป็นครั้งแรกในโลกในการผลิตถั่วเหลือง ตาม ด้วยบราซิลและอาร์เจนตินา แสดง 31.52%, 30.82% และ 19.05% ของการผลิตทั่วโลก ตามลำดับ (USDA, 2014)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ถั่วเหลือง (Glycine สูงสุด L. ) เป็นพืชน้ำมันที่ปลูกมากที่สุดในโลกส่วนใหญ่เป็นเพราะมันรวมปริมาณน้ำมันในระดับปานกลางและจำนวนเงินที่สูงของโปรตีนซึ่งหมายถึงประมาณ 20-40% ของมวลรวมตามลำดับ (Shukla et al., 1992 ) ข้อมูลจากสหรัฐอเมริกากรมวิชาการเกษตรระบุผลิตถั่วเหลืองประมาณระดับโลกใน 2013/14 ของ 283950000 เมตริกตัน ประมาณนี้แสดงให้เห็นว่าการจัดอันดับของสหรัฐเป็นครั้งแรกในโลกในการผลิตถั่วเหลืองตามด้วยบราซิลและอาร์เจนตินาคิดเป็น 31.52%, 30.82% และ 19.05% ของการผลิตทั่วโลกตามลำดับ (USDA 2014)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ถั่วเหลือง ( Glycine max L . ) เป็นพืช oilseed ที่นิยมในโลก ส่วนใหญ่เป็นเพราะมันรวมปริมาณน้ำมันและค่าปริมาณโปรตีน ซึ่งแสดงถึงประมาณ 20 – 40 % ของมวลทั้งหมดของตามลำดับ ( shukla et al . , 1992 ) ข้อมูลจากสหรัฐอเมริกากรมวิชาการเกษตรระบุว่าทั่วโลก การผลิตถั่วเหลืองใน 2013 / 14 ของ 283.95 ล้านเมตริกตัน ประมาณนี้ แสดงให้เห็นการจัดอันดับเป็นครั้งแรกในโลกในการผลิตถั่วเหลือง รองลงมา คือ บราซิลและอาร์เจนตินา ซึ่งในกรณี 30.82 % และลดลงเหลือเพียง 19.05 % ของการผลิตทั่วโลก ตามลำดับ ( USDA 2014 )