It was built of sandstone and later

It was built of sandstone and laterite in the 10th to 13th centuries. It was a Hindu shrine dedicated to Shiva, and symbolises Mount Kailash, his heavenly dwelling.

Thailand's Department of Fine Arts spent 17 years restoring the complex to its original state from 1971 to 1988. On 21 May 1988, the park was officially opened by Princess Maha Chakri Sirindhorn.[1] In 2005, the temple was submitted to UNESCO for consideration as a future World Heritage Site.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มันถูกสร้างขึ้นของหินทรายและศิลาแลงในศตวรรษที่ 10 ถึง 13 มันเป็นเทวสถานฮินดูที่ทุ่มเทให้กับพระอิศวร และเป็นสัญลักษณ์ของเขาไกรลาส ที่อยู่อาศัยของเขาบนสวรรค์ประเทศไทยของกรมศิลปากรใช้เวลา 17 ปีการคืนค่าซับซ้อนการเดิมจากปี 1971-2531 บน 21 1988 พฤษภาคม สวนทางเปิดกุมารีขึ้น [1] ในปี 2005 วัดถูกส่งไปยังยูเนสโกพิจารณาเป็นมรดกโลกในอนาคต

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มันถูกสร้างขึ้นจากหินทรายและศิลาแลงที่ 10 เพื่อศตวรรษที่ 13 มันเป็นศาลเจ้าในศาสนาฮินดูที่ทุ่มเทให้กับพระอิศวรและเป็นสัญลักษณ์ของเขาไกรลาสอาศัยอยู่ในสวรรค์ของเขา.

กรมของไทยวิจิตรศิลป์ใช้เวลา 17 ปีการฟื้นฟูที่ซับซ้อนสู่สภาพเดิมจาก 1971 ปี 1988 เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 1988, ที่จอดเปิดอย่างเป็นทางการโดยปริ๊นเซ มหาจักรีสิรินธร. [1] ในปี 2005 วัดถูกส่งไปยังยูเนสโกเพื่อพิจารณาเป็นอนาคตมรดกโลก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มันถูกสร้างขึ้นจากหินทรายและศิลาแลงใน 10 ถึง 13 ศตวรรษ มันเป็นวิหารฮินดูที่ทุ่มเทให้กับพระศิวะ และเป็นสัญลักษณ์แห่งภูเขา Kailash , ที่อยู่อาศัยสวรรค์ของเขาฝ่ายไทยวิจิตรศิลป์ใช้เวลา 17 ปีเรียกคืนที่ซับซ้อนสภาพเดิมจาก 2514 ถึง 1988 ในวันที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2531 , สวนเปิดอย่างเป็นทางการโดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ . [ 1 ] ในปี 2005 วัดถูกส่งไปยังยูเนสโก เพื่อพิจารณาเป็นมรดกโลกในอนาคต