BACKGROUND:Inactivity and overweigh

BACKGROUND:

Inactivity and overweight are major health concerns in children and adolescents with disabilities. Methods for the assessment of activity and energy expenditure may be affected negatively by the underlying disability, especially when motor function is impaired. The purpose of this study was to assess the validity of the SenseWear Armband in adolescents with cerebral palsy and hemiparesis.
METHODS:

Ten volunteers (age: 13.4 ± 1.6 years) were equipped with SenseWear Armbands on the hemiparetic and nonhemiparetic side of the body. Energy expenditure was measured at rest and during treadmill exercise (speed range: 0.85 to 2.35 m/s). Indirect calorimetry served as independent reference method.
RESULTS:

The mean error was between -0.6 and 0.8 kcal/min and there were no significant differences between SenseWear and indirect calorimetry at any speed. Differences between body sides in expenditure (mean: -0.2 to 0.0 kcal/min) and step count (mean: -3.4 to 9.7 steps/min) were not significant.
CONCLUSIONS:

The validity of the SenseWear Armband does not appear to be negatively affected by cerebral palsy during laboratory treadmill exercise. Future field studies are necessary to assess the validity and practicability energy expenditure and physical activity in children and adolescents with physical disabilities.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ภูมิหลัง: ไม่มีการใช้งานและมีน้ำหนักเกินมีความกังวลเรื่องสุขภาพที่สำคัญในเด็กและวัยรุ่นที่มีความพิการ วิธีการในการประเมินผลของกิจกรรมและค่าใช้จ่ายพลังงานที่อาจได้รับผลกระทบจากความพิการพื้นฐานโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อการทำงานของมอเตอร์บกพร่อง วัตถุประสงค์ของการศึกษานี้คือการประเมินความถูกต้องของ SenseWear ปลอกแขนในวัยรุ่นที่มีสมองพิการและ hemiparesis. วิธีการ: สิบอาสาสมัคร (อายุ 13.4 ± 1.6 ปี) พร้อมกับ SenseWear สายรัดแขนบนและด้านข้างอัมพาตครึ่งซีก nonhemiparetic ของร่างกาย ค่าใช้จ่ายพลังงานวัดในส่วนที่เหลือและในระหว่างการออกกำลังกายลู่วิ่ง (ช่วงความเร็ว: 0.85-2.35 เมตร / วินาที) calorimetry ทางอ้อมทำหน้าที่เป็นวิธีการอ้างอิงที่เป็นอิสระ. ผลการศึกษา: ข้อผิดพลาดเฉลี่ยอยู่ระหว่าง -0.6 และ 0.8 กิโลแคลอรี / นาทีและไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญระหว่าง SenseWear calorimetry และทางอ้อมที่ความเร็วใด ความแตกต่างระหว่างสองฝ่ายร่างกายในการใช้จ่าย (หมายถึง: -0.2 0.0 กิโลแคลอรี / นาที) และนับขั้นตอน (หมายถึง: -3.4 9.7 ขั้นตอน / นาที) ไม่ได้มีนัยสำคัญ. สรุปความถูกต้องของสายรัดแขน SenseWear ไม่ปรากฏได้รับผลกระทบในเชิงลบ โดยสมองพิการระหว่างการออกกำลังกายลู่วิ่งในห้องปฏิบัติการ การศึกษาภาคสนามในอนาคตเป็นสิ่งที่จำเป็นในการประเมินความถูกต้องและการใช้พลังงานและการปฏิบัติกิจกรรมทางกายในเด็กและวัยรุ่นที่มีความพิการทางร่างกาย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

พื้นหลัง :

ไม่มีการใช้งานและอ้วนมีความกังวลเรื่องสุขภาพที่สำคัญในเด็กและวัยรุ่นที่มีความบกพร่องทางร่างกาย วิธีการตรวจประเมินกิจกรรมและการใช้พลังงานอาจได้รับผลกระทบทางลบจากต้นแบบคนพิการโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อการทำงานของกล้ามเนื้อเป็นความบกพร่องวัตถุประสงค์ของการศึกษานี้เพื่อประเมินความถูกต้องของปลอกแขน sensewear ในวัยรุ่นที่มีสมองพิการ และอัมพาตครึ่งซีก .
วิธีการ :

สิบอาสาสมัคร ( อายุ : 13.4 ± 1.6 ปี ) พร้อมกับปลอกแขน sensewear บน hemiparetic และ nonhemiparetic ข้างตัว การใช้พลังงานเป็นวัดที่พักและระหว่างลู่วิ่งออกกำลังกาย ( ช่วงความเร็ว 0.85 2.35 เมตร / วินาที )การฝากทำหน้าที่เป็นวิธีอ้างอิงอิสระ .
:

ผลค่าเฉลี่ยความคลาดเคลื่อนระหว่าง - 0.6 และ 0.8 กิโลแคลอรี่ / นาทีและไม่พบความแตกต่างระหว่าง sensewear และการฝากที่ความเร็วใด ๆ . ความแตกต่างระหว่างด้านร่างกายในการใช้จ่าย ( หมายถึง : - 0.2 0.0 กิโลแคลอรี่ / นาที ) และนับก้าว ( หมายถึง : - 3.4 หมื่นล้านก้าว / นาที ) ไม่พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ สรุป :


ความถูกต้องของปลอกแขน sensewear ไม่ปรากฏว่าได้รับผลกระทบจากสมองพิการระหว่างการออกกำลังกาย treadmill ห้องปฏิบัติการ การศึกษาภาคสนามในอนาคตเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อประเมินความถูกต้องและค่าใช้จ่ายพลังงาน practicability และกิจกรรมทางกายในเด็กและวัยรุ่นที่มีความบกพร่องทางร่างกาย