A fifth argument againt the theory

A fifth argument againt the theory of ethical relativism is that it contradicts itself, and so must logocally be false. Soppose, for example, that two people, each from a different culture, are arguing about moral principles. One culture believes that there are universal moral principles that apply across cultures and time. The other culture believes in the theory of ethical relativism. The person from the culture that believes in ethical relativism then tries to convince the other to adopt ethical relativism. To do so, however, violates the ethics of ethical relativism- the ethical relativist is attempting to impose his or her ethical principle on others, which is unethical to do under the ethical relativist’s own ethics. Thus, ethical relativists must not, under their own ethical standards, attempt to impose their relativist beliefs on others who believe in universal moral principles. Since ethical relativism is unethical under its own princople, it must be false.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ทฤษฎีจริยธรรม relativism ขุ่นอาร์กิวเมนต์ห้าคือ มันทุกตัว และดังนั้น ต้อง logocally เป็นเท็จ Soppose ตัวอย่าง ที่คนสองคน จากวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน แต่ละจะโต้เถียงเกี่ยวกับหลักจริยธรรม วัฒนธรรมหนึ่งเชื่อว่า มีหลักจริยธรรมสากลที่ใช้ข้ามวัฒนธรรมและเวลา วัฒนธรรมเชื่อในทฤษฎีของ relativism จริยธรรม บุคคลจากวัฒนธรรมที่เชื่อมั่นในจริยธรรม relativism แล้วพยายามที่จะโน้มน้าวให้อีกจะนำมาใช้ relativism จริยธรรม ให้ทำเช่นนั้น อย่างไรก็ตาม ละเมิดจริยธรรมจริยธรรม relativism-กุศลจริยธรรมพยายามกำหนดหลักจริยธรรมของเขา หรือเธอคนอื่น ซึ่งเป็นศีลธรรมจะทำภายใต้จริยธรรมจริยธรรมกุศลของตัวเอง ดังนั้น relativists จริยธรรมต้องไม่ ภายใต้มาตรฐานทางจริยธรรมของตนเอง พยายามที่จะกำหนดการกุศลความเชื่ออื่นที่เชื่อในหลักจริยธรรมสากล เนื่องจาก relativism จริยธรรมศีลธรรมภายใต้ princople ของตัวเอง ต้องเป็นเท็จ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อาร์กิวเมนต์ที่ห้าจากมูลค่าของทฤษฎีสัมพัทธจริยธรรมก็คือว่ามันขัดแย้งกับตัวเองและเพื่อให้ logocally ต้องเป็นเท็จ Soppose เช่นที่คนสองคนแต่ละคนมาจากวัฒนธรรมที่แตกต่างได้รับการโต้เถียงเกี่ยวกับหลักการทางศีลธรรม วัฒนธรรมหนึ่งเชื่อว่ามีคุณธรรมสากลที่ใช้ข้ามวัฒนธรรมและเวลา วัฒนธรรมอื่น ๆ ที่เชื่อในทฤษฎีของ relativism จริยธรรม คนที่มาจากวัฒนธรรมที่เชื่อมั่นในจริยธรรม relativism จากนั้นก็พยายามที่จะโน้มน้าวให้คนอื่น ๆ ที่จะนำมา relativism จริยธรรม ต้องการทำเช่นนั้นอย่างไรก็ตามฝ่าฝืนจริยธรรมของจริยธรรม relativism- relativist จริยธรรมเป็นความพยายามที่จะกำหนดหลักการทางจริยธรรมของเขาหรือเธอกับคนอื่น ๆ ซึ่งเป็นที่ผิดจรรยาบรรณที่จะทำภายใต้จริยธรรมของตัวเอง relativist จริยธรรมของ ดังนั้น relativists จริยธรรมจะต้องไม่อยู่ภายใต้มาตรฐานทางจริยธรรมของตัวเองพยายามที่จะกำหนดความเชื่อของพวกเขาใน relativist คนอื่น ๆ ที่เชื่อมั่นในหลักคุณธรรมสากล ตั้งแต่ relativism จริยธรรมผิดจรรยาบรรณภายใต้ princople ของตัวเองก็จะต้องเป็นเท็จ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อาร์กิวเมนต์ที่ห้าเกี่ยวทฤษฎีจริยธรรม relativism คือมันขัดแย้งกับตัวเอง และต้อง logocally เป็นเท็จ soppose ตัวอย่าง ที่ สอง คน ละ จากวัฒนธรรมที่แตกต่างกันจะถกเถียงกันในเรื่องหลักคุณธรรม หนึ่งวัฒนธรรม เชื่อว่ามีคุณธรรม จริยธรรม หลักการสากลที่ใช้ข้ามวัฒนธรรมและเวลา วัฒนธรรมอื่น ๆเชื่อในทฤษฎีของจริยธรรม relativism .บุคคลจากวัฒนธรรมที่เชื่อในจริยธรรม relativism แล้วพยายามที่จะโน้มน้าวให้คนอื่นอุปการะจริยธรรม relativism . ต้องทำเช่นนั้น อย่างไรก็ตาม การละเมิดจริยธรรมจริยธรรม relativism - relativist จริยธรรมของเขาหรือเธอพยายามที่จะกำหนดหลักจริยธรรมต่อผู้อื่น ซึ่งเป็นการผิดจรรยาบรรณที่จะทำภายใต้จริยธรรม relativist จริยธรรมของตัวเอง ดังนั้น จริยธรรม relativists จะต้องไม่ภายใต้มาตรฐานของตนเอง จริยธรรม ความพยายามที่จะกำหนดความเชื่อ relativist ของผู้อื่นที่เชื่อในหลักการคุณธรรมสากล ตั้งแต่จริยธรรม relativism คือจรรยาบรรณใน princople ของมันเอง มันต้องเป็นเท็จ