It can be concluded that the electr

It can be concluded that the electrical conductivity of fruit purees is strongly dependent on temperature and dependent on ionic concentration and pulp content. The electrical conductivity of the fruit purees increased with temperature rise, linearly. The rate of change of temperature for the apricot puree was higher than the peach puree at all voltage gradients applied. Bubbling occurred above 60
C especially at higher voltage gradients. The selection of inert electrode coatings, the use of high frequency power and the prevention of air bubbles in the sample could avoid the occurrence of the bubbles. The mathematical models taking the system performance coefficients into account can be used to predict accurately the ohmic heating times of fruit purees. The determination of electrical conductivity changes and system performance coefficients during ohmic heating are important in the design of ohmic heaters.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

จึงสามารถสรุปได้ว่า ค่าการนำไฟฟ้าของจากผลไม้เป็นอย่างยิ่งขึ้นอยู่กับอุณหภูมิ และขึ้นอยู่กับเนื้อหาเข้มข้นและเยื่อ ionic ค่าการนำไฟฟ้าของจากผลไม้เพิ่มขึ้นกับอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้น เชิงเส้น อัตราการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิสำหรับ puree บ๊วยมากกว่า puree พีชที่ไล่ระดับสีแรงทั้งหมดที่ใช้ได้ พัทยาเกิดขึ้นข้างต้น C 60 ที่ไล่ระดับสีแรงดันสูงโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เลือกของอิเล็กโทรด inert เคลือบ การใช้ไฟฟ้าความถี่สูงและป้องกันการฟองอากาศจากตัวอย่างสามารถหลีกเลี่ยงการเกิดฟองอากาศ สามารถใช้แบบจำลองทางคณิตศาสตร์ที่คำนึงถึงระบบสัมประสิทธิ์ประสิทธิภาพการทำนายถูกต้องเวลาทำความร้อนแบบโอห์มมิคของผลไม้จาก กำหนดค่าการนำไฟฟ้าเปลี่ยนแปลงและสัมประสิทธิ์ประสิทธิภาพระบบในระหว่างการทำความร้อนแบบโอห์มมิคมีความสำคัญในการออกแบบของเครื่องทำความร้อนแบบโอห์มมิค

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

จึงสามารถสรุปได้ว่าการนำไฟฟ้าของ purees ผลไม้จะขึ้นอยู่กับอุณหภูมิและขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของอิออนและเนื้อหาเยื่อกระดาษ การนำไฟฟ้าของ purees ผลไม้ที่เพิ่มขึ้นกับอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นเป็นเส้นตรง อัตราการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิน้ำซุปข้นแอปริคอทที่สูงกว่าน้ำซุปข้นลูกพีชที่ไล่ระดับแรงดันไฟฟ้าที่ใช้ทั้งหมด เดือดเกิดขึ้นสูงกว่า 60 องศาเซลเซียสโดยเฉพาะอย่างยิ่งการไล่ระดับสีแรงดันไฟฟ้าที่สูงขึ้น การเลือกของการเคลือบขั้วเฉื่อยการใช้พลังงานความถี่สูงและการป้องกันฟองอากาศในกลุ่มตัวอย่างที่สามารถหลีกเลี่ยงการเกิดฟองอากาศที่ โมเดลทางคณิตศาสตร์การทำงานของระบบสัมประสิทธิ์เข้าบัญชีสามารถใช้ในการคาดการณ์ได้อย่างถูกต้องเวลาที่ร้อน ohmic ของ purees ผลไม้ การกำหนดของการเปลี่ยนแปลงการนำไฟฟ้าและค่าสัมประสิทธิ์การทำงานของระบบในช่วงร้อน ohmic มีความสำคัญในการออกแบบของเครื่องทำความร้อน ohmic

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สามารถสรุปได้ว่าค่าการนำไฟฟ้าของ purees ผลไม้ขอขึ้นอยู่กับอุณหภูมิ และขึ้นอยู่กับความเข้มข้นไอออนและผลิตเนื้อหา ค่าการนำไฟฟ้าของผลไม้ purees เพิ่มขึ้นด้วยการเพิ่มขึ้นอุณหภูมิเชิงเส้น อัตราเปลี่ยนของอุณหภูมิสำหรับข้น apricot สูงกว่าลูกพีชบดที่ไล่แรงดันทั้งหมดใช้ฟองที่เกิดขึ้นสูงกว่า 60
C โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ไฟฟ้าแรงสูงการไล่ระดับสี . เลือกเคลือบขั้วไฟฟ้าเฉื่อย , การใช้พลังงานความถี่สูงและการป้องกันของฟองอากาศในตัวอย่างสามารถหลีกเลี่ยงการเกิดฟอง โดยแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ ใช้ระบบการทำงานแบบนึงสามารถใช้ทำนายถูกต้องค่าเวลาความร้อนของ purees ผลไม้การเปลี่ยนแปลงค่าสัมประสิทธิ์สมรรถนะของระบบการนำไฟฟ้าระหว่างความร้อนค่าสำคัญในการออกแบบของค่าเครื่องทำความร้อน