These chapters introduce the reader to Hester Prynne and begin to expl การแปล - These chapters introduce the reader to Hester Prynne and begin to expl ไทย วิธีการพูด

These chapters introduce the reader

These chapters introduce the reader to Hester Prynne and begin to explore the theme of sin, along with its connection to knowledge and social order. The chapters’ use of symbols, as well as their depiction of the political reality of Hester Prynne’s world, testify to the contradictions inherent in Puritan society. This is a world that has already “fallen,” that already knows sin: the colonists are quick to establish a prison and a cemetery in their “Utopia,” for they know that misbehavior, evil, and death are unavoidable. This belief fits into the larger Puritan doctrine, which puts heavy emphasis on the idea of original sin—the notion that all people are born sinners because of the initial transgressions of Adam and Eve in the Garden of Eden.

But the images of the chapters—the public gatherings at the prison and at the scaffold, both of which are located in central common spaces—also speak to another Puritan belief: the belief that sin not only permeates our world but that it should be actively sought out and exposed so that it can be punished publicly. The beadle reinforces this belief when he calls for a “blessing on the righteous Colony of the Massachusetts, where iniquity is dragged out into the sunshine.” His smug self-righteousness suggests that Hester’s persecution is fueled by more than the villagers’ quest for virtue. While exposing sin is meant to help the sinner and provide an example for others, such exposure does more than merely protect the community. Indeed, Hester becomes a scapegoat, and the public nature of her punishment makes her an object for voyeuristic contemplation; it also gives the townspeople, particularly the women, a chance to demonstrate—or convince themselves of—their own piety by condemning her as loudly as possible. Rather than seeing their own potential sinfulness in Hester, the townspeople see her as someone whose transgressions outweigh and obliterate their own errors.

Yet, unlike her fellow townspeople, Hester accepts her humanity rather than struggles against it; in many ways, her “sin” originated in her acknowledgment of her human need for love, following her husband’s unexplained failure to arrive in Boston and his probable death. The women of the town criticize her for embroidering the scarlet letter, the symbol of her shame, with such care and in such a flashy manner: its ornateness seems to declare that she is proud, rather than ashamed, of her sin. In reality, however, Hester simply accepts the “sin” and its symbol as part of herself, just as she accepts her child. And although she can hardly believe her present “realities,” she takes them as they are rather than resisting them or trying to atone for them.

Both the rosebush and Hester resist the kinds of fixed interpretation that the narrator associates with religion. The narrator offers multiple possibilities for the significance of the rosebush near the prison door, as he puzzles over its survival in his source manuscript. But, in the end, he rejects all of its possible “meanings,” refusing to give the rosebush a definitive interpretation.

So, too, does the figure of Hester offer various options for interpretation. The fact that she is a woman with a past, with memories of a childhood in England, a marriage in Europe, and a journey to America, means that, despite what the Puritan community thinks, she cannot be defined solely in terms of a single action, in terms of her great “sin.” Pearl, her child, is evidence of this: her existence makes the scarlet letter redundant in that it is she and not the snippet of fabric that is the true consequence of Hester’s actions. As Pearl matures in the coming chapters and her role in Hester’s life becomes more complex, the part Hester’s “sin” plays in defining her identity will become more difficult to determine. For now, the infant’s presence highlights the insignificance of the community’s attempt at punishment: Pearl is a sign of a larger, more powerful order than that which the community is attempting to assert—be it nature, biology, or a God untainted by the corruptions of human religious practices. The fact that the townspeople focus on the scarlet letter rather than on the human child underlines their pettiness, and their failure to see the more “real” consequences of Hester’s action.

From this point forward, Hester will be formally, officially set apart from the rest of society; yet these opening chapters imply that, even before her acquisition of the scarlet letter, she had always been unique. The text describes her appearance as more distinctive than conventionally beautiful: she is tall and radiates a natural nobility that sets her apart from the women of the town, with whom she is immediately juxtaposed. Hester’s physical isolation on the scaffold thus only manifests an internal alienation that predates the beginning of the plot.

This is the first of three important scenes involving the scaffold. Each of these scenes will show a character taking the first step toward a sort of Emersonian self-reliance, the kind of self-reliance that would come to replace Puritan ideology as the American ideal. In this scene, Hester confronts her “realities” and discovers a new self that does not fit with her old conceptions of herself. Puritan doctrine views “reality” as merely an obstacle to a world beyond this one; Hester’s need to embrace her current situation (in part by literally embracing her daughter) implies a profound separation from the ideals of that ideological system. From now on, Hester will stand outside, if still surrounded by, the Puritan order.
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
บทนี้แนะนำอ่าน Hester Prynne และเริ่มต้นสำรวจของบาป พร้อมกับการเชื่อมต่อความรู้และสังคมสั่ง บทใช้สัญลักษณ์ เป็นการแสดงให้เห็นของพวกเขาของความเป็นจริงทางการเมืองของ Hester Prynne โลก เป็นพยานการกันก็ในสังคม Puritan เป็นโลกที่มีอยู่แล้ว "ลดลง ที่รู้บาปแล้ว: colonists ที่จะรวดเร็วในการสร้างเรือนจำและสุสานในตน"ยูโทเปีย สำหรับพวกเขาทราบว่า misbehavior ความชั่ว และความตายหลีกเลี่ยงไม่ ความเชื่อนี้เหมาะกับเป็นใหญ่ Puritan ลัทธิ ที่เน้นหนักในความคิดของบาปเดิม — ความคิดที่ทุกคนจะเกิดบาปเนื่องจาก transgressions เริ่มต้นของอาดัมและเอวาใน Eden ของสวนแต่ภาพของบท — ที่สาธารณะสังสรรค์ ที่คุก และ ที่ นั่งร้าน ซึ่งทั้งสองอยู่ในพื้นที่ภาคกลางทั่วไปซึ่งยัง พูดให้เชื่ออีก Puritan: เชื่อว่า บาปไม่เฉพาะบริเวณห่างออกไปโลกของเรา แต่ว่า มันควรจะอย่างขอออก และสัมผัสให้สามารถโทษทั่วไป Beadle reinforces ความเชื่อนี้เมื่อเขาเรียกว่าเป็น "พระพรในอาณานิคมความชอบธรรมของรัฐแมสซาชูเซตส์ ที่ถูกลากออกเพราะในแสงแดด" Self-righteousness smug เขาแนะนำว่า การเบียดเบียนของ Hester เป็นกลุ่มของชาวบ้านแสวงหาคุณธรรมมากกว่า ขณะเปิดเผยบาปตั้งใจช่วยคนบาป และให้ตัวอย่างผู้อื่น เช่นแสงมากไปกว่าปกป้องชุมชน แน่นอน Hester กลายเป็น แพะรับบาปไปโดย และธรรมชาติสาธารณะของโทษของเธอทำให้เธอวัตถุสำหรับสื่อ voyeuristic มันยังช่วยให้การ townspeople โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้หญิง โอกาสแสดง — หรือมั่นใจตัวเองของ — ความยำเกรงตน โดยประณามการใช้เธอดังสุด กลับเห็นบาปของตนเองมีศักยภาพใน Hester, townspeople เห็นเธอเป็นคนที่ transgressions ไปหมด และลบล้างข้อผิดพลาดของตนเองยัง ซึ่งแตกต่างจาก townspeople เพื่อนของเธอ Hester ยอมรับเธอมนุษย์แทนที่ต่อสู้กับมัน ในหลาย ๆ เธอ "บาป" มาในการยอมรับของเธอของเธอต้องรัก ต่อความล้มเหลวที่ไม่คาดหมายของสามีถึงในบอสตันและตายน่าเป็น ผู้หญิงเมืองโจมตีเธอสำหรับถักตัวอักษรสีแดง สัญลักษณ์ของความอัปยศของเธอ รักษา และ ในลักษณะสามอย่าง: ornateness มันน่าจะ ประกาศว่า เธอเป็นความภาคภูมิใจ มากกว่า ละอาย บาปของเธอ ในความเป็นจริง อย่างไรก็ตาม Hester เพียงยอมรับ "ความบาป" และเป็นสัญลักษณ์ของตัวเอง เหมือนเธอยอมรับลูก และแม้ว่าเธอไม่สามารถเชื่อว่า "จริง" ของเธออยู่ เธอจะได้เป็นพวกเขาแทนที่จะต่อต้านพวกเขา หรือพยายามเพื่อพวกเขาRosebush และ Hester ต้านชนิดความคงที่'ผู้บรรยาย'ที่เชื่อมโยงกับศาสนา ผู้เสนอไปหลายสำหรับความสำคัญของ rosebush ใกล้ประตูเรือนจำ เขาปริศนากว่าความอยู่รอดในต้นฉบับของเขา แต่ สุดท้าย เขาปฏิเสธทั้งหมดได้ "ความหมาย ปฏิเสธที่จะให้ rosebush ตีความทั่วไปดังนั้น เกินไป ไม่รูปของ Hester ให้ตัวเลือกต่าง ๆ สำหรับการตีความ ความจริงที่ว่า เธอเป็นผู้หญิง มีอดีต กับความทรงจำวัยเด็กที่ในอังกฤษ การแต่งงานในยุโรป และการเดินทางไปอเมริกา หมายความ ว่า แม้ว่าชุมชน Puritan คิด เธอไม่สามารถกำหนดแต่เพียงผู้เดียวในการ ในบาปของเธอดี"" เพิร์ล ลูก เป็นหลักฐานนี้: เธอมีอยู่ทำให้ตัวอักษรสีแดงซ้ำซ้อนที่เธอและไม่ส่วนย่อยของผ้าที่เป็นสัจจะความจริงของการดำเนินการของ Hester เพิร์ลกลั่นในบทมา และบทบาทของเธอในชีวิตของ Hester กลายเป็นซับซ้อน เล่น "บาป" ของ Hester ส่วนในการกำหนดรหัสประจำตัวของเธอจะยากต่อการกำหนด สำหรับตอนนี้ สถานะของทารกเน้น insignificance ของความพยายามของชุมชนในการลงโทษ: เพิร์ลเป็นเครื่องหมายของใบใหญ่ มีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าที่ชุมชนพยายามยืนยันรูป — ไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติ ชีววิทยา หรือพระเจ้าเหล่า โดยความเสียหายของบุคคลปฏิบัติทางศาสนา ความจริงที่ว่า ความ townspeople ตัวอักษรสีแดง มากกว่า ในเด็กมนุษย์ขีดเส้นใต้ pettiness ของพวกเขา และความล้มเหลวของพวกเขาเพื่อดูผล "จริง" มากขึ้นของการกระทำของ Hesterจากจุดนี้ไปข้างหน้า Hester จะอย่างเป็นกิจจะลักษณะ ทางสร้างส่วนเหลือของสังคม ยัง เปิดบทเหล่านี้เป็นสิทธิ์แบบว่า แม้แต่ก่อนซื้อหนังสือสีแดงของเธอ เธอได้เสมอไม่ซ้ำกัน ข้อความที่อธิบายลักษณะของเธอโดดเด่นเป็นยิ่งกว่าสวยดี: เธอสูง และแผ่กระจายออกขุนนางธรรมชาติที่เธอจากผู้หญิงเมือง ด้วยการที่เธอได้ทันทีความหรูหราอันน่า แยกทางกายภาพของ Hester บนนั่งร้านดังเฉพาะปรากฏการฝังภายในที่ตั้งเริ่มต้นแผนครั้งแรกของ 3 ฉากสำคัญเกี่ยวข้องกับนั่งร้านอยู่ แต่ละฉากเหล่านี้จะแสดงตัวอักษรที่มีขั้นตอนการจัดเรียงของ Emersonian พึ่งพาตนเอง ชนิดของการพึ่งพาตนเองที่จะมาแทนอุดมการณ์ Puritan เป็นเหมาะอเมริกัน แรก ในฉากนี้ Hester กับความ "จริง" ของเธอ และพบใหม่ด้วยตนเองที่ไม่พอดีกับเธอ conceptions เก่าของตัวเอง Puritan สอนมุมมอง "ความจริง" เป็นแค่อุปสรรคในโลกนอกเหนือจากนี้หนึ่ง ของ Hester ต้องโอบกอดเธอสถานการณ์ปัจจุบัน (ส่วนหนึ่ง โดยหนึ่งในบรรดาลูกสาวของเธออย่างแท้จริง) หมายถึงการแยกลึกซึ้งจากอุดมคติของระบบที่อุดมการณ์ จากนี้ Hester จะยืนอยู่นอก ถ้ายัง ล้อมรอบไป ด้วย สั่ง Puritan
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
These chapters introduce the reader to Hester Prynne and begin to explore the theme of sin, along with its connection to knowledge and social order. The chapters’ use of symbols, as well as their depiction of the political reality of Hester Prynne’s world, testify to the contradictions inherent in Puritan society. This is a world that has already “fallen,” that already knows sin: the colonists are quick to establish a prison and a cemetery in their “Utopia,” for they know that misbehavior, evil, and death are unavoidable. This belief fits into the larger Puritan doctrine, which puts heavy emphasis on the idea of original sin—the notion that all people are born sinners because of the initial transgressions of Adam and Eve in the Garden of Eden.

But the images of the chapters—the public gatherings at the prison and at the scaffold, both of which are located in central common spaces—also speak to another Puritan belief: the belief that sin not only permeates our world but that it should be actively sought out and exposed so that it can be punished publicly. The beadle reinforces this belief when he calls for a “blessing on the righteous Colony of the Massachusetts, where iniquity is dragged out into the sunshine.” His smug self-righteousness suggests that Hester’s persecution is fueled by more than the villagers’ quest for virtue. While exposing sin is meant to help the sinner and provide an example for others, such exposure does more than merely protect the community. Indeed, Hester becomes a scapegoat, and the public nature of her punishment makes her an object for voyeuristic contemplation; it also gives the townspeople, particularly the women, a chance to demonstrate—or convince themselves of—their own piety by condemning her as loudly as possible. Rather than seeing their own potential sinfulness in Hester, the townspeople see her as someone whose transgressions outweigh and obliterate their own errors.

Yet, unlike her fellow townspeople, Hester accepts her humanity rather than struggles against it; in many ways, her “sin” originated in her acknowledgment of her human need for love, following her husband’s unexplained failure to arrive in Boston and his probable death. The women of the town criticize her for embroidering the scarlet letter, the symbol of her shame, with such care and in such a flashy manner: its ornateness seems to declare that she is proud, rather than ashamed, of her sin. In reality, however, Hester simply accepts the “sin” and its symbol as part of herself, just as she accepts her child. And although she can hardly believe her present “realities,” she takes them as they are rather than resisting them or trying to atone for them.

Both the rosebush and Hester resist the kinds of fixed interpretation that the narrator associates with religion. The narrator offers multiple possibilities for the significance of the rosebush near the prison door, as he puzzles over its survival in his source manuscript. But, in the end, he rejects all of its possible “meanings,” refusing to give the rosebush a definitive interpretation.

So, too, does the figure of Hester offer various options for interpretation. The fact that she is a woman with a past, with memories of a childhood in England, a marriage in Europe, and a journey to America, means that, despite what the Puritan community thinks, she cannot be defined solely in terms of a single action, in terms of her great “sin.” Pearl, her child, is evidence of this: her existence makes the scarlet letter redundant in that it is she and not the snippet of fabric that is the true consequence of Hester’s actions. As Pearl matures in the coming chapters and her role in Hester’s life becomes more complex, the part Hester’s “sin” plays in defining her identity will become more difficult to determine. For now, the infant’s presence highlights the insignificance of the community’s attempt at punishment: Pearl is a sign of a larger, more powerful order than that which the community is attempting to assert—be it nature, biology, or a God untainted by the corruptions of human religious practices. The fact that the townspeople focus on the scarlet letter rather than on the human child underlines their pettiness, and their failure to see the more “real” consequences of Hester’s action.

From this point forward, Hester will be formally, officially set apart from the rest of society; yet these opening chapters imply that, even before her acquisition of the scarlet letter, she had always been unique. The text describes her appearance as more distinctive than conventionally beautiful: she is tall and radiates a natural nobility that sets her apart from the women of the town, with whom she is immediately juxtaposed. Hester’s physical isolation on the scaffold thus only manifests an internal alienation that predates the beginning of the plot.

This is the first of three important scenes involving the scaffold. Each of these scenes will show a character taking the first step toward a sort of Emersonian self-reliance, the kind of self-reliance that would come to replace Puritan ideology as the American ideal. In this scene, Hester confronts her “realities” and discovers a new self that does not fit with her old conceptions of herself. Puritan doctrine views “reality” as merely an obstacle to a world beyond this one; Hester’s need to embrace her current situation (in part by literally embracing her daughter) implies a profound separation from the ideals of that ideological system. From now on, Hester will stand outside, if still surrounded by, the Puritan order.
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
บทเหล่านี้แนะนำผู้อ่านเฮสเตอร์พรินน์และเริ่มที่จะสำรวจรูปแบบของบาป พร้อมกับของการเชื่อมต่อความรู้และระเบียบทางสังคม บท ' ใช้สัญลักษณ์เช่นเดียวกับการวาดภาพของพวกเขาในความเป็นจริงทางการเมืองของเฮสเตอร์พรินน์โลก เป็นพยานถึงความขัดแย้งที่มีอยู่ในสังคม . . นี้เป็นโลกที่ได้ " ลดลง " นั้น รู้เรื่องบาปอาณานิคมอย่างรวดเร็วเพื่อสร้างคุกสุสานในอุดมคติของพวกเขา " และ " พวกเขารู้ว่า ความผิด ความชั่วร้าย และความตายเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ความเชื่อนี้พอดีกับขนาดใหญ่ในการสอน ซึ่งจะเน้นหนักในความคิดของบาปดั้งเดิมความคิดที่ว่า ทุกคนเกิดบาปเพราะการละเมิดครั้งแรกของอาดัมและเอวาในสวนเอเดน .

แต่ภาพของบทประชาชนชุมนุมหน้าคุกและนั่งร้าน ซึ่งทั้งสองตั้งอยู่ในพื้นที่ทั่วไปส่วนกลางยังพูดอีกในความเชื่อ : เชื่อว่า บาป ไม่เพียง แต่ไนโลก ของเรา แต่มันควรจะเป็นอย่างค้นหาและเปิดเผยเพื่อให้สามารถลงโทษต่อหน้าสาธารณชนเจ้าหน้าที่ส่งเสริมความเชื่อนี้เมื่อเขาเรียก " พระพรในอาณานิคมอันชอบธรรมของแมสซาชูเซตที่ชั่วช้าถูกลากออกในแสงแดด " ของเขาสบายใจตนเองความชอบธรรม ชี้ให้เห็นว่า เฮสเตอร์ การประหัตประหารเป็นเชื้อเพลิงมากกว่าการแสวงหาของชาวบ้านเพื่อคุณธรรม ในขณะที่การเปิดเผยบาปมีขึ้นเพื่อช่วยคนบาปและให้ตัวอย่างสำหรับคนอื่นเช่นการทำมากกว่าเพียงแค่ปกป้องชุมชน แน่นอน , เฮสเตอร์กลายเป็นแพะรับบาป และลักษณะสาธารณะของการลงโทษของเธอทำให้เธอวัตถุสำหรับ voyeuristic ฌาน ; มันยังช่วยให้คนในเมือง โดยเฉพาะผู้หญิง โอกาสที่จะพิสูจน์หรือโน้มน้าวตัวเองของความนับถือตนเอง โดยประณามเธอเสียงดังที่สุดแทนที่จะเห็นบาปกรรมศักยภาพของตัวเองใน เฮสเตอร์ ชาวเมืองเห็นเธอเป็นคนที่มีการละเมิดและขจัดข้อผิดพลาดของตัวเอง

ยัง แตกต่างจากเพื่อนของเธอเมืองเฮสเตอร์ยอมรับความเป็นมนุษย์ของเธอ แทนที่จะต่อสู้กับมัน ; ในหลาย ๆ ของเธอ " บาป " ในการรับรู้ของมนุษย์ของเธอ เธอต้องการความรักต่อไปนี้คือสามีของเธอที่ไม่ล้มเหลวที่จะมาถึงในบอสตันและความตายของเขาน่าจะเป็น ผู้หญิงในเมืองวิจารณ์เธอปักตัวอักษรสีแดง เป็นสัญลักษณ์ของความอัปยศของเธอกับการดูแลดังกล่าว และในลักษณะที่ฉูดฉาดและหรูหราดูเหมือนจะประกาศว่าเธอภูมิใจ แทนที่จะละอายบาปของเธอ ในความเป็นจริง อย่างไรก็ตามเฮสเตอร์ยอมรับเพียง " บาป " และสัญลักษณ์ของมันเป็นส่วนหนึ่งของตัวเธอ เช่นเดียวกับที่เธอยอมรับลูกของเธอ และแม้ว่าเธอจะไม่ค่อยเชื่อความเป็นจริงในปัจจุบัน " เธอ " เธอใช้พวกเขาเป็นพวกเขามากกว่าการต่อต้าน หรือพยายามจะชดใช้ให้เขา

ทั้งโรสบุชเฮสเตอร์ต่อต้านและชนิดของการแก้ไขการตีความที่เล่าเรื่องเชื่อมโยงกับศาสนาเล่าเรื่อง มีความเป็นไปได้หลาย สำหรับความสำคัญของโรสบุชใกล้ประตูคุกเป็นเขาปริศนากว่าความอยู่รอดของเขาในแหล่งต้นฉบับ แต่ในท้ายที่สุด เขาปฏิเสธทุกความหมายที่เป็นไปได้ของ " , " ปฏิเสธที่จะให้โรสบุชมีการตีความที่ชัดเจน

เหมือนกัน รูปของเฮสเตอร์ไม่เสนอตัวเลือกต่าง ๆสำหรับการตีความความจริงที่ว่าเธอเป็นผู้หญิงที่มีอดีตกับความทรงจำในวัยเด็กในอังกฤษ การแต่งงาน ในยุโรป และการเดินทางไปอเมริกา หมายถึงว่า แม้สิ่งที่ชุมชนเคร่งศาสนามาก คิดว่า เธอไม่สามารถกำหนด แต่เพียงผู้เดียวในแง่ของการกระทำเดียว ในแง่ของความบาปที่ยิ่งใหญ่ " เธอ " มุก , เด็ก เธอ คือ หลักฐานนี้การดำรงอยู่ของเธอ ทำให้จดหมายสีแดง ( ที่เป็นเธอไม่ใช่ตัวอย่างของผ้าที่เป็นผลที่แท้จริงของการกระทำของเฮสเตอร์ เป็นไข่มุก ) มาในบทและบทบาทของเธอในชีวิตของเฮสเตอร์จะกลายเป็นความซับซ้อนมากขึ้น ส่วนเฮสเตอร์ " บาป " เล่นในการกำหนดตัวตนของเธอจะกลายเป็นยากที่จะตรวจสอบได้ สำหรับตอนนี้การแสดงของเด็กเน้นความสำคัญของชุมชนที่พยายามจะลงโทษ มุกเป็นสัญลักษณ์ของขนาดใหญ่ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อกว่าที่ชุมชนพยายามที่จะยืนยันให้มันธรรมชาติ ชีววิทยา หรือพระเจ้าบริสุทธิ์ โดยการคอรัปชั่นของการปฏิบัติทางศาสนาของมนุษย์ความจริงที่ชาวกรุงมุ่งจดหมายสีแดงมากกว่าเด็กมนุษย์ขีดเส้นใต้คิดเล็กคิดน้อย และความล้มเหลวของพวกเขาที่จะเห็นมากขึ้น " จริง " ผลของการกระทำของเฮสเตอร์

จากจุดนี้ไปข้างหน้า เฮสเตอร์อย่างเป็นทางการจะเป็นชุดแยกจากส่วนที่เหลือของสังคม แต่บทเปิดเปรยว่า แม้กระทั่งก่อนที่การของเธอในจดหมายสีแดงเข้มเธอมักจะไม่ซ้ำกัน ข้อความที่อธิบายถึงการปรากฏตัวของเธอที่โดดเด่นกว่าด้วยสวยงาม เธอทั้งสูงและแผ่ธรรมชาติชุดขุนนางที่เธอแตกต่างจากผู้หญิงในเมืองที่เธออยู่ทันที juxtaposed . เฮสเตอร์ การแยกทางกายภาพบนนั่งร้านจึงปรากฏภายในความแปลกแยกเพียงก่อนเริ่มต้นของ

พล็อตนี้เป็นครั้งแรกของทั้งสามที่สำคัญฉากที่เกี่ยวข้องกับนั่งร้าน แต่ละฉากเหล่านี้จะแสดงอักขระการขั้นตอนแรกในการจัดเรียงของ emersonian พึ่งตนเอง ชนิดของการพึ่งตนเอง ที่จะมาแทนที่ในอุดมการณ์อุดมคติของอเมริกัน ในฉากนี้ เฮสเตอร์จะเผชิญหน้ากับเธอ " ความเป็นจริง " และค้นพบใหม่ตัวเองที่ไม่เหมาะกับแนวความคิดเก่าของตัวเธอความคิดเห็น " ลัทธิเพียวริตันความจริง " เป็นเพียงอุปสรรคไปอีกโลกหนึ่ง เฮสเตอร์ ต้องยอมรับสภาพของเธอ ( ในส่วนหนึ่ง โดยหมายกอดลูกสาว ) หมายถึงการแยกที่ลึกซึ้งจากอุดมคติของอุดมการณ์ของระบบ จากนี้ไป เฮสเตอร์จะยืนอยู่ข้างนอก ถ้ายังล้อมรอบด้วย คำสั่ง . .
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: