for classifying cows into the vario

for classifying cows into the various categories of disease
examined in this report. The authors argue, however,
that disease diagnosis throughout the study is consistent with industry practices, where farm personnel are
responsible for identifying and diagnosing sick cows. It
should also be stated that, although dairy personnel
did not have access to the RT data during the duration
of the study, it is possible those employees responsible
for identifying sick animals became more aware of the
health status of milking cows following bolus placement. If this were the case, it could be argued that
dairy personnel were more aware and identified more
sick animals than they would normally. As a result of
this potentially increased awareness, the proportion of
cows diagnosed with a health event may be higher than
it would be under routine circumstances. Also, because
health disorders were classified by body system affected
and the resulting clinical signs and not by specific etiology, it is very possible that the value of increased
core temperature as a predictor of disease caused by
a specific agent was not apparent in this study. This
could well be the case of lameness as a sign of disease.
Future studies should focus on etiological agents and
the likelihood of a fever before clinical signs of disease.
Although the normal body temperature of dairy cows
is reported to range from 38.0 to 39.4°C (Hewitt, 1921;
Hicks et al., 2001; Bewley et al., 2008b) variation can
occur between cows due to diurnal variations, activity
level, estrus, and environmental conditions (Wrenn et
al., 1961; Lefcourt et al., 1999; Bewley et al., 2008b;
Schutz and Bewley, 2009). Being able to establish a
baseline temperature, taking into account diurnal and
environmental variations, allows for a more accurate
assessment on the individual cow level (Lefcourt et al.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สำหรับแม่โคที่จัดประเภทเป็นประเภทต่าง ๆ ของโรคตรวจสอบในรายงานนี้ ผู้เขียนโต้แย้ง อย่างไรก็ตามที่วินิจฉัยโรคตลอดทั้งการศึกษาจะสอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติของอุตสาหกรรม บุคลากรฟาร์มอยู่รับผิดชอบในการระบุ และวิเคราะห์วัวป่วย มันนอกจากนี้ควรระบุว่า นมแม้ว่าบุคลากรไม่มีการเข้าถึงข้อมูล RT ในระหว่างระยะเวลาการศึกษา เป็นพนักงานผู้รับผิดชอบสำหรับระบุสัตว์ป่วยได้ตระหนักถึงการสถานะสุขภาพของการรีดนมวัวต่อตำแหน่ง bolus ถ้ากรณี มันอาจจะโต้เถียงที่นมบุคลากรได้ตระหนักถึง และระบุเพิ่มเติมสัตว์ป่วยมากกว่าผู้ที่ปกติ เป็นผลมาจากความรู้นี้อาจเพิ่มขึ้น สัดส่วนของการวินิจฉัย ด้วยเหตุการณ์สุขภาพวัวอาจจะสูงกว่ามันจะเป็นสถานการณ์ตามปกติ ยัง เนื่องจากสุขภาพโรคได้ตามระบบร่างกายที่ได้รับผลกระทบและอาการแสดงทางคลินิกที่เป็นผลลัพธ์ และไม่ โดยเฉพาะวิชาการ มันเป็นไปได้มากว่า ค่าเพิ่มอุณหภูมิแกนเป็นผู้ทายผลของโรคตัวแทนการไม่ชัดเจนในการศึกษานี้ นี้ดีเป็นกรณีของความอ่อนแอเป็นสัญญาณของโรคการศึกษาในอนาคตควรเน้นตัวแทน etiological และโอกาสของไข้ก่อนอาการแสดงทางคลินิกของโรคแม้ว่าปกติร่างกายอุณหภูมิของนมรายงานช่วงจาก 38.0 องศาเซลเซียสถึง 39.4 องศา C (ฮิววิท 1921Hicks et al., 2001 Bewley et al., 2008b) สามารถเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นระหว่างวัวเนื่องจากรูปแบบ diurnal กิจกรรมระดับ estrus และสภาพแวดล้อม (Wrenn etal., 1961 Lefcourt et al., 1999 Bewley et al., 2008bSchutz ก Bewley, 2009) ความสามารถในการสร้างความอุณหภูมิพื้นฐาน เข้าบัญชี diurnal และเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อม ช่วยให้แม่นยำมากขึ้นประเมินในวัวแต่ละระดับ (Lefcourt et al

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การจัดตัวลงในประเภทต่างๆของโรค
ตรวจสอบในรายงานนี้ ผู้เขียนโต้แย้ง อย่างไรก็ตาม
ที่วินิจฉัยโรคตลอดการศึกษาสอดคล้องกับการปฏิบัติอุตสาหกรรม ซึ่งบุคลากรฟาร์ม
รับผิดชอบสำหรับการระบุและวินิจฉัยวัวป่วย มัน
ยังควรระบุว่า แม้ว่านมบุคลากร
ไม่ได้มีการเข้าถึงข้อมูล RT ในช่วงระยะเวลา
ของการศึกษามันเป็นไปได้ที่พนักงานที่รับผิดชอบ
หาสัตว์ป่วยก็ยิ่งตระหนักถึง
สถานะสุขภาพของโคนมตามตำแหน่งตำหนิติเตียน . ถ้าเป็นกรณีนี้ คุณอาจจะเถียงว่า
นมบุคลากรเพิ่มเติมทราบและระบุเพิ่มเติม
สัตว์ป่วยกว่าที่พวกเขาจะได้ตามปกติ ผลของ
นี้อาจเพิ่มความตระหนัก สัดส่วนของ
วัวการวินิจฉัยเหตุการณ์สุขภาพอาจจะสูงกว่า
จะภายใต้สถานการณ์ปกติ นอกจากนี้เนื่องจาก
ความผิดปกติของสุขภาพจำแนกตามระบบของร่างกายได้รับผลกระทบและผลทางคลินิก
ป้ายและไม่ได้โดยสาเหตุที่เฉพาะเจาะจงมากเป็นไปได้ว่าค่าของอุณหภูมิเป็นหลักเพิ่มขึ้น
ทำนายโรคที่เกิดจาก
ตัวแทนเฉพาะไม่ ปรากฏ ในการศึกษานี้ นี้
อาจจะเป็นกรณีพิการ เป็นสัญญาณของโรค .
การศึกษาในอนาคตควรเน้นตัวแทนทราบและ
โอกาสเป็นไข้ก่อนอาการทางคลินิกของโรค .
ถึงแม้ว่าปกติอุณหภูมิของร่างกายของโคนม
รายงานช่วงจาก 38.0 ถึง 39.4 องศา C ( Hewitt , 2464 ;
ฮิกส์ et al . , 2001 ; บิวลีย์ et al . , 2008b ) การเปลี่ยนแปลงสามารถเกิดขึ้นระหว่างวัว
เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงในระดับกิจกรรม
,