In March 2002. when WorldCom was st

In March 2002. when WorldCom was struggling to coordinate and integrate the complex mess created by the 65 companies it had acquired, WorldCom's then highly respected chief financial officer, Scott Sullivan, moved $400 million from a reserve account and recorded it as "income ~ in the company's public financial reports. Alerted to this, Cynthia Cooper, the perfectionist head of WorldCom's internal audit department, began to secretly examine the company's books at night. She soon discovered that Scott Sullivan (named a "best CFO" by CFO Magazine in 1998) and David Myers, WorldCom's controller, for years had publicly reported billions of dollars as "capital expenditures~ when they were really operating costs, ignored uncollectible receivables, and reported as "income" what were really reserve funds, and did all this with the help of Arthur Andersen, the company's auditor and accounting firm. Though angrily threatened by Sullivan, and risking her job and career, on June 20, 2002, an apprehensive Cooper courageously met with the audit committee of WorldCom's board of directors and told them what had been going on. On June 25, WorldCom's directors announced the company had inflated its profits by over $3.8 billion- an amount later raised to $9 billion- in the 9reatest accounting fraud in history. Sullivan and Myers were arrested; WorldCom shareholders lost $3 billion; 17,000 WorldCom workers lost their jobs; Arthur Andersen was shutdown for shredding evidence of other accounting frauds at other firms. Today, many WorldCom managers and employees do not speak to her and she sometimes cries. Says Cooper: "There Is a price to be paid. [But] it comes back to the values and ethics that you learn .... The fear of losing my job was secondary to the obligation I felt.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในมีนาคม 2002 เมื่อเรียกเก็บเงินเป็นดิ้นรนเพื่อประสานงาน และบูรณาการระเบียบซับซ้อนที่สร้าง โดยบริษัท 65 จะได้รับ เรียกเก็บเงินเป็นของ แล้วบารมีหัวหน้าเจ้าหน้าที่การเงิน สก็อตต์ซัลลิแวน ย้าย $400 ล้านจากบัญชีสำรอง และเก็บไว้เป็น "รายได้ ~ ในบริษัทสาธารณะรายงานทางการเงิน แจ้งนี้ คูซินเทีย หัวหน้าแผนกตรวจสอบภายในการเรียกเก็บเงินเป็นของ สมบูรณ์แบบเริ่มการตรวจสอบบัญชีของบริษัทแอบเวลากลางคืน เธอเร็ว ๆ นี้พบว่า ซัลลิแวนสก๊อต (ชื่อ "สุด CFO" โดยนิตยสาร CFO ในปี 1998) และเดวิดไมเออร์ เรียกเก็บเงินเป็นของคอนโทรลเลอร์ ปีได้เผยรายงานพันล้านดอลลาร์เป็น "ค่าใช้จ่าย ~ เมื่อพวกเขาได้จริง ๆ ค่าใช้จ่าย ละเว้นไม่สามารถเรียกเก็บลูกหนี้ และรายงานเป็น"รายได้"อะไรได้จริง ๆ ทุนสำรอง และทั้งหมดนี้ ด้วยความช่วยเหลือของอาเธอร์แอนเดอร์เซ็น สำนักงานบัญชีและผู้สอบบัญชีของบริษัทไม่ แต่ด้วยความโกรธขู่ โดยซัลลิแวน และความเสี่ยงของงานและอาชีพ บน 20 มิถุนายน 2002 คูวิตกการปฏิญาณกับเรียกเก็บเงินเป็นของคณะกรรมการบริษัทกรรมการตรวจสอบ และบอกพวกเขาว่าได้รับไปใน บน 25 มิถุนายน เรียกเก็บเงินเป็นของกรรมการประกาศบริษัทมีลมกำไรโดยกว่า $3.8 พันล้าน - ยอดเงินยกมาถึง $9 พันล้าน - ในการทุจริตบัญชี 9reatest ในประวัติศาสตร์ ซัลลิแวนและไมเยอร์ถูกจับ เรียกเก็บเงินเป็นผู้ถือหุ้นสูญ 3 พันล้านดอลลาร์ แรงงานเรียกเก็บเงินเป็น 17,000 ที่สูญเสียงานของพวกเขา อาร์เธอร์แอนเดอร์เซ็นถูกปิดสำหรับหลักฐานการทุจริตทางบัญชีอื่น ๆ ที่อื่น ๆ บริษัทหั่นย่อย วันนี้ จัดการเรียกเก็บเงินเป็นจำนวนมากและพนักงานไม่พูดกับเธอ และเธอร้องไห้บางครั้ง คูเปอร์กล่าวว่า: "มีราคาต้องชำระ [...] มันมากลับถึงค่านิยมและจริยธรรมที่เรียนรู้ ความกลัวการสูญเสียงานของฉันถูกรองรู้สึกผูกพัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในเดือนมีนาคม 2002 เมื่อ WorldCom กำลังดิ้นรนในการประสานงานและบูรณาการระเบียบที่ซับซ้อนที่สร้างขึ้นโดย บริษัท 65 มันได้มาแล้วที่เคารพอย่างสูงเจ้าหน้าที่การเงิน WorldCom หัวหน้าสกอตต์ซัลลิแวนย้าย $ 400 ล้านจากบัญชีสำรองและบันทึกไว้ว่ามันเป็น "รายได้ ~ ใน รายงานทางการเงินของ บริษัท ที่สาธารณะ. แจ้งเตือนไปนี้ซินเทียคูเปอร์หัวดีเลิศของฝ่ายตรวจสอบภายในเวิร์เริ่มที่จะแอบตรวจสอบหนังสือของ บริษัท ฯ ในเวลากลางคืน. ไม่ช้าเธอก็ค้นพบว่าสกอตต์ซัลลิแวน (ชื่อ "ที่ดีที่สุดของซีเอฟโอ" โดยนิตยสารซีอีโอในปี 1998 ) และเดวิดไมเออร์, ควบคุม WorldCom ของปีที่ผ่านมามีรายงานต่อสาธารณชนพันล้านดอลลาร์ขณะที่ "ค่าใช้จ่ายทุน ~ เมื่อพวกเขาถูกจริงๆค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานไม่สนใจลูกหนี้เก็บเงินและรายงานเป็น" รายได้ "สิ่งที่ถูกจริงๆสำรองเงินและทำทุกอย่างนี้ด้วย ความช่วยเหลือของอาร์เธอร์แอนเดอของ บริษัท ผู้สอบบัญชีและการบัญชี บริษัท แม้ว่าจะถูกคุกคามด้วยความโกรธโดยซัลลิแวนและเสี่ยงต่อการงานและอาชีพของเธอวันที่ 20 มิถุนายน 2002 วิตกคูเปอร์กล้าหาญได้พบกับคณะกรรมการตรวจสอบของคณะกรรมการ WorldCom ของกรรมการและบอกพวกเขาสิ่งที่ได้รับไปใน เมื่อวันที่ 25 มิถุนายนกรรมการ WorldCom ประกาศ บริษัท มีผลกำไรที่สูงขึ้นกว่า $ 3.8 พันล้านในปริมาณที่ภายหลังยก $ 9 พันล้านในการทุจริตการบัญชี 9reatest ในประวัติศาสตร์ ซัลลิแวนและไมเออร์ถูกจับ; ผู้ถือหุ้น WorldCom หายไป $ 3 พันล้าน 17,000 คนงาน WorldCom สูญเสียงานของพวกเขา Arthur Andersen ก็หยุดเดินเครื่องเพื่อ shredding หลักฐานของการทุจริตการบัญชีอื่น ๆ ของ บริษัท อื่น ๆ วันนี้ผู้จัดการ WorldCom จำนวนมากและพนักงานไม่ได้พูดกับเธอและบางครั้งเธอร้องไห้ กล่าวว่าคูเปอร์: "มีราคาที่จะต้องจ่ายเป็น [ แต่] มันกลับไปที่ค่านิยมและจริยธรรมที่คุณเรียนรู้มา .... กลัวการสูญเสียงานของฉันคือรองภาระผูกพันของฉันรู้สึก.

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มีนาคม 2002 เมื่อบัญชีถูกดิ้นรนเพื่อประสานงานและบูรณาการที่ซับซ้อนยุ่งเหยิง ที่สร้างขึ้นโดย 65 บริษัทได้รับบัญชีแล้วเคารพอย่างสูง , ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน สก๊อตซัลลิแวนย้าย $ 400 ล้านบาทจากบัญชีสำรองและบันทึกเป็น " รายได้ ~ ใน บริษัท ของรัฐรายงานทางการเงิน . การแจ้งเตือนนี้ ซินเธียคูเปอร์ ข้อดีของหัวหน้าฝ่ายตรวจสอบภายในบัญชีก็เริ่มแอบตรวจสอบหนังสือของ บริษัท ในเวลากลางคืน เธอเร็ว ๆนี้พบว่าสก็อต ซัลลิแวน ( ชื่อ " Best CFO " CFO Magazine ในปี 1998 ) และเดวิด ไมเออร์ , WorldCom ของคอนโทรลเลอร์ สำหรับปีได้เปิดเผยรายงานพันล้านดอลลาร์ เป็น " ค่าใช้จ่ายเงินทุน ~ เมื่อพวกเขาจริงๆค่าใช้จ่าย ไม่สนใจ uncollectible ลูกหนี้ และรายงานเป็น " รายได้ " แล้วจริงๆ เงินสำรอง และ ทำทั้งหมดนี้ ด้วยความช่วยเหลือของอาร์เธอร์ แอนเดอร์เซน , ผู้สอบบัญชีของ บริษัท และ บริษัท บัญชี แต่ด้วยความกลัว ซัลลิแวน และเสี่ยงกับงานและอาชีพของเธอ , บน 20 มิถุนายน 2002 , คูเปอร์หวั่นเกรงกล้าหาญเจอกับคณะกรรมการตรวจสอบของ WorldCom ของคณะกรรมการบริหารและบอกพวกเขาว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน บริษัท เวิลด์คอมประกาศบริษัทที่มีผลประกอบการที่สูงขึ้นกว่า $ 3.8 ล้าน - ยอดเงินทีหลังยก $ 9 พันล้านในการฉ้อโกงทางบัญชี 9reatest ในประวัติศาสตร์ ซัลลิแวน ไมเยอร์และถูกจับ ; บัญชีผู้ถือหุ้นเสีย $ 3 พันล้าน ; 17 , 000 บัญชีคนงานตกงาน ; Arthur Andersen ถูกปิดสําเนาหลักฐานการทุจริตบัญชีอื่น ๆ ที่ บริษัท อื่น ๆ วันนี้ หลายบัญชี ผู้จัดการและพนักงาน ไม่พูดกับเธอ และเธอก็ร้องไห้ คูเปอร์กล่าวว่า : " มีราคาที่ต้องจ่าย [ แต่ ] มันกลับมาเพื่อค่านิยมและจริยธรรมที่คุณได้เรียนรู้ . . . . . . . ความกลัวของการสูญเสียงานของฉันคือรองภาระหน้าที่ที่ผมรู้สึก