One isdiagnostically. An HIV-infect

One is
diagnostically. An HIV-infected patient who presents with central nervous system symptoms
such as headache and lethargy and has cryptococcal antigen detectable in his or
her serum is at high risk for having cryptococcal meningitis. In HIV-infected patients
with culture-proven cryptococcal meningitis, >99% have a positive cryptococcal antigen
test. The second way in which the antigen test can be used is to follow response to therapy.
Cryptococcal antigen can be quantitated in both serum and CSF by serially diluting these
body fluids and determining the highest dilution (most dilute) that produces a positive
agglutination reaction. This test can be used to follow the patient, with titers falling with
successful therapy. Increases in titer may herald relapse (see answer to question 5 for further
details). Both C. neoformans and C. gattii are positive in this test. Patients with sepsis
due to Trichosporon asahii and Capnocytophaga canimorsus can have a false-positive cryptococcal
antigen test.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หนึ่งคือdiagnostically การติดเชื้อเอชไอวีผู้ป่วยที่มีอาการระบบประสาทส่วนกลางเช่นปวดศีรษะและถูกกระตุ้น และมีการตรวจหา cryptococcal อาสาในเขา หรือเซรั่มของเธอเป็นความเสี่ยงสูงสำหรับการมีเยื่อหุ้มสมองอักเสบ cryptococcal ในผู้ป่วยที่ติดเชื้อเอชไอวีมีวัฒนธรรมพิสูจน์เวช cryptococcal, > 99% มีการตรวจหา cryptococcal บวกการทดสอบ วิธีที่สองซึ่งสามารถใช้ทดสอบตรวจหาจะติดตามการตอบสนองต่อการรักษาตรวจหา cryptococcal สามารถ quantitated ในซีรั่มและ CSF โดย serially diluting เหล่านี้ร่างกายของเหลวและการกำหนดที่สูงสุดเจือจาง (dilute มากที่สุด) ที่สร้างเป็นบวกปฏิกิริยา agglutination การทดสอบนี้ใช้ตามผู้ป่วย titers ที่ตกด้วยการบำบัดรักษาที่ประสบความสำเร็จ Titer เพิ่มขึ้นอาจเฮรัลด์กลับไปเสพ (ดูคำตอบคำถาม 5 เพิ่มเติมรายละเอียด) C. gattii และ C. neoformans เป็นบวกในการทดสอบนี้ ผู้ป่วย sepsisจาก Trichosporon asahii และ Capnocytophaga canimorsus ได้เป็นเท็จบวก cryptococcalการทดสอบตรวจหา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หนึ่งคือ
diagnostically ผู้ป่วยที่ติดเชื้อเอชไอวีที่มีอาการนำเสนอระบบประสาทส่วนกลาง
เช่นปวดศีรษะและง่วงและมีแอนติเจน cryptococcal ตรวจพบในของเขาหรือ
เธอเป็นเซรั่มที่มีความเสี่ยงสูงสำหรับการมีเยื่อหุ้มสมองอักเสบ cryptococcal ในผู้ป่วยที่ติดเชื้อเอชไอวี
ที่มีวัฒนธรรมการพิสูจน์เยื่อหุ้มสมองอักเสบ cryptococcal> 99% มีแอนติเจน cryptococcal บวก
ทดสอบ วิธีที่สองซึ่งในการทดสอบแอนติเจนสามารถนำมาใช้เป็นไปตามการตอบสนองต่อการรักษาด้วย.
แอนติเจน cryptococcal สามารถ quantitated ทั้งในซีรั่มและน้ำไขสันหลังโดยลำดับเหล่านี้เจือจาง
ของเหลวในร่างกายและการกำหนดลดสัดส่วนสูงสุด (เจือจางมากที่สุด) ที่ผลิตในเชิงบวก
ปฏิกิริยาการเกาะติดกัน การทดสอบนี้สามารถนำมาใช้ในการปฏิบัติตามของผู้ป่วยที่มีเชื้อลดลงด้วย
การรักษาที่ประสบความสำเร็จ การเพิ่มขึ้นของ titer อาจประกาศการกำเริบของโรค (ดูคำตอบสำหรับคำถามที่ 5 ต่อไป
รายละเอียด) ทั้งสอง C. neoformans และ C gattii เป็นบวกในการทดสอบนี้ ผู้ป่วยที่มีการติดเชื้อ
เนื่องจาก Trichosporon asahii และ Capnocytophaga canimorsus สามารถมี cryptococcal เท็จบวก
ทดสอบแอนติเจน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หนึ่งคือ
diagnostically . เป็นผู้ติดเชื้อเอชไอวี ผู้ป่วยที่แสดงกับระบบประสาท เช่น ปวดศีรษะ อาการ
และความง่วง และมี cryptococcal แอนติเจนที่ตรวจพบในซีรั่มหรือ
เธอเสี่ยงที่มีโรคเยื่อหุ้มสมอง . ในผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวี
กับวัฒนธรรมแล้ว เยื่อหุ้มสมองอักเสบ , > 99% มีการทดสอบแอนติเจน
cryptococcal บวกวิธีที่สองซึ่งแอนติเจนสามารถใช้เพื่อติดตามการรักษา สามารถผ่าน
cryptococcal แอนติเจนในซีรั่มและน้ำไขสันหลัง โดยทั้งสองเป็นเจือจางของเหลวในร่างกายเหล่านี้
และกำหนดเจือจางสูงสุด ( ส่วนใหญ่เจือจาง ) ที่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาการจับกลุ่มบวก

การทดสอบนี้สามารถใช้ในการติดตามผู้ป่วยที่มีการรักษาที่ประสบความสําเร็จโดยล้มด้วย
.เพิ่มขึ้นในระดับ อาจเกริ่นกำเริบ ( ดูคำตอบ 5 รายละเอียดเพิ่มเติม
) ทั้ง C และ C neoformans gattii เป็นบวกในการทดสอบนี้ ผู้ป่วยที่มีการติดเชื้อ
เนื่องจากได้ asahii capnocytophaga canimorsus และสามารถมีการทดสอบแอนติเจน cryptococcal
false-positive .