The Hubble Tuning ForkAfter he disc

The Hubble Tuning Fork
After he discovered what galaxies really were, Edwin Hubble became the first person to classify galaxies. Astronomers use his system, called the "Hubble Tuning Fork," even today. First, Hubble divided the galaxies into two general categories: elliptical and spiral galaxies. Elliptical galaxies are shaped like ellipses, and spiral galaxies are shaped like spirals, with arms winding in to a bright center.
Elliptical galaxies are classified by how round or flat they look. An E0 galaxy is very round and an E7 galaxy is very flat. In detail, the number after the "E" is determined by the galaxy's ellipticity - the ratio of the ellipse's major axis to minor axis. Galaxies with higher ellipticities have higher numbers.
Hubble noticed that some spiral galaxies have a bright line, or bar, running through them. He called these galaxies "barred spiral galaxies." Galaxies with spiral arms, but without the bar, are just called "spiral galaxies."
Spiral galaxies are further classified by how tightly their arms are wound. Type a galaxies have their arms wound very tightly and have large central bulges. Type c galaxies have their arms wound loosely and have small central bulges.
Some galaxies are a transition type between the elliptical and spiral galaxies, labeled S0 on the tuning fork. These are called "lenticular galaxies." Lenticular galaxies have a central bulge and a disk but no spiral arms.
The third class of galaxies is irregular galaxies. Irregular galaxies are neither spiral nor elliptical, and can have any number of shapes. They are frequently the product of two galaxies colliding with each other, or at least affecting each other through the force of gravity.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ฮับเบิลส้อมหลังจากที่เขาค้นพบสิ่งที่ดาราจริง ๆ ถูก เอ็ดวินฮับเบิลเป็น คนแรกในการจัดประเภทดาราจักร นักดาราศาสตร์ใช้ระบบของเขา เรียกว่า "ฮับเบิลส้อม, " แม้วันนี้ ครั้งแรก ฮับเบิลแบ่งดาราจักรออกเป็นสองประเภท: กาแล็กซีรูปไข่ และสไปรัล กาแล็กซีรูปไข่มีรูปร่างคล้ายวงรี และฤกษ์มีรูปร่างคล้ายมาร์เซลลัส ด้วยแขนที่คดเคี้ยวในศูนย์สว่างรูปไข่กาแล็กซีจะจำแนกตามรอบ หรือแบนลักษณะ กาแล็กซี่ E0 เป็นรอบมาก และเป็นกาแล็คซี่ E7 จะแบนมาก รายละเอียด หมายเลขหลังจาก "E" จะเป็นไปตาม ellipticity ของกาแล็กซี่ - อัตราส่วนของแกนหลักของวงรีที่แกนรอง กาแล็กซี มีสูง ellipticities มีตัวเลขสูงขึ้นฮับเบิลพบว่า บางฤกษ์มีสายสว่าง บาร์ หรือวิ่งผ่านไป เขาเรียกว่าเหล่าดารา "คานฤกษ์" กาแลคซีเกลียวแขน แต่ ไม่ บาร์ ก็เรียกว่า "ฤกษ์"ฤกษ์เพิ่มเติมตามวิธีแน่นแขนมีแผล ชนิดของกาแล็กซีแบบมีแขนแผลแน่นมาก และมีขนาดใหญ่เซ็นทรัล bulges ดาราจักรชนิด c มีแขนแผลหลวม ๆ และมีขนาดเล็กกลาง bulgesบางดาราจักรเป็นชนิดเปลี่ยนระหว่างกาแล็กซีรูปไข่ และสไปรัล ป้าย S0 บนส้อม เหล่านี้เรียกว่า "กาแลคซี่แม่และเด็ก" ดาราแม่และเด็กมีกระพุ้งเซ็นทรัล และดิสก์ แต่แขนไม่มีเกลียวชั้นสามของดาราจักรคือ ดาราจักรที่ผิดปกติ ดาราจักรที่ผิดปกติไม่ใช่สไปรัล หรือรูปไข่ และสามารถมีได้หลายรูปร่าง พวกเขามักเป็นผลิตภัณฑ์ของสองดาราจักรชนกัน หรือส่งผลน้อยต่อกันผ่านแรงโน้มถ่วง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ฮับเบิลส้อม
หลังจากที่เขาค้นพบสิ่งที่กาแลคซีจริงๆเอ็ดวินฮับเบิลกลายเป็นคนแรกที่จะจัดกาแลคซี นักดาราศาสตร์ใช้ระบบของเขาเรียกว่า "ฮับเบิลส้อม" แม้วันนี้ ครั้งแรกที่ฮับเบิลกาแลคซีแบ่งเป็นสองประเภททั่วไป: รูปไข่และเกลียวกาแลคซี กาแลคซีรูปไข่มีรูปร่างเหมือนวงรีและกาแลคซีเกลียวมีรูปร่างเหมือนวงแขนที่คดเคี้ยวในศูนย์สดใส
กาแลคซีรูปไข่แยกตามวิธีกลมหรือแบนพวกเขามอง กาแลคซี E0 มากรอบและกาแลคซี E7 แบนมาก ในรายละเอียดจำนวนหลังจากที่ "E" จะถูกกำหนดโดย ellipticity กาแลคซี - อัตราส่วนของแกนหลักของวงรีกับแกนเล็ก ๆ น้อย ๆ กาแลคซี่กับ ellipticities สูงมีตัวเลขสูงกว่า
ฮับเบิลสังเกตเห็นว่าบางกาแลคซีเกลียวมีสายสดใสหรือแถบวิ่งผ่านพวกเขา เขาเรียกว่ากาแลคซีเหล่านี้ "ห้ามกาแลคซีเกลียว." กาแลคซี่ที่มีแขนเกลียว แต่ไม่มีบาร์เป็นเพียงการเรียกว่า "กาแลคซีเกลียว."
กาแลคซีเกลียวจะจัดต่อไปโดยวิธีแน่นแขนของพวกเขาเป็นแผล พิมพ์กาแลคซีมีแผลแขนของพวกเขาแน่นมากและมีนูนใหญ่กลาง ประเภทกาแลคซีคมีแผลแขนของพวกเขาอย่างอิสระและมีความนูนกลางขนาดเล็ก
กาแลคซีบางคนมีประเภทการเปลี่ยนแปลงระหว่างรูปไข่และกาแลคซีเกลียวป้าย S0 บนส้อมจูน เหล่านี้จะถูกเรียกว่า "กาแลคซี lenticular." กาแลคซี Lenticular มีกระพุ้งกลางและดิสก์ แต่ไม่มีแขนกังหัน
ชั้นที่สามของกาแลคซีเป็นกาแลคซีที่ผิดปกติ กาแลคซีที่ผิดปกติจะไม่เกลียวหรือรูปไข่ และสามารถมีจำนวนของรูปทรงใด ๆ พวกเขามักจะเป็นผลิตภัณฑ์สองกาแล็กซีชนกับแต่ละอื่น ๆ หรืออย่างน้อยก็มีผลกระทบต่อกันผ่านแรงโน้มถ่วง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ส้อมเสียงฮับเบิลหลังจากที่เขาค้นพบว่าจักรวาลจริงๆ คือ เอ็ดวิน ฮับเบิลกลายเป็นคนแรกที่จะจำแนกกาแล็กซี . นักดาราศาสตร์ใช้ระบบของเขาที่เรียกว่า " ส้อมเสียงฮับเบิล " แม้วันนี้ แรก , ฮับเบิลแบ่งดาราจักรออกเป็นสองประเภททั่วไป : และวงรีกาแล็กซีก้นหอย . กาแล็กซีรูปไข่ รูปทรงเป็นวงรี และมีรูปร่างเหมือนเกลียวกาแล็กซีก้นหอยมีแขนม้วนในศูนย์ที่สดใสกาแล็กซีรูปไข่กลมหรือแบน จะแบ่งตามวิธีการที่พวกเขามอง เป็นดาราจักร E0 กลมมากและ E7 แสงแบนมาก รายละเอียด หมายเลขหลังจาก " e " ถูกกำหนดโดยกาแล็กซี ellipticity - อัตราส่วนของแกนวงรีแกนใหญ่ไปเล็กน้อย กาแล็กซีกับ ellipticities สูงกว่า มีตัวเลขที่สูงขึ้นฮับเบิลพบว่าบางกาแล็กซีก้นหอยมีสายสว่าง หรือบาร์ วิ่งผ่านพวกเขา เขาเรียกกาแล็กซีเหล่านี้ห้ามกาแล็กซีก้นหอย " กาแล็กซีกับเกลียวแขนแต่ไม่มีบาร์ ก็เรียกว่า " กาแล็กซีก้นหอย "กาแล็กซีก้นหอยจะแบ่งต่อไปโดยวิธีแน่น แขนมีแผล ประเภทของกาแล็กซีมีแขนของเขาแน่น และมีแผลนูนขนาดใหญ่ที่เป็นศูนย์กลาง ประเภท C กาแล็กซีมีแขนหลวม ๆและมีแผลขนาดเล็กกลางนูน .บางกาแล็กซีมีการเปลี่ยนแปลงชนิดระหว่างกาแล็กซีรูปไข่ และเกลียว , ป้าย Name กับส้อมเสียง เหล่านี้เรียกว่า " กาแล็กซีกาแล็กซีนูนนูน " มีกระพุ้งกลางและดิสก์ แต่ไม่มีแขนก้นหอยชั้นที่สามของกาแล็กซีกาแล็กซีคือผิดปกติ อาหารกลางวันไม่เกลียว หรือวงรี และสามารถมีหมายเลขใด ๆของรูปร่าง พวกเขามักผลิตภัณฑ์สองกาแล็กซีชนกันกับแต่ละอื่น ๆ หรืออย่างน้อยที่สุดก็มีผลต่อแต่ละอื่น ๆผ่านแรงโน้มถ่วง