1. Ask about private tours. See if

1. Ask about private tours. See if your zoo will take you (or your class) on a private tour. The cost is usually pretty reasonable and you can get one-on-one attention. If the zoo knows ahead of time that your child is visually impaired, they can tailor the tour to your child's needs.
2. Visit open touch tanks. Many zoos and most aquariums have a spot where you can touch sea creatures in an open display. We absolutely love the Shark and Ray Touch Tank at the New England Aquarium!
3. Look for the tactile displays. Most zoos (and also many natural science centers or science museums) have touchable displays for kids to interact with. You can find bones, taxidermy animals and real furs!
4. Bring along supporting materials. You probably talk about animals at home all the time. Maybe you have a touch-and-feel farm animal book or a collection of small animal toys that make noises when you squeeze them. Bring these familiar books and toys with you and help your child see the connection between the toys and the real thing.

5. Visit the petting zoo. Obviously the best way to learn about animals is to get up close and touch them! If your zoo has an area where they let you touch the animals, that's the place to be.
6. Zoom in. If your child has low vision, think about ways to see the animals in their habitats. Bring an iPad and use the zoom feature in the camera to bring the animal up on the screen where he can see it. You can also bring enlarged photos with you of each animal and place them in a book so your child knows what they are looking for.
7. Go for a ride! Many zoos provide pony rides and some even have elephant or camel rides available. See what your zoo offers and sign up!
8. Climb and touch the statues. Most zoos will also have life-sized animal statues on display that you can touch or even climb on, some may be hard concrete and some may even be made out of softer materials that mimic the real feel of the animals. If you're lucky, they might even make noise, like this elephant statue that Mary Rose is touching at the Dallas Zoo:
9. Listen. Some animals are quiet, but some are really very noisy! Pick out the exhibits that make a lot of noise (like monkeys or the bird house) and sit and listen.
0. Don't forget the smells! This might not be the preferred feature of a zoo for most kids, but it's certainly part of the overall sensory experience!
11. Find the braille. Did you know that many zoos have braille added to their display signs? Cailee was excited to find braille at the Phoenix Zoo!
12. Consider creating an experience book. Talk to zoo coordinators ahead of time about collecting objects about the animals you see (like a piece of antler from a deer or seeds from the bird house). You can put your objects in a tactile experience book when you're done so you can relive your zoo trip later!

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

1. ถามเกี่ยวกับทัวร์ส่วนตัว เห็นว่า สวนสัตว์ของคุณจะใช้คุณ (หรือเรียน) ทัวร์ส่วนตัว ค่าใช้จ่ายเยอะมักจะสวย และคุณจะได้รับความสนใจแบบตัวต่อตัว ถ้าสวนสัตว์ทราบก่อนเวลาที่ลูกของคุณบกพร่อง พวกเขาสามารถปรับความต้องการของลูกทัวร์2. เปิดไปแตะถัง หลายสวนสัตว์และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำส่วนใหญ่มีจุดคุณจะได้สัมผัสสัตว์ทะเลในการเปิดแสดงผล เรารักอย่างฉลามและถังสัมผัสรังสีที่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำนิวอิงแลนด์3. มองหาจอสัมผัส กิจกรรมส่วนใหญ่ (และยังหลายศูนย์วิทยาศาสตร์ธรรมชาติ หรือพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์) มีจอแสดงผลสัมผัสสำหรับเด็กที่จะโต้ตอบกับ คุณสามารถค้นหากระดูก taxidermy สัตว์ และหนังจริง4. นำสื่อสนับสนุน คุณอาจจะพูดเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงที่บ้านตลอดเวลา บางทีคุณมีหนังสือสัตว์ฟาร์มสัมผัส และความรู้สึกหรือชุดของเล่นสัตว์ขนาดเล็กที่ให้เสียงเมื่อบีบพวกเขา นำหนังสือที่คุ้นเคยและเล่นกับคุณเหล่านี้ และช่วยให้ลูกเห็นการเชื่อมต่อระหว่างของเล่นและของจริง 5. เยี่ยมชมสวนสัตว์ลูบคลำ เห็นได้ชัดว่าการเรียนรู้เกี่ยวกับสัตว์จะเข้าใกล้ และสัมผัสพวกเขา ถ้าสวนของคุณมีพื้นที่ที่พวกเขาให้คุณสัมผัสสัตว์ ที่อยู่ได้6. ขยาย ถ้าเด็กมีปัญหาสายตา คิดเกี่ยวกับวิธีในการดูสัตว์ในอยู่อาศัย นำ iPad และใช้คุณลักษณะการซูมในกล้องเพื่อนำสัตว์ขึ้นบนหน้าจอที่เขาสามารถดูได้ นอกจากนี้คุณยังสามารถนำภาพขยาย ด้วยคุณของสัตว์แต่ละ และวางไว้ในหนังสือเพื่อให้เด็กรู้ว่าสิ่งที่พวกเขากำลังมองหา7. ไปนั่ง สวนสัตว์จำนวนมากให้ขี่ม้า และบางห้องมีช้าง หรืออูฐขี่มี ดูการให้บริการของสวนสัตว์ของคุณ และลงทะเบียน8. ปีน และสัมผัสรูปปั้น สวนสัตว์ส่วนใหญ่จะมีรูปปั้นสัตว์ขนาดจริงแสดงว่า คุณสามารถแตะ หรือแม้กระทั่งปีนขึ้นไปบน บางส่วนอาจยากคอนกรีต และบางคนแม้จะทำจากวัสดุนุ่มที่เลียนแบบความรู้สึกที่แท้จริงของสัตว์ หากคุณโชคดี พวกเขาอาจจะทำให้เสียง เช่นนี้รูปปั้นช้างที่แมรี่โรสเป็นสัมผัสที่สวนสัตว์ดัลลัส:9. ฟัง สัตว์บางเงียบ แต่บางคนมีเสียงดังมากมาก เลือกออกจัดแสดงที่ทำให้เสียง (เช่นลิงหรือบ้านนก) และนั่ง และฟัง0. อย่าลืมกลิ่นนี้ นี้อาจไม่มีคุณลักษณะที่ต้องการของสวนสัตว์สำหรับเด็กส่วนใหญ่ แต่แน่นอนมันเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ทางประสาทสัมผัสโดยรวม11. พบตัวอักษรเบรลล์ คุณทราบหรือไม่ว่า สวนสัตว์หลายมีอักษรเบรลล์ลงป้ายแสดงตน Cailee ตื่นเต้นจะหาอักษรเบรลล์ที่สวนสัตว์ฟีนิกซ์12. ลองสร้างสมุดบัญชีประสบการณ์ พูดคุยกับผู้ประสานงานสวนสัตว์ล่วงเกี่ยวกับรวบรวมวัตถุเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงที่คุณเห็น (เหมือนชิ้นจากกวางเขากวางหรือเมล็ดจากบ้านนก) คุณสามารถวางวัตถุของคุณในสมุดประสบการณ์สัมผัสเมื่อคุณทำดังนั้นคุณสามารถย้อนรำลึกการเที่ยวสวนสัตว์ในภายหลัง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

1. สอบถามเกี่ยวกับทัวร์ส่วนตัว ดูว่าสวนสัตว์ของคุณจะนำคุณ (หรือระดับของคุณ) ในทัวร์ส่วนตัว ค่าใช้จ่ายมักจะมีเหตุผลที่สวยและคุณจะได้รับหนึ่งในหนึ่งที่ให้ความสนใจ หากสวนสัตว์รู้ก่อนเวลาที่ลูกของคุณเป็นความบกพร่องทางสายตาพวกเขาสามารถปรับแต่งการท่องเที่ยวเพื่อตอบสนองความต้องการของบุตรของท่าน.
2 เยี่ยมชมสัมผัสถังเปิด สวนสัตว์และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำจำนวนมากส่วนใหญ่จะมีจุดที่คุณสามารถสัมผัสสัตว์ทะเลในการแสดงเปิด เรารักอย่างปลาฉลามและเรย์สัมผัสถังที่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำนิวอิงแลนด์!
3 มองหาการแสดงสัมผัส สวนสัตว์ส่วนใหญ่ (และยังมีอีกหลายศูนย์วิทยาศาสตร์ธรรมชาติหรือพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์) มีการแสดงสัมผัสสำหรับเด็กที่จะมีปฏิสัมพันธ์กับ คุณสามารถค้นหากระดูกสัตว์ taxidermy และขนจริง!
4 พร้อมนำสื่อสนับสนุน คุณอาจจะพูดคุยเกี่ยวกับสัตว์ที่บ้านตลอดเวลา บางทีคุณอาจจะมีสัมผัสและความรู้สึกหนังสือสัตว์ในฟาร์มหรือการจัดเก็บของเล่นสัตว์ขนาดเล็กที่ทำให้เกิดเสียงเมื่อคุณบีบพวกเขา นำหนังสือเหล่านี้คุ้นเคยและของเล่นกับคุณและช่วยให้เด็กเห็นการเชื่อมต่อระหว่างของเล่นและสิ่งที่เป็นจริง.

5 เยี่ยมชมสวนสัตว์ลูบคลำ เห็นได้ชัดว่าวิธีที่ดีที่สุดที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับสัตว์คือการได้ใกล้ชิดและสัมผัสพวกเขา! หากสวนสัตว์ของคุณมีพื้นที่ที่พวกเขาปล่อยให้คุณสัมผัสสัตว์ที่ว่าเป็นสถานที่ที่จะ.
6 ซูมเข้า. ถ้าลูกของคุณมีการมองเห็นต่ำคิดเกี่ยวกับวิธีการที่จะเห็นสัตว์ในที่อยู่อาศัยของพวกเขา นำ iPad และใช้คุณลักษณะการซูมในกล้องที่จะนำสัตว์ขึ้นบนหน้าจอที่เขาสามารถมองเห็นได้ นอกจากนี้คุณยังสามารถนำภาพขยายกับคุณของสัตว์แต่ละตัวและวางไว้ในหนังสือเพื่อให้เด็กของคุณรู้ว่าสิ่งที่พวกเขากำลังมองหา.
7 ไปสำหรับการนั่ง! สวนสัตว์หลายแห่งที่มีขี่ม้าและบางคนยังมีช้างหรือขี่อูฐใช้ได้ ดูสิ่งที่สวนสัตว์ของคุณให้บริการและลงทะเบียน!
8 ปีนขึ้นไปและสัมผัสรูปปั้น สวนสัตว์ส่วนใหญ่ยังจะมีชีวิตขนาดรูปปั้นสัตว์บนจอแสดงผลที่คุณสามารถสัมผัสหรือแม้กระทั่งปีนขึ้นไปบนบางคนอาจจะเป็นรูปธรรมอย่างหนักและบางส่วนอาจจะทำจากวัสดุที่นุ่มที่เลียนแบบความรู้สึกที่แท้จริงของสัตว์ ถ้าคุณโชคดีที่พวกเขายังอาจจะทำให้เสียงเหมือนรูปปั้นช้างที่แมรี่โรสเป็นสัมผัสที่สวนสัตว์ดัลลัส:
9 ฟัง. สัตว์บางชนิดมีความเงียบสงบ แต่บางคนจริงๆที่มีเสียงดังมาก! เลือกจากการจัดแสดงนิทรรศการที่ทำให้เสียงดังมาก (เช่นลิงหรือบ้านนก) และนั่งและฟัง.
0 อย่าลืมกลิ่น! นี้อาจจะไม่เป็นคุณลักษณะที่ต้องการของสวนสัตว์สำหรับเด็กส่วนใหญ่ แต่ก็แน่นอนส่วนหนึ่งของประสบการณ์ทางประสาทสัมผัสโดยรวม!
11 ค้นหาอักษรเบรลล์ คุณรู้ไหมว่าสวนสัตว์จำนวนมากได้เพิ่มอักษรเบรลล์สัญญาณจอแสดงผลของพวกเขา? Cailee รู้สึกตื่นเต้นที่จะได้พบกับอักษรเบรลล์ที่สวนสัตว์ฟีนิกซ์!
12 พิจารณาการสร้างหนังสือประสบการณ์ พูดคุยกับผู้ประสานงานสวนสัตว์ก่อนเวลาเกี่ยวกับการเก็บรวบรวมวัตถุเกี่ยวกับสัตว์ที่คุณเห็น (เช่นชิ้นส่วนของกวางจากกวางหรือเมล็ดจากนกบ้าน) คุณสามารถใส่วัตถุของคุณในหนังสือสัมผัสประสบการณ์เมื่อคุณกำลังทำเพื่อให้คุณสามารถมีชีวิตอีกทริปที่สวนสัตว์ของคุณในภายหลัง!

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

1 . ถามเรื่องทัวร์ส่วนตัว ดูว่าสวนสัตว์จะนำคุณ ( หรือเรียน ) ในทัวร์ส่วนตัว ราคามักจะเหมาะสมและสวยคุณสามารถได้รับความสนใจ ตัวต่อตัว ถ้าสวนสัตว์รู้ล่วงหน้าว่าลูกของคุณมีความบกพร่องทางสายตา พวกเขาสามารถปรับแต่งทัวร์กับความต้องการของเด็ก2 . เยี่ยมชมถังสัมผัสเปิด สวนสัตว์และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำส่วนใหญ่จะมีจุดที่คุณสามารถสัมผัสสัตว์ทะเลในการแสดงเปิด เราชอบฉลาม และถังสัมผัสรังสีที่นิวอิงแลนด์พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ !3 . มองหาจอแสดงผลสัมผัส สวนสัตว์มากที่สุด ( และยังศูนย์วิทยาศาสตร์ที่เป็นธรรมชาติมาก หรือพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ ) ได้แสดงสัมผัสสำหรับเด็กที่จะโต้ตอบกับ คุณสามารถหากระดูก สัตว์สต๊าฟสัตว์และขนจริง4 . พร้อมนำสนับสนุนวัสดุ คุณอาจพูดคุยเกี่ยวกับสัตว์ที่บ้าน บางทีคุณอาจจะได้สัมผัสและรู้สึกถึงฟาร์มสัตว์ หนังสือ หรือคอลเลกชันของสัตว์เล็ก ของเล่นที่ส่งเสียงเมื่อคุณบีบมัน นำหนังสือเหล่านี้คุ้นเคยและของเล่นกับคุณและช่วยให้เด็กเห็นการเชื่อมต่อระหว่างของเล่นกับของจริง5 . เข้าเยี่ยมชมสวนสัตว์ . เห็นได้ชัดว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับสัตว์ที่จะได้ใกล้ชิดและสัมผัสพวกเขา ถ้าสวนสัตว์มีพื้นที่ที่พวกเขาให้คุณสัมผัสสัตว์ มันเป็นสถานที่ที่จะ6 . ซูมเข้าไป ถ้าลูกของคุณมีวิสัยทัศน์ต่ำ คิดเกี่ยวกับวิธีที่จะเห็นสัตว์ในแหล่งที่อยู่อาศัยของพวกเขา เอา iPad และใช้คุณสมบัติการซูมในกล้องเพื่อนำสัตว์ขึ้นบนหน้าจอที่เขาเห็นมัน นอกจากนี้คุณยังสามารถนำขยายภาพถ่ายกับเจ้าสัตว์แต่ละและสถานที่ที่พวกเขาในหนังสือ ให้ลูกของคุณรู้ว่าสิ่งที่พวกเขากำลังมองหา7 . ไปนั่ง ! สวนสัตว์มากมายให้ม้าขี่และบางแม้แต่ช้างหรือขี่อูฐ พร้อมใช้งาน ดูสวนสัตว์ของข้อเสนอ และลงทะเบียน8 . ปีนเขา และสัมผัสรูปปั้น สวนสัตว์ส่วนใหญ่จะยังมีชีวิตขนาดสัตว์รูปปั้นบนจอแสดงผลที่คุณสามารถสัมผัสหรือแม้แต่ปีน บางอย่างอาจเป็นคอนกรีตแข็ง และอาจจะทำจากวัสดุที่นุ่ม ที่เลียนแบบความรู้สึกที่แท้จริงของสัตว์ ถ้าคุณโชคดี พวกเขาอาจจะทำเสียงแบบนี้ รูปปั้นช้างที่ แมรี่ โรส เป็นสัมผัสที่สวนสัตว์ดัลลัส :9 . ฟังนะ สัตว์บางชนิดจะเงียบ แต่บางคนนี่เสียงดังมาก ! เลือกออกจัดแสดงที่ทำให้เสียงรบกวนมาก ( เหมือนลิง หรือบ้านนก ) และนั่งฟัง0 อย่าลืมมีกลิ่น ! นี่อาจจะไม่ใช่คุณสมบัติที่ต้องการของสวนสัตว์สำหรับเด็กมากที่สุด แต่แน่นอนมันเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ทางประสาทสัมผัสโดยรวม11 . ค้นหาอักษรเบรลล์ คุณรู้หรือไม่ว่า สวนสัตว์มีอักษรเบรลล์เพิ่มป้ายแสดงของพวกเขา cailee ตื่นเต้นที่จะหาอักษรเบรลล์ที่ฟินิกซ์สวนสัตว์ !12 . พิจารณาการสร้างประสบการณ์ หนังสือ คุยกับเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ล่วงหน้าเกี่ยวกับการเก็บรวบรวมวัตถุเกี่ยวกับสัตว์ที่คุณเห็น ( เช่นชิ้นส่วนของเขากวางจากกวางหรือเมล็ดจากบ้านนก ) คุณสามารถวางวัตถุของคุณในหนังสือประสบการณ์สัมผัสเมื่อคุณกำลังทำเพื่อให้คุณสามารถมีชีวิตอีกเที่ยวสวนสัตว์ของคุณในภายหลัง