group1.Christmas and New Year are j

group1.Christmas and New Year are just a few weeks away and it’s the time of year again when people shop around for gifts that are intended to make others happy. Late last month, a friend of mine asked for my postal address he wanted to send me a greeting card. First off, I was surprised to see that a men in his 50s had such a sentiment for sending New Year cards, and moreover doing it so much in a advance.
In this digital age where he could send best wishes online in just a few clicks, he still prefers the traditional way of using stamps and the service of the Thai post office in delivering happiness.
group2.But he has a good reason to do so. The cards he is about to send were created by disabled artists and his buys of those cards means he is also helping people with disabilities. Upon learning that, I suddenly understood his enthusiasm for this once-a-year activity in sending out the charitable cards.
But despite such a buying-for-a-good-cause idea, Christmas and New Year have still become very commercialized, which encourages big spending on presents, particularly at department stores and gift fairs.
Group3.Myriads of potential gifts are available and people are willing to spend hours hunting for one they believe their recipients will be happy to receive once the gift box is unwrapped. But is this always what actually happens?
The authors of Scroogenmics demonstrate a different scenario when presents are unwrapped. They say recipients may not be so merry about getting something that is not on their wishlist. Worse , they have to pretend to like it. Sometimes, I myself fall into this awkward situation, having to pretend how much I appreciate getting a scarf, when not even a Hermes one can give me a thrill. Still , I have to beam away and utter wow to give happy.
The scarf then become a new never-to-be-worn piece in my cluttered wardrobe.
Scroogenomists went on to note how gifts can be useful to some people and useless to others; the latter is economic waste.
The theory was coined by Joel Waldfogel, a professor at University of Pennsylvannsylvania’s Whaton business school.
Six years ago, the economist penned Scroogenomics, outlining the pointlessness of Christmas giving and describing the holiday season as an orgy of wastefulness.
The economic waste is not only wallet-flattening but time-and effort –consuming in finding presents beyond mundane coffee mugs, cotton towels and toilertries that are beautifully wrapped as enticing gift sets.
The choice made by the giver, which often fails to please the recipient, who might also undervalue the present, is another concern for the Scroogenomists.
It’s the thought that counts, not the price of the present. But when people deem themselves a generous Santa Claus, they may go over their budget in buying gigts.
In fact, after all, the true spirit of the holiday season is giving, rather than complying to convention. It is then that to the joy of giving with emotional value will truly be appreciated by the recipient.
I used to be, but no longer am, victim of Christmas consumerism, nor am I waiting for any Santa Claus to bring me gifts since my room is already cluttered with unused stuff, some of them New Year gifts from last year.
And I am not thinking of buying cards to exchange with friends either—guess I’m a Scrooge myself.
But in the end I began to fully understand the friend who bought the charitable greeting cards. It reminds me of the true spirit of giving, where a good cause should benefit any time of year.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

group1 คริสต์มาสและปีใหม่ห่างออกไปเพียงไม่กี่สัปดาห์ และเป็นเวลาของปีอีกครั้งเมื่อคนร้านรอบ ๆ สำหรับของขวัญที่มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้อื่นมีความสุข ปลายเดือนที่แล้ว เพื่อนของฉันถามฉันที่อยู่ที่ไปรษณีย์จะต้องส่งบัตรอวยพร ก่อน ปิด ผมแปลกใจที่เห็นว่า คนในของผสมได้เช่นความเชื่อมั่นการส่งการ์ดปีใหม่ และนอกจากนี้ ทำมากเป็นล่วงหน้าในดิจิทัลยุคนี้ที่เขาสามารถส่งด้วยความปรารถนาดีออนไลน์ทั่ง เขายังชอบวิธีการแบบดั้งเดิมของการใช้บริการของไปรษณีย์ไทยในการส่งมอบความสุขและประทับgroup2 แต่เขามีเหตุผลที่ดีดังนั้น เขาจะส่งบัตรสร้างขึ้น โดยศิลปินคนพิการและเขาจำหน่ายบัตรเหล่านั้นหมายความว่า เขายังช่วยเหลือคนพิการ เมื่อเรียนรู้ที่ ฉันก็เข้าใจความกระตือรือร้นของเขาสำหรับกิจกรรมนี้ปีละครั้งในการส่งออกบัตรการกุศลแต่แม้ มีเช่นการซื้อการได้ดีสาเหตุความคิด วันคริสต์มาสและปีใหม่ยังเป็น commercialized มาก ซึ่งสนับสนุนให้ใช้ในการแสดง โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ศูนย์การค้าและงานแสดงสินค้าของขวัญขนาดใหญ่Group3.Myriads ของขวัญอาจมี และคนเต็มใจที่จะใช้ชั่วโมงในการล่าสัตว์สำหรับหนึ่งเชื่อว่า ผู้รับจะยินดีที่จะได้รับเมื่อกล่องของขวัญ unwrapped แต่นี่เสมอสิ่งเกิดขึ้นจริงหรือไม่ ผู้เขียนของ Scroogenmics แสดงให้เห็นถึงสถานการณ์ต่าง ๆ เมื่อนำเสนอ unwrapped พวกเขากล่าวว่า ผู้รับอาจไม่ร่าเริงดังนั้นเกี่ยวกับการได้รับสิ่งที่ไม่ได้อยู่ในสิ่งที่ตนปรารถนา เลว พวกเขาจะต้องทำเป็นชอบมัน บางครั้ง ตัวเองตกในสถานการณ์นี้ตกใจ ต้องทำเป็นว่าฉันขอบคุณรับผ้าพันคอ เมื่อไม่ได้ Hermes หนึ่งสามารถทำให้ฉันรู้สึกตื่นเต้นสำหรับการ ยังคง แล้วคานออกไป และส่งว้าวให้มีความสุขผ้าพันคอแล้วกลายเป็น ไม่เคยจะเป็นสวมใส่ชิ้นใหม่ในตู้เสื้อผ้าของฉัน clutteredScroogenomists ไปในหมายเหตุของขวัญจะเป็นประโยชน์กับบางคน และไม่มีประโยชน์ผู้อื่น หลังเป็นการเสียเศรษฐกิจทฤษฎีถูกจังหวะ โดย Joel Waldfogel อาจารย์ที่โรงเรียนที่มหาวิทยาลัยของ Pennsylvannsylvania ของ Whaton หกปีที่ผ่านมา นักเศรษฐศาสตร์ที่เขียน Scroogenomics เค้าร่าง pointlessness คริสต์มาสให้ และอธิบายเทศกาลเป็นการ orgy wastefulnessขยะทางเศรษฐกิจคือไม่เฉพาะกระเป๋าสตางค์แบน แต่เวลา- และแรง – ใช้ในการค้นหาแสดงเหนือโลกีย์กาแฟแก้ว ผ้าขนหนู และชุดของขวัญ toilertries ที่มีสวยงามห่อเป็นโอโซนตัวเลือก โดย giver ซึ่งมักจะไม่กรุณาผู้รับ ที่อาจยัง undervalue ปัจจุบัน เป็นเรื่องอื่นสำหรับการ Scroogenomistsคิดว่านับ ราคาปัจจุบันไม่ได้ แต่เมื่อคนถือตัวเองเป็นซานตาคลอสใจดี พวกเขาอาจไปกว่างบประมาณการจัดซื้อ gigtsในความเป็นจริง หลังจากที่ทุก ของเทศกาลมีให้ มากกว่าปฏิบัติตามอนุสัญญา แล้วความสุขของให้มีค่าทางอารมณ์ที่แท้จริงจะจะชื่นชมผู้รับได้เคยเป็น แต่ไม่เกี่ยวกับ เหยื่อบริโภคนิยมของคริสมาสต์ หรือเป็นผมรอซานตาคลอสใด ๆ นำฉันของขวัญตั้งแต่ห้องเป็นระเบียบเรียบร้อยกับสิ่งที่ไม่ได้ใช้ บางส่วนของพวกเขาปีใหม่ของขวัญจากปีที่แล้วและฉันไม่คิดซื้อบัตรเพื่อแลกเปลี่ยนกับเพื่อนทั้งตัวคิดว่า ผมเป็นคนขี่เหนียวเองก็แต่ในสุด ผมเริ่มที่จะเข้าใจเพื่อนที่ซื้อบัตรอวยพรกุศล มันนึกจิตวิญญาณแท้จริงของการให้ ที่สาเหตุที่ดีควรได้รับประโยชน์ตลอดทั้งปี

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

group1.Christmas และปีใหม่เป็นเพียงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาออกไปและมันเป็นช่วงเวลาของปีอีกครั้งเมื่อมีคนร้านค้ารอบ ๆ สำหรับของขวัญที่มีวัตถุประสงค์เพื่อทำให้คนอื่นมีความสุข ปลายเดือน, เพื่อนของฉันถามสำหรับที่อยู่ทางไปรษณีย์ของฉันเขาต้องการที่จะส่งบัตรอวยพร ก่อนอื่นผมรู้สึกประหลาดใจที่เห็นว่าผู้ชายในยุค 50 ของเขาได้เช่นความเชื่อมั่นในการส่งการ์ดปีใหม่และนอกจากนี้ยังทำมันมากในล่วงหน้า.
ในยุคดิจิตอลนี้ที่เขาจะส่งความปรารถนาออนไลน์ที่ดีที่สุดในเวลาเพียงไม่กี่คลิก เขาก็ยังคงชอบวิธีแบบดั้งเดิมของการใช้แสตมป์และบริการของที่ทำการไปรษณีย์ไทยในการส่งมอบความสุข.
group2.But เขามีเหตุผลที่ดีที่จะทำเช่นนั้น บัตรที่เขาเป็นเรื่องเกี่ยวกับที่จะส่งถูกสร้างขึ้นโดยศิลปินพิการและซื้อบัตรของเขาเหล่านั้นหมายความว่าเขายังช่วยให้คนที่มีความพิการ เมื่อรู้ว่าผมก็เข้าใจความกระตือรือร้นของเขาสำหรับกิจกรรมนี้ครั้งหนึ่งปีในการส่งออกบัตรการกุศล.
แต่แม้จะมีเช่นการซื้อสำหรับ-a-ดีทำให้เกิดความคิดที่คริสมาสต์และปีใหม่ได้กลายเป็นยังในเชิงพาณิชย์มากซึ่ง กระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายใหญ่ในของขวัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งในห้างสรรพสินค้าและงานแสดงสินค้าของที่ระลึก.
Group3.Myriads ของของขวัญที่มีศักยภาพที่มีอยู่และคนเต็มใจที่จะใช้เวลาการล่าสัตว์สำหรับหนึ่งที่พวกเขาเชื่อว่าผู้รับจะมีความสุขที่จะได้รับกล่องของขวัญที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่ยังไม่ได้เปิด แต่นี่คือสิ่งที่มักจะเกิดขึ้นจริง?
ผู้เขียนของ Scroogenmics แสดงให้เห็นถึงสถานการณ์ที่แตกต่างกันเมื่อมีการห่อของขวัญ พวกเขากล่าวว่าผู้รับอาจจะไม่เป็นเช่นนั้นความสุขเกี่ยวกับการรับบางสิ่งบางอย่างที่ไม่ได้อยู่ในสิ่งที่ปรารถนาของพวกเขา ที่เลวร้ายยิ่งที่พวกเขาต้องแกล้งทำเป็นชอบมัน บางครั้งผมเองตกอยู่ในสถานการณ์ที่น่าอึดอัดใจนี้มีที่จะแสร้งทำเป็นว่าฉันขอขอบคุณที่ได้รับผ้าพันคอเมื่อไม่ได้อย่างใดอย่างหนึ่ง Hermes สามารถให้ฉันตื่นเต้น แต่ถึงกระนั้นผมต้องคานออกไปและเปล่งว้าวที่จะให้มีความสุข.
ผ้าพันคอแล้วกลายเป็นใหม่ไม่เคยมีมาเพื่อจะสวมใส่ชิ้นในตู้เสื้อผ้าของรกของฉัน.
Scroogenomists ไปในการที่จะต้องทราบว่าของขวัญที่จะเป็นประโยชน์กับคนบางคนและไม่มีประโยชน์กับคนอื่น ๆ ; หลังเสียทางเศรษฐกิจ.
ทฤษฎีที่ได้รับการประกาศเกียรติคุณจากโจเอล Waldfogel ศาสตราจารย์ที่มหาวิทยาลัย Pennsylvannsylvania ของ Whaton โรงเรียนธุรกิจ.
หกปีที่ผ่านมานักเศรษฐศาสตร์เขียน Scroogenomics สรุปปราศจากจุดหมายของคริสมาสต์ให้และอธิบายเทศกาลวันหยุดเป็นสนุกสนานกันอย่างเป็นบ้าเป็นหลังของรกร้าง
ของเสียทางเศรษฐกิจไม่ได้เป็นเพียงกระเป๋าแฟบ แต่เวลาและความพยายามในการหา -consuming ของขวัญเกินแก้วกาแฟโลกีย์, ผ้าขนหนูผ้าฝ้ายและ toilertries ที่ถูกห่ออย่างสวยงามเป็นล่อลวงชุดของขวัญ.
ทางเลือกที่ทำโดยคนที่มอบให้ซึ่งมักจะล้มเหลวในการโปรด ผู้รับที่ยังอาจดูเบาปัจจุบันเป็นกังวลอีกสำหรับ Scroogenomists.
มันเป็นความคิดที่นับว่าไม่ได้ราคาในปัจจุบัน แต่เมื่อมีคนเห็นว่าตัวเองใจกว้างซานตาคลอสพวกเขาอาจไปกว่างบประมาณของพวกเขาในการซื้อ gigts.
ในความเป็นจริงหลังจากที่ทุกจิตวิญญาณที่แท้จริงของเทศกาลวันหยุดจะให้มากกว่าการปฏิบัติตามจะมีการประชุม แล้วมันเป็นที่ความสุขของการให้ที่มีคุณค่าทางอารมณ์อย่างแท้จริงจะได้รับการชื่นชมจากผู้รับ.
ผมเคยเป็น แต่ไม่ am เหยื่อของการคุ้มครองผู้บริโภคในวันคริสต์มาสหรือฉันรอสำหรับการใด ๆ ซานตาคลอสที่จะนำมาให้ฉันของขวัญตั้งแต่ห้องของฉัน ที่มีอยู่แล้วรกกับสิ่งที่ไม่ได้ใช้บางส่วนของพวกของขวัญปีใหม่จากปีก่อน.
และผมไม่คิดว่าการซื้อบัตรที่จะแลกเปลี่ยนกับเพื่อนทั้งเดาฉันสครูจตัวเอง.
แต่ในท้ายที่สุดผมเริ่มที่จะเข้าใจเพื่อน ที่ซื้อบัตรอวยพรกุศล มันทำให้ผมนึกถึงจิตวิญญาณที่แท้จริงของการให้ซึ่งสาเหตุที่ดีควรได้รับประโยชน์เวลาของปีใด