1.3 พาร์ธีโนเจเนซิส (Parthenogenesi

1.3 พาร์ธีโนเจเนซิส (Parthenogenesis) เป็นการสืบพันธุ์ไม่อาศัยเพศของแมลงบางชนิด เช่น ตั๊กแตนกิ่งไม้ เพลี้ย ไรน้ำซึ่งตัวเมียสามารถผลิตไข่ที่ฟักเป็นตัวได้โดยไม่ต้องมีการปฏิสนธิในสภาวะปกติไข่ของสัตว์ดังกล่าวจะฟักออกมาเป็นตัวเมียเสมอ แต่ในสภาวะที่ไม่เหมาะสมกับการดำรงชีวิต เช่น เกิดความแห้งแล้งหนาวเย็น หรือขาดแคลนอาหาร ตัวเมียก็จะผลิตไข่ที่ฟักออกเป็นทั้งตัวผู้และตัวเมีย จากนั้นสัตว์ตัวผู้และตัวเมียเหล่านี้จะผสมพันธุ์กันแล้วตัวเมียจะออกไข่ที่มีความคงทนต่อสภาวะที่ไม่เหมาะสมดังกล่าวได้ ในผึ้ง มด ต่อ แตน ก็พบว่ามีการสืบพันธุ์แบบพาร์ธีโนเจเนซิสด้วยเช่นกัน โดยไข่ไม่ต้องมีการปฏิสนธิก็สามารถฟักออกมาเป็นตัวได้ ซึ่งจะฟักออกมาเป็นตัวผู้เสมอ

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

(Parthenogenesis) 1.3 พาร์ธีโนเจเนซิสเป็นการสืบพันธุ์ไม่อาศัยเพศของแมลงบางชนิดเช่นตั๊กแตนกิ่งไม้เพลี้ยไรน้ำซึ่งตัวเมียสามารถผลิตไข่ที่ฟักเป็นตัวได้โดยไม่ต้องมีการปฏิสนธิในสภาวะปกติไข่ของสัตว์ดังกล่าวจะฟักออกมาเป็นตัวเมียเสมอแต่ในสภาวะที่ไม่เหมาะสมกับการดำรงชีวิตเช่นเกิดความแห้งแล้งหนาวเย็นหรือขาดแคลนอาหารตัวเมียก็จะผลิตไข่ที่ฟักออกเป็นทั้งตัวผู้และตัวเมียจากนั้นสัตว์ตัวผู้และตัวเมียเหล่านี้จะผสมพันธุ์กันแล้วตัวเมียจะออกไข่ที่มีความคงทนต่อสภาวะที่ไม่เหมาะสมดังกล่าวได้ในผึ้งมดต่อแตนก็พบว่ามีการสืบพันธุ์แบบพาร์ธีโนเจเนซิสด้วยเช่นกันโดยไข่ไม่ต้องมีการปฏิสนธิก็สามารถฟักออกมาเป็นตัวได้ซึ่งจะฟักออกมาเป็นตัวผู้เสมอ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

1.3 พาร์ธีโนเจเนซิส (parthenogenesis) เช่นตั๊กแตนกิ่งไม้เพลี้ย เช่นเกิดความแห้งแล้งหนาวเย็นหรือขาดแคลนอาหาร ในผึ้งมดต่อแตน ซึ่งจะฟักออกมาเป็นตัวผู้เสมอ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

1 .3 พาร์ธีโนเจเนซิส ( พาร์ธีโนเจเนซิส ) เป็นการสืบพันธุ์ไม่อาศัยเพศของแมลงบางชนิดเช่นตั๊กแตนกิ่งไม้เพลี้ยแต่ในสภาวะที่ไม่เหมาะสมกับการดำรงชีวิตเช่นเกิดความแห้งแล้งหนาวเย็นหรือขาดแคลนอาหารตัวเมียก็จะผลิตไข่ที่ฟักออกเป็นทั้งตัวผู้และตัวเมียในผึ้งมดใหม่ให้แตนก็พบว่ามีการสืบพันธุ์แบบพาร์ธีโนเจเนซิสด้วยเช่นกันโดยไข่ไม่ต้องมีการปฏิสนธิก็สามารถฟักออกมาเป็นตัวได้ซึ่งจะฟักออกมาเป็นตัวผู้เสมอ