What seems to be the case of Thai e

What seems to be the case of Thai economy is that balance of payments does not
cause any negative impact on growth and stability, but the main concern is based on the
persistent deficit in current account. According to recent data, most of the time current
account balance of Thailand was deficit ranking from 3.8% of GDP to the highest at 7.9% of
GDP in 1995-1996. One might be skeptical whether this perennial deficit has had an impact
on economic growth or other macroeconomic goals. Furthermore correlation between the
terms of trade and current account deficit is also blurred. However, one can notice that since
1990, the terms of trade had been deteriorated that partly might have led to the speculation
attack on Thai baht in the early 1997 due to the fact export growth in 1996 was negative at the
first time in many years.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อะไรน่าจะเป็นกรณีของเศรษฐกิจไทยจะไม่มีการชำระเงินของยอดดุลทำให้เกิดผลกระทบเชิงลบใด ๆ เจริญเติบโตและความมั่นคง แต่ปัญหาอยู่ขาดดุลแบบในบัญชีปัจจุบัน ตามข้อมูลล่าสุด ส่วนมากของเวลาปัจจุบันยอดดุลบัญชีของประเทศไทยมีดุลการจัดอันดับจาก 3.8% ของ GDP สูง 7.9%GDP ในปี 1995-1996 หนึ่งอาจสงสัยว่าขาดดุลนี้ยืนต้นที่มีผลกระทบเติบโตทางเศรษฐกิจหรือเป้าหมายเศรษฐกิจมหภาคอื่น ๆ นอกจากนี้ความสัมพันธ์ระหว่างการนอกจากนี้ยังมีเบลอเงื่อนไขของดุลการค้าและบัญชีปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม หนึ่งสามารถสังเกตได้ที่ตั้งแต่ปี 1990 เงื่อนไขทางการค้ามีการเสื่อมสภาพที่บางส่วนอาจได้นำไปสู่การเก็งกำไรบาท ในช่วงต้นปี 1997 เนื่องจากภาคการส่งออกจริงในปี 1996 โจมตีถูกลบในการครั้งแรกในเวลาหลายปี

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สิ่งที่น่าจะเป็นกรณีของเศรษฐกิจไทยคือความสมดุลของการชำระเงินที่ไม่เกิดผลกระทบต่อการเจริญเติบโตและความมั่นคงแต่ความกังวลหลักจะขึ้นอยู่กับการขาดดุลถาวรในบัญชีปัจจุบัน ตามข้อมูลที่ผ่านมาส่วนใหญ่ของเวลาปัจจุบันยอดเงินในบัญชีของไทยขาดดุลการจัดอันดับจาก 3.8% ของ GDP จะสูงสุดที่ 7.9% ของ GDP ในปี 1995-1996 บางคนอาจจะสงสัยว่าการขาดดุลยืนต้นนี้ได้มีผลกระทบต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจหรือเป้าหมายทางเศรษฐกิจมหภาคอื่น ๆ นอกจากนี้ความสัมพันธ์ระหว่างแง่ของการค้าและการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดยังเป็นเบลอ แต่หนึ่งสามารถสังเกตเห็นว่าตั้งแต่ปี 1990 ข้อตกลงการค้าที่ได้รับการเสื่อมสภาพที่บางส่วนอาจจะนำไปสู่การเก็งกำไรการโจมตีค่าเงินบาทในช่วงต้นปี1997 เนื่องจากการเติบโตของการส่งออกในปี 1996 ได้รับการเชิงลบที่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปี

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สิ่งที่น่าจะเป็นกรณีของเศรษฐกิจไทยว่า ดุลการชําระเงินไม่ก่อให้เกิดผลกระทบเชิงลบใด ๆ
ต่อการเจริญเติบโต และเสถียรภาพ แต่ปัญหาหลักคือขึ้นอยู่กับ
ดุลค้างในบัญชีปัจจุบัน ตามข้อมูลล่าสุด เวลาส่วนใหญ่ของดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยขาดดุล
อันดับจาก 3.8% ของ GDP สูงสุดที่ 7.9 % ของ GDP ในปี 2538-2539
.หนึ่งอาจสงสัยว่า การขาดดุลยืนต้นนี้ได้มีผลกระทบต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจหรือเป้าหมาย
เศรษฐกิจมหภาคอื่น ๆ นอกจากนี้ความสัมพันธ์ระหว่าง
แง่ของการค้าและดุลบัญชีเดินสะพัดยังเบลอ แต่หนึ่งสามารถสังเกตว่าตั้งแต่
1990 เงื่อนไขการค้าได้เสื่อมโทรมที่บางส่วนอาจจะนำไปสู่การเก็งกำไร
การโจมตีบนบาทในช่วงต้นปี 2540 เนื่องจากการเจริญเติบโตของการส่งออกในปี 2539 เป็นลบที่
ครั้งแรกในรอบหลายปี