Scientific Context of the StudyIn s

Scientific Context of the Study

In striving to contribute to the scientific theories linking simi- larity and relationships, we structured the study to learn whether the causal associations between similarity and relationships found in laboratory studies generalized to real, ongoing relationships. Furthermore, if successful, our intervention would have important applications for classrooms. Specifically, it would offer a tangible example of how similarities might be leveraged to actually im- prove relationships in the classroom. Simultaneously, we hoped to evaluate the effects of our intervention as rigorously as possible in a naturalistic setting and to err on the side of being conservative in the inferences we made from our data.
We evaluated our intervention using a 2 2 design and focusing on multiple classrooms during a single class period. Through this design, each individual within every teacher–student dyad was ran- domly assigned to receive feedback (or not) from a “get-to-know- you” survey. Specifically, students were randomly assigned to either learn what they had in common with one of their teachers (i.e., students in the “student treatment” group), or not learn about similar- ities with their teacher (i.e., students in the “student control” group). Teachers found out what they had in common with about half of their students in the focal class (i.e., students in the “teacher treatment”

group) but not with the other half (i.e., students in the “teacher control” group). Thus, all randomization occurred at the student level.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บริบททางวิทยาศาสตร์ของการศึกษาในการมุ่งมั่นที่จะนำไปสู่ทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ที่เชื่อมโยงความสัมพันธ์และ simi larity เรามีโครงสร้างการศึกษาเพื่อเรียนรู้ว่า ความสัมพันธ์เชิงสาเหตุระหว่างความเหมือนและความสัมพันธ์ที่พบในห้องปฏิบัติการศึกษาทั่วไปเพื่อความสัมพันธ์ที่แท้จริง อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ถ้าประสบความสำเร็จ การแทรกแซงของเราจะมีโปรแกรมประยุกต์ที่สำคัญสำหรับห้องเรียน เฉพาะ มีตัวอย่างรูปธรรมของวิธีความคล้ายคลึงกันอาจรู้จักจริง im-พิสูจน์ความสัมพันธ์ในห้องเรียน พร้อมกัน เราหวังว่า การประเมินผลกระทบของการแทรกแซงของเราอย่างจริงจังเป็นไปได้ในการตั้งค่าเป็นธรรมชาติหรือในเชิง และใช้การอนุรักษ์ใน inferences เราทำจากข้อมูลของเราเราประเมินการแทรกแซงของเราใช้ 2 2 การออกแบบและเน้นเรียนหลายช่วงชั้นเดียวกัน ผ่านการออกแบบนี้ แต่ละบุคคลภายในทุก dyad ครู – นักเรียนถูกวิ่ง-domly กำหนดให้ได้รับผลป้อนกลับ (หรือไม่) จากการสำรวจ "รับให้รู้คุณ" เฉพาะ เรียนถูกสุ่มกำหนดให้เรียนรู้สิ่งที่พวกเขาร่วมกันกับครูผู้สอน (เช่น นักเรียนในกลุ่ม "นักเรียนรักษา") อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือไม่ได้เรียนรู้คล้ายของพิเศษกับอาจารย์ (เช่น นักเรียนในกลุ่ม "นักเรียนควบคุม") ครูพบว่าพวกเขามีร่วมกันกับครึ่งหนึ่งของนักเรียนในชั้นเรียน (เช่น นักเรียนในการ "รักษาครู" โฟกัส กลุ่ม) แต่ไม่ มีอีกครึ่งหนึ่ง (เช่น นักเรียนในกลุ่ม "ควบคุมครู") ดังนั้น สุ่มทั้งหมดที่เกิดขึ้นในระดับนักเรียน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บริบททางวิทยาศาสตร์ของการศึกษา

ในมุ่งมั่นที่จะนำไปสู่การเชื่อมโยงทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ larity simi- และความสัมพันธ์ที่เรามีโครงสร้างการศึกษาในการเรียนรู้ไม่ว่าจะเป็นสมาคมสาเหตุระหว่างความคล้ายคลึงกันและความสัมพันธ์ที่พบในห้องปฏิบัติการการศึกษาทั่วไปเพื่อจริงสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้หากประสบความสำเร็จในการแทรกแซงของเราจะมีการใช้งานที่สำคัญสำหรับห้องเรียน โดยเฉพาะมันจะให้เป็นตัวอย่างที่เป็นรูปธรรมของวิธีการคล้ายคลึงกันอาจจะมีการยกระดับจริงญพิสูจน์ความสัมพันธ์ในห้องเรียน พร้อมกันนี้เราหวังที่จะประเมินผลกระทบของการแทรกแซงของเราเป็นอย่างจริงจังที่เป็นไปได้ในการตั้งค่าธรรมชาติและผิดพลาดในด้านของการเป็นอนุรักษ์นิยมในการหาข้อสรุปที่เราทำมาจากข้อมูลของเรา.
เราประเมินการแทรกแซงของเราโดยใช้การออกแบบที่ 2 2 และมุ่งเน้นไปหลาย ห้องเรียนในช่วงระยะเวลาชั้นเดียว ผ่านการออกแบบนี้แต่ละคนภายในทุก dyad ครูนักเรียนได้รับมอบหมาย ran- domly ที่จะได้รับการตอบรับ (หรือไม่) จากการสำรวจ "ได้รับการรู้คุณ" โดยเฉพาะนักเรียนที่ถูกสุ่มให้ได้ทั้งเรียนรู้สิ่งที่พวกเขามีเหมือนกันกับหนึ่งในครูของพวกเขา (เช่นนักเรียนใน "การรักษาของนักเรียนกลุ่ม") หรือไม่ได้เรียนรู้เกี่ยวกับสิ่งอํา similar- กับครูของพวกเขา (เช่นนักเรียนใน "นักเรียน กลุ่มควบคุม). ครูพบว่าสิ่งที่พวกเขามีเหมือนกันที่มีประมาณครึ่งหนึ่งของนักเรียนในชั้นโฟกัส (เช่นนักเรียนใน "ครูรักษา"

กลุ่ม) แต่ไม่ได้มีอีกครึ่งหนึ่ง (เช่นนักเรียนใน "ครูควบคุม" กลุ่ม) ดังนั้นการสุ่มทั้งหมดที่เกิดขึ้นในระดับนักเรียน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บริบทของวิทยาศาสตร์การศึกษาในการมุ่งมั่นที่จะมีส่วนร่วมในทางวิทยาศาสตร์ทฤษฎีการเชื่อมโยง มิ - ความสัมพันธ์ larity และเราโครงสร้างการศึกษาเรียนรู้ว่าสาเหตุที่สมาคมระหว่างความสัมพันธ์ความเหมือนและพบในห้องปฏิบัติการศึกษาทั่วไปจริง ความสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ถ้าสำเร็จ การแทรกแซงของเราจะมีการใช้งานที่สำคัญสำหรับห้องเรียน โดยเฉพาะ มันจะมีตัวอย่างที่จับต้องได้ของวิธีการคล้ายคลึงกันอาจจะใช้จริงผมพิสูจน์ความสัมพันธ์ในชั้นเรียน พร้อมกัน เราหวังที่จะศึกษาผลของการแทรกแซงของเราเป็นอย่างจริงจังเท่าที่เป็นไปได้ในการตั้งค่าในสภาพธรรมชาติ และผิดพลาดในด้านของการอนุรักษ์ในใช้ เราได้ข้อมูลจากเราเราประเมินการแทรกแซงของเราใช้ 2 2 การออกแบบและเน้นหลายห้องเรียนในคาบเดียว ผ่านการออกแบบนี้ แต่ละคนและทุกคู่ภายในครูนักเรียนก็วิ่ง - domly มอบหมายให้รับข้อเสนอแนะ ( หรือไม่ ) จาก " ได้รับรู้ - คุณ " ) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้สิ่งที่พวกเขามีเหมือนกันกับหนึ่งในครูของพวกเขา ( เช่น นักเรียน นักศึกษา ในการ " รักษา " นักเรียนกลุ่ม ) หรือเรียนรู้เกี่ยวกับ ities คล้ายคลึงกับครูของพวกเขา ( เช่น นักเรียน นักศึกษา ในการ " ควบคุม " นักเรียนกลุ่ม ) ครูพบว่าสิ่งที่พวกเขามีเหมือนกันกับประมาณครึ่งหนึ่งของนักเรียนในชั้นเรียนโฟกัส ( เช่นนักเรียน " ครูรักษา "กลุ่ม ) แต่ไม่ใช่กับครึ่งอื่น ๆ ( เช่น นักเรียน นักศึกษา ในการ " ควบคุม " ครูกลุ่ม ) ดังนั้น ทั้งหมดใช้ที่เกิดขึ้นในระดับนักเรียน