Oil and natural gas mining is the b

Oil and natural gas mining is the backbone of Brunei's economy. In 1998 the oil and gas sector contributed an estimated 34 percent to GDP and dominated exports. In 1998 crude oil and partly refined petroleum accounted for an estimated 39 percent of total exports and natural gas for 49 percent. Brunei is the third largest oil producer in Southeast Asia and the fourteenth largest in the world; it ranks fourth in production of natural gas. Oil and gas mining is a capital-intensive industry and employs only a small percentage of the total labor force (5.2 percent in 1995). At the beginning of 1993 reserves were estimated at 1.4 billion barrels of oil and 320 billion cubic meters of gas. The government has pursued a national depletion policy since 1988 aimed at preserving resources and continuing exploration of new fields.

Brunei Shell Petroleum (BSP) is the biggest oil mining company. It has 7 offshore and 2 onshore oil fields in Brunei. The Brunei government is an equal shareholder with the Royal Dutch Shell Group in the company. Another important oil-exploration company is Jasra-Elf, a joint venture that has been actively exploring for hydro-carbons offshore and has made some discoveries.

Brunei's annual sales of liquefied natural gas (LNG) sales are currently nearly 6 million metric tons. LNG is as important a revenue earner as oil exports, and the bulk of it is purchased by 3 Japanese utility companies: Tokyo Electric, Tokyo Gas, and Osaka Gas. About 10 percent of LNG is used for domestic consumption.

Following the regional economic crisis in 1997, combined with concerns about falling oil prices throughout 1998, the Brunei government realized that the oil and gas industry can no longer limit itself just to exploration, drilling, and export. It is now aiming at developing a hydrocarbon products industry in Brunei.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

น้ำมันและก๊าซธรรมชาติเหมืองแร่เป็นแกนหลักของเศรษฐกิจของบรูไน ในปี 2541 ภาคน้ำมันและก๊าซธรรมชาติส่วนร้อยละ 34 การประมาณการ GDP และครอบงำการส่งออก ในปี 1998 น้ำมันดิบและปิโตรเลียมกลั่นบางส่วนคิดเป็นร้อยละ 39 ประเมินส่งออกทั้งหมดและก๊าซธรรมชาติร้อยละ 49 บรูไนเป็นผู้ผลิตน้ำมันที่สามที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และ fourteenth ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มันอันดับสี่ในการผลิตก๊าซธรรมชาติ น้ำมันและก๊าซธรรมชาติเหมืองแร่เป็นอุตสาหกรรม capital-intensive และใช้เพียงเล็กน้อยของกำลังแรงงานรวม (ร้อยละ 5.2 ในปี 1995) เมื่อเริ่มต้นปี 1993 สำรองได้ประมาณ 1.4 ล้านบาร์เรลของน้ำมันและ 320 ล้านลูกบาศก์เมตรของก๊าซ รัฐบาลได้ดำเนินนโยบายการลดลงของชาติตั้งแต่ 1988 มุ่งรักษาทรัพยากร และการสำรวจของฟิลด์ใหม่ต่อไป

น้ำมันเชลล์บรูไน (BSP) เป็นบริษัททำเหมืองน้ำมันที่ใหญ่ที่สุด มี 7 ต่างประเทศ และ 2 พลังงานเขตข้อมูลน้ำมันในประเทศบรูไน รัฐบาลบรูไนเป็นผู้ถือหุ้นเท่ากับรอยัลดัตช์เชลล์ กลุ่มในบริษัทได้ Jasra-เอลฟ์ กิจการที่ได้รับการสำรวจอย่างแข็งขันสำหรับไฮโดร-carbons บริเวณชายฝั่ง และได้ค้นพบบางอย่าง. เป็นบริษัทสำรวจน้ำมันสำคัญอื่น

ขายประจำปีของบรูไนขายแก๊สธรรมชาติเหลว (แอลเอ็น) อยู่เกือบ 6 ล้านตันที่ ระบบเมตริก แอลเอ็นเป็น earner รายได้เป็นสำคัญการส่งออกน้ำมัน และจำนวนมากของมันถูกซื้อ โดยบริษัทยูทิลิตี้ญี่ปุ่น 3: ไฟฟ้าโตเกียว โตเกียวก๊าซ และโอซาก้าก๊าซ ใช้สำหรับปริมาณการใช้ในประเทศประมาณร้อยละ 10 ของแอลเอ็น

ต่อวิกฤตเศรษฐกิจภูมิภาคในปี 1997 รวมกับความกังวลเกี่ยวกับราคาน้ำมันที่ลดลงตลอดปี 1998 รัฐบาลบรูไนตระหนักว่า อุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซสามารถไม่จำกัดตัวเองเพียงเพื่อการสำรวจ ขุดเจาะ และส่งออก ตอนนี้ได้มีเป้าหมายที่การพัฒนาอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์เป็นไฮโดรคาร์บอนในบรูไน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

น้ำมันและก๊าซธรรมชาติการทำเหมืองแร่เป็นหัวใจของเศรษฐกิจของบรูไน ในปี 1998 ภาคน้ำมันและก๊าซส่วนประมาณร้อยละ 34 ของจีดีพีและการส่งออกที่โดดเด่น ในปี 1998 น้ำมันดิบและการกลั่นน้ำมันปิโตรเลียมบางส่วนคิดเป็นประมาณร้อยละ 39 ของการส่งออกทั้งหมดและก๊าซธรรมชาติสำหรับร้อยละ 49 บรูไนเป็นผู้ผลิตน้ำมันที่สามที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และที่สิบสี่ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มันจัดอันดับที่สี่ในการผลิตก๊าซธรรมชาติ น้ำมันและก๊าซการทำเหมืองแร่เป็นอุตสาหกรรมทุนเข้มข้นและมีพนักงานเพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์ของกำลังแรงงานรวม (ร้อยละ 5.2 ในปี 1995) ที่จุดเริ่มต้น 1993 สำรองอยู่ที่ประมาณ 1.4 พันล้านบาร์เรลน้ำมันและ 320 พันล้านลูกบาศก์เมตรของก๊าซ รัฐบาลได้ดำเนินนโยบายการสูญเสียของชาติตั้งแต่ปี 1988 มุ่งเป้าไปที่การรักษาทรัพยากรและการสำรวจอย่างต่อเนื่องในสาขาใหม่บรูไนเชลล์ปิโตรเลียม (เอสพี) ซึ่งเป็น บริษัท เหมืองแร่น้ำมันที่ใหญ่ที่สุด มันมี 7 ต่างประเทศและ 2 ทุ่งน้ำมันบนบกในประเทศบรูไน รัฐบาลบรูไนเป็นผู้ถือหุ้นที่เท่ากันกับรอยัลดัตช์เชลล์ในกลุ่ม บริษัท บริษัท น้ำมันสำรวจอีกที่สำคัญคือ Jasra-เอลฟ์เป็น บริษัท ร่วมทุนที่ได้รับการแข็งขันสำรวจน้ำคาร์บอนในต่างประเทศและได้ทำให้การค้นพบบางอย่างขายประจำปีบรูไนของก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) ขณะนี้มียอดขายเกือบ 6 ล้านเมตริกตัน LNG เป็นสิ่งสำคัญที่มีรายได้รายได้การส่งออกน้ำมันและเป็นกลุ่มของมันจะถูกซื้อโดย 3 บริษัท สาธารณูปโภคญี่ปุ่น: โตเกียวไฟฟ้า, ก๊าซโตเกียวและโอซาก้าก๊าซ ประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ของแอลเอ็นจีที่ใช้สำหรับการบริโภคภายในประเทศต่อไปนี้วิกฤตเศรษฐกิจในภูมิภาคในปี 1997 รวมกับความกังวลเกี่ยวกับการลดลงของราคาน้ำมันตลอดปี 1998 รัฐบาลบรูไนตระหนักว่าน้ำมันและก๊าซอุตสาหกรรมไม่สามารถ จำกัด ตัวเองเพียงเพื่อการสำรวจขุดเจาะ และการส่งออก ตอนนี้มันเป็นเป้าหมายในการพัฒนาอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ไฮโดรคาร์บอนในประเทศบรูไน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

น้ำมันและก๊าซธรรมชาติ เหมืองแร่เป็นกระดูกสันหลังของเศรษฐกิจของบรูไน ในปี 1998 ในภาคน้ำมันและก๊าซซึ่งประมาณร้อยละ 34 ต่อ GDP และควบคุมการส่งออก ในปี 1998 และการกลั่นปิโตรเลียม ( น้ำมันดิบคิดเป็นประมาณ 39 เปอร์เซ็นต์ของการส่งออกทั้งหมด และก๊าซธรรมชาติสำหรับ 49 เปอร์เซ็นต์ บรูไนเป็นที่สามที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และสิบสี่ ผู้ผลิตน้ำมันใหญ่ที่สุดในโลกมันอันดับที่สี่ในการผลิตก๊าซธรรมชาติ น้ำมันและก๊าซเหมืองเป็นทุนอุตสาหกรรม และมีเพียงร้อยละขนาดเล็กของแรงงานทั้งหมด ( ร้อยละ 5.2 ในปี 1995 ) ที่จุดเริ่มต้นของปี 1993 สำรองอยู่ประมาณ 1.4 ล้านบาร์เรล และ 320 พันล้านลูกบาศก์เมตรของก๊าซรัฐบาลได้ติดตามนโยบายของประเทศตั้งแต่ปี 1988 ที่มุ่งรักษาทรัพยากรและการศึกษาการสำรวจเขตข้อมูลใหม่

บรูไนเชลล์ปิโตรเลียม ( BSP ) เป็น บริษัท น้ำมัน เหมืองแร่ที่ใหญ่ที่สุด มี 7 ใน 2 เขตข้อมูลน้ำมันบนบกในบรูไน รัฐบาลบรูไนเป็นผู้ถือหุ้น เท่ากับรอยัลดัตช์เชลล์ กลุ่มบริษัทบริษัทสำรวจน้ำมันที่สำคัญอีกประการหนึ่ง คือ เอลฟ์ jasra , บริษัท ร่วมทุนที่ได้รับอย่างการสํารวจสําหรับไฮโดรคาร์บ ต่างประเทศและได้มีการค้นพบ

บรูไนยอดขายของก๊าซธรรมชาติเหลว ( LNG ) ขายอยู่เกือบ 6 ล้านเมตริกตัน LNG เป็นสําคัญรายได้รายได้การส่งออกน้ำมัน และ กลุ่ม ของ มันถูกซื้อโดย บริษัท ยูทิลิตี้ญี่ปุ่น 3 :โตเกียว โอซาก้า โตเกียว แก๊ส ไฟฟ้า และแก๊ส เกี่ยวกับร้อยละ 10 ของ LNG ที่ใช้เพื่อการบริโภคในประเทศ

ต่อไปนี้วิกฤตทางเศรษฐกิจในปี 1997 รวมกับความกังวลเกี่ยวกับราคาน้ำมันตก ตลอด 1998 รัฐบาลบรูไนตระหนักว่าอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซได้ไม่ จำกัด ตัวเองเพื่อสำรวจ ขุดเจาะและส่งออกคือตอนนี้เป้าหมายในการพัฒนาอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ไฮโดรคาร์บอนในบรูไน .