As in most of sub-Sahara Africa, ru

As in most of sub-Sahara Africa, rural people in Mozambique use firewood as their main source of energy. The use of firewood is associated with several health problems, and the time spent collecting it reduces time for other activities. Cassava is grown as a reserve crop in Mozambique where it is considered a ‘woman's crop’. Because the crop is drought-tolerant and resistant to diseases, it needs little attention and hence little labor input. This paper examines how the rural people in the case of Mozambique can use their current reserve crop, cassava, to meet their energy needs and food requirements and to increase their annual income. Cassava processing chains were modeled to assess (i) the effect of introducing an anaerobic digester for the digestion of cassava peels and other material (dung, kitchen waste and maize residues) at family level (BAU (business as usual) + family digester) and (ii) the effect of introducing an ethanol plant with treatment of stillage and production of electricity (BAU + community ethanol). The results show that it is economically viable to have BAU + family digester system and BAU + community ethanol. Sensitivity analysis showed that an increase in crop yield and the local price of cassava are the most important factors to increase the economic viability of the BAU + family digester system. Sensitivity analysis of the BAU + community ethanol system showed that this system is mainly affected by the price of ethanol. Besides the economic benefits, the proposed systems have other benefits, such as efficient recycling of nutrients and pollution reduction. Copyright © 2011 Society of Chemical Industry and John Wiley & Sons, Ltd

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในส่วนใหญ่ของแอฟริกาซาฮาราย่อย คนชนบทในโมซัมบิกใช้ฟืนเป็นหลักแหล่งของพลังงาน การใช้ฟืนเป็นเกี่ยวข้องกับปัญหาสุขภาพหลาย และเวลาที่ใช้เก็บรวบรวมจะช่วยลดเวลาสำหรับกิจกรรมอื่น ๆ ปลูกมันสำปะหลังเป็นพืชสำรองในโมซัมบิกซึ่งมันถือเป็น 'การครอบตัดของผู้หญิง' เนื่องจากพืช ทนแล้ง และทนต่อโรค ต้องการความสนใจน้อย และดังนั้น การป้อนข้อมูลของแรงงานน้อย กระดาษนี้ตรวจสอบวิธีคนชนบทในกรณีของโมซัมบิกสามารถใช้พืชสำรองปัจจุบัน มันสำปะหลัง เพื่อตอบสนองความต้องการพลังงานและความต้องการอาหาร และ การเพิ่มรายได้ประจำปี มันสำปะหลังแปรรูปโซ่ถูกจำลองในการประเมิน (i) ผลของการแนะนำบ่อย่อยชีวภาพที่ไม่ใช้ออกซิเจนเพื่อการย่อยอาหารของเปลือกมันสำปะหลังและวัสดุอื่น ๆ (มูล ครัวเสีย และตกค้างข้าวโพด) ในระดับครอบครัว (BAU (ธุรกิจตามปกติ) + ครอบครัวบ่อย่อยชีวภาพ) และ (ii) ผลของการแนะนำโรงงานรักษา stillage และการผลิตไฟฟ้า (บัว + ชุมชนเอทานอล) ผลแสดงว่า เป็นเศรษฐกิจที่มีระบบครอบครัวบ่อย่อยชีวภาพบัว และบัว + ชุมชนเอทานอล วิเคราะห์ความไวพบว่า การเพิ่มผลผลิตพืชและราคาของมันสำปะหลังในท้องถิ่นเป็นปัจจัยสำคัญในการเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจของบัว + ครอบครัวบ่อย่อยชีวภาพระบบ วิเคราะห์ความไวของบัว + ชุมชนระบบเอทานอลพบว่า ระบบนี้ส่วนใหญ่รับผลกระทบจากราคาเอทานอ นอกจากประโยชน์ทางเศรษฐกิจ ระบบการนำเสนอมีประโยชน์อื่น ๆ เช่นรีไซเคิลมีประสิทธิภาพของสารอาหารและลดมลพิษ ลิขสิทธิ์ © 2011 สมาคมอุตสาหกรรมเคมี และ John Wiley & Sons, Ltd

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ขณะที่ในส่วนของการย่อยทะเลทรายซาฮาราแอฟริกาชาวชนบทในประเทศโมซัมบิกใช้ฟืนเป็นแหล่งที่มาหลักของการใช้พลังงาน การใช้ไม้ฟืนมีความเกี่ยวข้องกับปัญหาสุขภาพหลายและเวลาที่ใช้ในการจัดเก็บภาษีจะช่วยลดเวลาสำหรับกิจกรรมอื่น ๆ มันสำปะหลังที่ปลูกเป็นพืชสำรองในประเทศโมซัมบิกที่มันจะถือเป็น 'พืชของผู้หญิง' เพราะพืชคือทนแล้งและทนต่อโรคก็ต้องให้ความสนใจน้อยและการป้อนแรงงานเล็ก ๆ น้อย ๆ ด้วยเหตุนี้ กระดาษนี้จะตรวจสอบวิธีการที่คนในชนบทในกรณีของประเทศโมซัมบิกสามารถใช้ปัจจุบันของพวกเขาสำรองพืชมันสำปะหลังที่จะตอบสนองความต้องการพลังงานของพวกเขาและความต้องการอาหารและเพื่อเพิ่มรายได้ประจำปีของพวกเขา โซ่การประมวลผลมันสำปะหลังถูกสร้างแบบจำลองเพื่อประเมิน (i) ผลของการแนะนำบ่อหมักแบบไม่ใช้ออกซิเจนสำหรับการย่อยอาหารของเปลือกมันสำปะหลังและวัสดุอื่น ๆ (มูลสัตว์ของเสียห้องครัวและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ตกค้าง) ในระดับครอบครัว (BAU (ธุรกิจตามปกติ) + หมักในครอบครัว) และ (ii) ผลของการแนะนำโรงงานเอทานอลที่มีการรักษา stillage และการผลิตกระแสไฟฟ้า (BAU + เอทานอลชุมชน) ผลการศึกษาพบว่ามันมีศักยภาพทางเศรษฐกิจที่จะมีบัว + ระบบบ่อหมักครอบครัวและเอทานอล + บัวชุมชน การวิเคราะห์ความไวแสดงให้เห็นว่าการเพิ่มขึ้นของผลผลิตและราคามันสำปะหลังในท้องถิ่นเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจของระบบบ่อหมักครอบครัวบัว + การวิเคราะห์ความไวของระบบเอทานอลชุมชนบัว + แสดงให้เห็นว่าระบบนี้ได้รับผลกระทบส่วนใหญ่โดยราคาเอทานอล นอกจากผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจระบบที่นำเสนอมีประโยชน์อื่น ๆ เช่นการรีไซเคิลที่มีประสิทธิภาพของสารอาหารและลดมลพิษ ลิขสิทธิ์© 2011 สม​​าคมอุตสาหกรรมเคมีและ John Wiley & Sons, Ltd

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ขณะที่ในส่วนของซับซาฮาราแอฟริกา ประชาชนในชนบทในโมซัมบิกใช้ฟืนเป็นแหล่งพลังงานหลัก การใช้ไม้ฟืนจะเกี่ยวข้องกับปัญหาสุขภาพต่าง ๆ และเวลาที่ใช้เก็บมันลดเวลาสำหรับกิจกรรมอื่น ๆ มันสำปะหลังเป็นพืชที่ปลูกเป็นทุนสำรองในโมซัมบิก ซึ่งถือเป็นพืช " ผู้หญิง " เนื่องจากเป็นพืชทนแล้ง ทนต่อโรค มันต้องการความสนใจเล็ก ๆน้อย ๆและด้วยเหตุนี้น้อยแรงงานนำเข้า กระดาษนี้จะตรวจสอบว่าประชาชนในชนบทกรณีศึกษาโมซัมบิกสามารถใช้พืชสำรอง ปัจจุบันปลูกมันสำปะหลัง เพื่อตอบสนองความต้องการพลังงานและความต้องการอาหารของพวกเขาและเพื่อเพิ่มรายได้ของพวกเขา การแปรรูปมันสำปะหลังเป็นโซ่แบบประเมิน ( 1 ) ผลของการแนะนำการใช้สำหรับหมักย่อยเปลือกมันสำปะหลังและวัสดุอื่น ๆ ( ดัง ของเสียครัวและข้าวโพด residues ) ในระดับครอบครัว ( BAU ( เหมือนเดิม ) + โดยครอบครัว ) และ ( 2 ) ผลของการมีโรงงานเอทานอล ด้วยการรักษา stillage และการผลิตไฟฟ้า ( เอทานอลชุมชนบัว + ) ผลที่ได้แสดงให้เห็นว่ามันเป็นทางเศรษฐกิจ ที่จะได้ โดยระบบครอบครัว บาว + และเอทานอลชุมชนบัว + การวิเคราะห์ความอ่อนไหว พบว่า การเพิ่มขึ้นของผลผลิตพืชผล และราคาท้องถิ่น มันสำปะหลัง เป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดเพื่อเพิ่มชีวิตทางเศรษฐกิจของบาว + ครอบครัว โดยระบบ การวิเคราะห์ความไวของบาว + เอทานอล พบว่า ระบบชุมชน ระบบนี้ส่วนใหญ่จะได้รับผลกระทบจากราคาเอทานอล นอกจากประโยชน์ทางเศรษฐกิจ ระบบที่เสนอข้อดีอื่น ๆเช่นการรีไซเคิลที่มีประสิทธิภาพของสารอาหารและลดมลพิษ ลิขสิทธิ์ 2011 สงวนลิขสิทธิ์สมาคมอุตสาหกรรมเคมี และ จอห์น ไวลี่ย์ & บุตรจำกัด