กระบวนการผลิตยางรถยนต์ขั้นที่ 1 การ

กระบวนการผลิตยางรถยนต์
ขั้นที่ 1 การผสมวัตถุดิบ (Mixing)
ส่วนผสม
• ยางธรรมชาติ เป็นส่วนประกอบที่สำคัญในการผลิตยางรถยนต์ คือ ช่วยทำให้ยางมีความยืดหยุ่นทนต่อแรงกระแทกและแรงดึงได้ดี แต่ยางธรรมชาติมีข้อจำกัด คือ เหมาะที่ใช้ในอุณหภูมิช่วง -40 ถึง 70 องศาเซลเซียส และไม่สามารถทนต่อน้ำมันบางประเภทได้
• ยางสังเคราะห์ เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีการพัฒนาเพื่อแก้ไขข้อบกพร่อง ให้มีคุณสมบัติเหนือยางธรรมชาติ ยางสังเคราะห์สามารถจำแนกออกได้ เป็น 2 กลุ่ม คือ
กลุ่ม 1 ยางที่มีคุณสมบัติทนความร้อนได้ดีกว่ายางธรรมชาติ แต่คุณสมบัติทานด้านความเหนียวและความยืดหยุ่นด้อยกว่ายางธรรมชาติ ยางสังเคราะห์กลุ่มนี้ ได้แก่ SRB (Styrene - Butadiene Rubber), BR (Polybutadiene Rubber)
กลุ่มที่ 2 เป็นยางที่มีคุณสมบัติทนต่อน้ำมัน ทนต่อความร้อนและโอโซน ยางสังเคราะห์ในกลุ่มนี้ เช่น CR (Chloroprene Neoprebe Rubber), NBR (Acrylomitrile Butadiene (uilites) Rubber )
• ผงเขม่าดำ (Carbon Black) เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากน้ำมันดิบ คุณสมบัติช่วยให้ยางแข็งตัว เพื่อเพิ่มความทนทานของยาง และทนต่อรอยขีดขวนต่าง ๆ
• สารเคมีต่าง ๆ เป็นส่วนประกอบที่สำคัญ ในการผสมยางธรรมชาติ ยางสังเคราะห์ และผงเขม่าดำ เพื่อเร่งปฏิกิริยาในการผลิต และเตรียมเป็น Compound Rubber ที่พร้อมนำไปขึ้นรูป สารเคมีที่ใช้แบ่งเป็น 4 กลุ่ม คือ
1. สารที่ทำให้ยางคงรูป (Vulcanizing Agent) ใส่เพื่อให้สถานะของยางอยู่สถานะยืดหยุ่นได้ กลุ่มนี้ได้แก่ กำมะถัน
2. สารป้องกันบางเสื่อมสภาพ (Protective Agent) สารกลุ่มที่ได้แก่ สารโอโซน
3. สารช่วยในกระบวนการผลิต เช่น น้ำมัน ช่วยให้ยางที่ทำการผสมมีคุณสมบัตินิ่มนวล
4. สารอื่น ๆ เช่น สารที่ทำให้ยางฟู หรือใส่ให้ยางมีสีต่าง ๆ
ขั้นที่ 2 การทำลวดขอบยาง (Bundling), การฉาบยาง (Coating) การขึ้นรูปขอบลวด(Foaming)

วิธีการคือ นำเส้นลวดมาทำเป็นขอบยางรถยนต์ คือ การดึงเส้นลวดมาในสายการผลิต แล้วทำการฉาบด้วยยาง จากนั้นนำไปขึ้นรูปขอบลวด
เส้นลวดที่ใช้ในการผลิตแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ
1. เส้นลวดประเภท Bead Wire สำหรับทำขอบยาง
2. เส้นลวดประเภท Steel Cord เป็นเส้นลวดใยเหล็กที่ใช้กับยาง Radial
หมายเหตุ เมื่อผ่านขั้นตอนที่ 2 แล้วจะได้ขอบลวดออกมา (Bead Rings)
ขั้นที่ 3 การทำโครงผ้าใบและการฉาบยางกับผ้าใบ
เมื่อผ่านขั้นตอนนี้แล้วนำแผ่นยางไปตัด ก็จะได้ โครงผ้าใบและเข็มขัดรัดหน้ายางเส้นลวด
ขั้นที่ 4 การทำเส้นลวดเหล็กและการฉาบยางกับเส้นลวด
เมื่อผ่านขั้นตอนนี้แล้วจะได้เข็มขัดรัดหน้ายาง
ขั้นที่ 5 การดันเนื้อยางเพื่อขึ้นรูปแก้มยางและหน้ายาง
เครื่องจักรสำหรับขึ้นรูปยาง เป็นการนำเอายางที่ผสมแล้ว มาขึ้นรูปเป็นลักษณะของชิ้นส่วนต่าง ๆ โดยอาจนำปัจจัยการผลิตอื่น ๆ เช่น ผ้าใบ เข้ามาเป็นส่วนประกอบ 1 เครื่องจักรที่ใช้ในการขึ้นรูปยาง มี 2 ลักษณะคือ
1. เครื่องจักรประเภท (Extrusion) เป็นเครื่องจักรที่ใช้ขึ้นรูปยาง โดยอาศัยแรงดันจากการหมุนของสกรูดันยางผสมผ่านแม่พิมพ์ออกมา Extrusion ใช้ในการขึ้นรูปยางในส่วนของโครงยางและขอบยาง
2. เครื่องจักรประเภท (Calendar) เป็นเครื่องจักรที่ขึ้นรูปยางโดยลักษณะการรีดยาง โดยลักษณะการรีดยางผสมที่เคลือบหรือฉาบกับวัสดุอื่น ๆ ให้เป็นแผ่นที่มีความหนา โดยอาศัยการรีดผ่านลูกกลิ้งจำนวน 2 ลูกในเครื่องจักร ใช้สำหรับขึ้นรูปในส่วนของชั้นผ้าใบ และเข็มขัดรัดหน้ายางในกรณีที่เป็นยางเรเดียล
ขั้นที่ 6 การประกอบโครงยาง
เมื่อผ่านขั้นตอนนี้แล้ว จะได้โครงยางสำเร็จรูป (Green Tire)
ขั้นที่ 7 การอบยาง (Curing Machine)
เครื่องอบยาง (Curing Press) เป็นเครื่องจักรที่ทำหน้าที่อัดลายดอกยางลงบนโครงยางสำเร็จรูป เครื่องจักรมีลักษณะเป็นฝาครอบเปิด-ปิด ได้ ภายในมีแม่พิมพ์ของลายดอกยางและช่องผ่านไอความร้อน เพื่ออัดลายดอกยางและอบให้ยางสุก
ขั้นที่ 8 ตัดเนื้อยางส่วนที่เกิน (Trimming)
ขั้นที่ 9 ตรวจสอบความสมดุลของยาง
ขั้นที่ 10 ได้ยางที่มีคุณภาพตามลักษณะการใช้งาน

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

กระบวนการผลิตยางรถยนต์การผสมวัตถุดิบขั้นที่ 1 (ผสม)ส่วนผสม•ยางธรรมชาติเป็นส่วนประกอบที่สำคัญในการผลิตยางรถยนต์คือช่วยทำให้ยางมีความยืดหยุ่นทนต่อแรงกระแทกและแรงดึงได้ดีแต่ยางธรรมชาติมีข้อจำกัดคือเหมาะที่ใช้ในอุณหภูมิช่วง -40 ถึง 70 องศาเซลเซียสและไม่สามารถทนต่อน้ำมันบางประเภทได้•ยางสังเคราะห์เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีการพัฒนาเพื่อแก้ไขข้อบกพร่องให้มีคุณสมบัติเหนือยางธรรมชาติยางสังเคราะห์สามารถจำแนกออกได้เป็น 2 กลุ่มคือกลุ่ม 1 ยางที่มีคุณสมบัติทนความร้อนได้ดีกว่ายางธรรมชาติแต่คุณสมบัติทานด้านความเหนียวและความยืดหยุ่นด้อยกว่ายางธรรมชาติยางสังเคราะห์กลุ่มนี้ได้แก่ SRB (สไตรีนอ - ยาง Butadiene), BR (Polybutadiene ยาง)กลุ่มที่ 2 เป็นยางที่มีคุณสมบัติทนต่อน้ำมันทนต่อความร้อนและโอโซนยางสังเคราะห์ในกลุ่มนี้เช่น CR (ยาง Chloroprene Neoprebe), NBR (Acrylomitrile Butadiene (uilites) ยาง)•ผงเขม่าดำ (คาร์บอนดำ) เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากน้ำมันดิบคุณสมบัติช่วยให้ยางแข็งตัวเพื่อเพิ่มความทนทานของยางและทนต่อรอยขีดขวนต่างๆ •สารเคมีต่างๆ เป็นส่วนประกอบที่สำคัญในการผสมยางธรรมชาติยางสังเคราะห์และผงเขม่าดำเพื่อเร่งปฏิกิริยาในการผลิตและเตรียมเป็นยางผสมที่พร้อมนำไปขึ้นรูปสารเคมีที่ใช้แบ่งเป็น 4 กลุ่มคือ1. กำมะถันสารที่ทำให้ยางคงรูป (Vulcanizing Agent) ใส่เพื่อให้สถานะของยางอยู่สถานะยืดหยุ่นได้กลุ่มนี้ได้แก่2. สารโอโซนสารกลุ่มที่ได้แก่สารป้องกันบางเสื่อมสภาพ (บริษัทตัวแทนการป้องกัน)3. สารช่วยในกระบวนการผลิตเช่นน้ำมันช่วยให้ยางที่ทำการผสมมีคุณสมบัตินิ่มนวล4. สารอื่นๆ เช่นสารที่ทำให้ยางฟูหรือใส่ให้ยางมีสีต่างๆ การทำลวดขอบยางขั้นที่ 2 (รวม), พรม การขึ้นรูปขอบลวด(Foaming) การฉาบยาง (เคลือบ)วิธีการคือนำเส้นลวดมาทำเป็นขอบยางรถยนต์คือการดึงเส้นลวดมาในสายการผลิตแล้วทำการฉาบด้วยยางจากนั้นนำไปขึ้นรูปขอบลวดเส้นลวดที่ใช้ในการผลิตแบ่งเป็น 2 ประเภทคือ 1. เส้นลวดประเภทลูกปัดลวดสำหรับทำขอบยาง2. เส้นลวดประเภทสายเหล็กเป็นเส้นลวดใยเหล็กที่ใช้กับยางรัศมีหมายเหตุเมื่อผ่านขั้นตอนที่ 2 แล้วจะได้ขอบลวดออกมา (แหวนลูกปัด) การทำโครงผ้าใบและการฉาบยางกับผ้าใบขั้นที่ 3เมื่อผ่านขั้นตอนนี้แล้วนำแผ่นยางไปตัดก็จะได้โครงผ้าใบและเข็มขัดรัดหน้ายางเส้นลวด การทำเส้นลวดเหล็กและการฉาบยางกับเส้นลวดขั้นที่ 4เมื่อผ่านขั้นตอนนี้แล้วจะได้เข็มขัดรัดหน้ายางขั้นที่ 5 การดันเนื้อยางเพื่อขึ้นรูปแก้มยางและหน้ายางเครื่องจักรสำหรับขึ้นรูปยางเป็นการนำเอายางที่ผสมแล้วมาขึ้นรูปเป็นลักษณะของชิ้นส่วนต่างๆ โดยอาจนำปัจจัยการผลิตอื่นๆ เช่นผ้าใบเข้ามาเป็นส่วนประกอบ 1 เครื่องจักรที่ใช้ในการขึ้นรูปยางมี 2 ลักษณะคือ1. เครื่องจักรประเภท (ผง) เป็นเครื่องจักรที่ใช้ขึ้นรูปยางโดยอาศัยแรงดันจากการหมุนของสกรูดันยางผสมผ่านแม่พิมพ์ออกมาผงใช้ในการขึ้นรูปยางในส่วนของโครงยางและขอบยาง2. เครื่องจักรประเภท (ปฏิทิน) เป็นเครื่องจักรที่ขึ้นรูปยางโดยลักษณะการรีดยางโดยลักษณะการรีดยางผสมที่เคลือบหรือฉาบกับวัสดุอื่นๆ ให้เป็นแผ่นที่มีความหนาโดยอาศัยการรีดผ่านลูกกลิ้งจำนวน 2 ลูกในเครื่องจักรใช้สำหรับขึ้นรูปในส่วนของชั้นผ้าใบและเข็มขัดรัดหน้ายางในกรณีที่เป็นยางเรเดียลการประกอบโครงยางขั้นที่ 6เมื่อผ่านขั้นตอนนี้แล้วจะได้โครงยางสำเร็จรูป (ยางสีเขียว) ขั้นที่ 7 การอบยาง (เครื่องบ่ม)เครื่องอบยาง (กดที่บ่ม) เป็นเครื่องจักรที่ทำหน้าที่อัดลายดอกยางลงบนโครงยางสำเร็จรูปเครื่องจักรมีลักษณะเป็นฝาครอบเปิดปิดได้ภายในมีแม่พิมพ์ของลายดอกยางและช่องผ่านไอความร้อนเพื่ออัดลายดอกยางและอบให้ยางสุกขั้นที่ 8 ตัดเนื้อยางส่วนที่เกิน (ตัดแต่ง)ขั้นที่ 9 ตรวจสอบความสมดุลของยางขั้นที่ 10 ได้ยางที่มีคุณภาพตามลักษณะการใช้งาน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ผลิตยางกระบวนการรถยนต์ขั้นที่ 1 การผสมวัตถุดิบ (ผสม) ส่วนผสม•ยางธรรมชาติ คือ แต่ยางธรรมชาติมีข้อ จำกัด คือเหมาะที่ใช้ในอุณหภูมิช่วง -40 ถึง 70 องศาเซลเซียส ยางสังเคราะห์ ให้มีคุณสมบัติเหนือยางธรรมชาติยางสังเคราะห์สามารถจำแนกออกได้เป็น 2 คือกลุ่มกลุ่ม1 ยางสังเคราะห์กลุ่มนี้ ได้แก่ SRB (สไตรีน - Butadiene Rubber), BR (polybutadiene ยาง) กลุ่มที่ 2 เป็นยางที่มีคุณสมบัติทนต่อน้ำมันทนต่อความร้อนและโอโซนยางสังเคราะห์ในกลุ่มนี้เช่น CR (Chloroprene Neoprebe ยาง) NBR ( Acrylomitrile Butadiene (uilites) ยาง) •ผงเขม่าดำ (Carbon Black) เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากเนชั่น้ำมันดิบคุณสมบัติช่วยให้ยางแข็งตัวเพื่อเพิ่มความทนทานของยางและทนต่อรอยขีดขวนต่าง ๆ•สารเคมีต่าง ๆ เป็นส่วนประกอบที่สำคัญ ในการผสมยางธรรมชาติยางสังเคราะห์และผงเขม่าดำเพื่อเร่งปฏิกิริยาในการผลิตและเตรียมเป็นยางที่พร้อมนำไปขึ้นรูปสารเคมีที่ใช้แบ่งเป็น 4 กลุ่มคือ1 สารที่ทำให้ยางคงรูป (Vulcanizing Agent) กลุ่มนี้ ได้แก่ กำมะถัน2 สารป้องกันบางเสื่อมสภาพ (ป้องกัน Agent) สารกลุ่มที่ ได้แก่ สารโอโซน3 สารช่วยในกระบวนการผลิตเช่นน้ำมัน สารอื่น ๆ เช่นสารที่ทำให้ยางฟูหรือใส่ให้ยางมีสีต่าง ๆขั้นที่ 2 การทำลวดขอบยาง (Bundling) การฉาบยาง (เคลือบ) การขึ้นรูปขอบลวด (โฟม) วิธีการคือนำเส้นลวดมา ทำเป็นขอบยางรถยนต์คือการดึงเส้นลวดมาในสายการผลิตแล้วทำการฉาบด้วยยาง 2 ประเภทคือ1 เส้นลวดประเภทลูกปัดลวดสำหรับทำขอบยาง2 เส้นลวดประเภทสายไฟเหล็กเป็นเส้นลวดใยเหล็กที่ใช้กับยางเรเดียลหมายเหตุเมื่อผ่านขั้นตอนที่ 2 แล้วจะได้ขอบลวดออกมา (แหวนลูกปัด) ขั้นที่ 3 ก็จะได้ 4 5 เป็นการนำเอายางที่ผสมแล้ว ๆ โดยอาจนำปัจจัยการผลิตอื่น ๆ เช่นผ้าใบเข้ามาเป็นส่วนประกอบ 1 เครื่องจักรที่ใช้ในการขึ้นรูปยางมี 2 ลักษณะคือ1 เครื่องจักรประเภท (Extrusion) เป็นเครื่องจักรที่ใช้ขึ้นรูปยาง การอัดขึ้นรูป เครื่องจักรประเภท (ปฏิทิน) ๆ ให้เป็นแผ่นที่มีความหนาโดยอาศัยการรีดผ่านลูกกลิ้งจำนวน 2 ลูกในเครื่องจักร 6 จะได้โครงยางสำเร็จรูป (สีเขียวยาง) ขั้นที่ 7 การอบยาง (เครื่องบ่ม) เครื่องอบยาง (บ่มกด) ได้ 8 ตัดเนื้อยางส่วนที่เกิน (ตัด) ขั้นที่ 9 สอบความตรวจสมดุลของยางขั้นที่10

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

กระบวนการผลิตยางรถยนต์
ขั้นที่ 1 การผสมวัตถุดิบ ( ผสม )

ส่วนผสมบริการยางธรรมชาติเป็นส่วนประกอบที่สำคัญในการผลิตยางรถยนต์ความช่วยทำให้ยางมีความยืดหยุ่นทนต่อแรงกระแทกและแรงดึงได้ดีแต่ยางธรรมชาติมีข้อจำกัดความเหมาะที่ใช้ในอุณหภูมิช่วง - 40 ถึง 70 องศาเซลเซียสบริการยางสังเคราะห์เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีการพัฒนาเพื่อแก้ไขข้อบกพร่องให้มีคุณสมบัติเหนือยางธรรมชาติยางสังเคราะห์สามารถจำแนกออกได้เป็น
กลุ่มความ 2กลุ่ม 1 ยางที่มีคุณสมบัติทนความร้อนได้ดีกว่ายางธรรมชาติแต่คุณสมบัติทานด้านความเหนียวและความยืดหยุ่นด้อยกว่ายางธรรมชาติยางสังเคราะห์กลุ่มนี้ได้แก่ MPB ( สไตรีน - ยางบิวทาไดอีน ) BR ( ยางโพลีบิวตาไดอีน )
กลุ่มที่ 2 เป็นยางที่มีคุณสมบัติทนต่อน้ำมันทนต่อความร้อนและโอโซนยางสังเคราะห์ในกลุ่มนี้เช่น CR ( พักเหนื่อย neoprebe ยาง NBR ( acrylomitrile ยางบิวทาไดอีน ( uilites ) )
บริการผงเขม่าดำ ( Carbon Black ) เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากน้ำมันดิบคุณสมบัติช่วยให้ยางแข็งตัวเพื่อเพิ่มความทนทานของยางจะและทนต่อรอยขีดขวนต่าง