Table 6. Comparison of performance

Table 6. Comparison of performance before and after BPR

Prior BPR After BPR

Sales Service time 30-60 minutes Less than 15 minutes

Availability rate 70% 90%

Additional Cost (annually) - About 30 million

Cost Saving (annually) - About 70 million

5. Discussion & Conclusion

Change the business landscape encountered by companies forced the company to make significant improvements in business processes. BPR method is used because it can dramatically improve the performance of the company compared to other methods. Davenport (1990) points out the major difference between BPR and other approaches to organization development (OD), especially the continuous improvement or TQM movement, when he states: "Today firms must seek not fractional, but multiplicative levels of improvement 10x rather than 10%."

The main problems facing the company are: the performance of the sales process and poor inventory control. After the reengineering process, the average service time can be reduced from a maximum of 60 minutes to a maximum of 15 minutes (a decrease of 75% of the average time). The availability rate of the products also increased significantly from 70% to 90%. Improved performance in the sales process, combined with increased availability of the product can improve the overall quality of service so that workshop X can seize market share that has been lost and maintain its business continuity.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ตาราง 6 การ เปรียบเทียบผลก่อน และ หลัง BPRBPR ก่อนหลัง BPRขายบริการเวลา 30-60 นาทีน้อยกว่า 15 นาทีพร้อมอัตรา 70% 90%เพิ่มเติมทุนประมาณ 30 ล้าน (ปี) -ต้นทุนประหยัด (รายปี) - ประมาณ 70 ล้าน5. อภิปรายและสรุปการเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ทางธุรกิจที่พบ โดยบริษัทบังคับให้บริษัทต้องปรับปรุงที่สำคัญในกระบวนการทางธุรกิจ ใช้วิธี BPR เพราะมันสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของบริษัทเมื่อเทียบกับวิธีอื่น ๆ ดาเวนพอร์ท (1990) ชี้ให้เห็นความแตกต่างที่สำคัญระหว่าง BPR และอื่น ๆ แนวทางการพัฒนาองค์กร (OD), โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องหรือความเคลื่อนไหวของ TQM เมื่อเขาระบุ: "วันนี้บริษัทต้องหาไม่เป็นเศษส่วน แต่เชิงการคูณในระดับปรับปรุง 10 x มากกว่า 10% "มีปัญหาหลักที่เผชิญบริษัท: ประสิทธิภาพของกระบวนการขายและควบคุมสินค้าคงคลังที่ดี หลังจากการ reengineering เวลาเฉลี่ยบริการสามารถลดสูงสุด 60 นาทีสูงสุดไม่เกิน 15 นาที (ลดลง 75% ของเวลาเฉลี่ย) อัตราความพร้อมใช้งานของผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจาก 70% เป็น 90% ปรับปรุงประสิทธิภาพในกระบวนการขาย รวมกับผลิตภัณฑ์เพิ่มความสามารถปรับปรุงคุณภาพโดยรวมของบริการเชิงว่า X สามารถแย่งส่วนแบ่งตลาดที่สูญหาย และรักษาความต่อเนื่องของธุรกิจ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ตารางที่ 6 การเปรียบเทียบผลการดำเนินงานก่อนและหลังการ BPR ก่อน BPR BPR หลังจากที่ขายบริการเวลา30-60 นาทีน้อยกว่า 15 นาทีอัตราความพร้อมใช้งาน70% 90% ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม (ปี) - เกี่ยวกับ 30 ล้านประหยัดค่าใช้จ่าย(ต่อปี) - เกี่ยวกับ 70 ล้าน5 . คำอธิบายและสรุปการเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ทางธุรกิจที่พบโดย บริษัท บังคับให้ บริษัท ที่จะทำให้การปรับปรุงที่สำคัญในกระบวนการทางธุรกิจ วิธี BPR ถูกนำมาใช้เพราะมันอย่างมากสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของ บริษัท เมื่อเทียบกับวิธีอื่น ๆ ดาเวนพอร์ต (1990) ชี้ให้เห็นความแตกต่างที่สำคัญระหว่าง BPR และวิธีการอื่น ๆ เพื่อการพัฒนาองค์กร (OD) โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องหรือการเคลื่อนไหว TQM เมื่อเขากล่าวว่า "บริษัท วันนี้ต้องขอไม่ได้บางส่วน แต่ระดับคูณ 10 เท่าการปรับปรุงมากกว่า 10 % ". ปัญหาหลักหันหน้าไปทาง บริษัท คือประสิทธิภาพการทำงานของขั้นตอนการขายและการควบคุมสินค้าคงคลังที่น่าสงสาร หลังจากขั้นตอนการรื้อปรับระบบที่เวลาการให้บริการเฉลี่ยจะลดลงจากสูงสุด 60 นาทีสูงสุด 15 นาที (ลดลงจาก 75% ของเวลาเฉลี่ย) อัตราความพร้อมใช้งานของผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจาก 70% ถึง 90% ผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นในขั้นตอนการขายรวมกับความพร้อมใช้งานที่เพิ่มขึ้นของผลิตภัณฑ์ที่สามารถปรับปรุงคุณภาพโดยรวมของการให้บริการเพื่อให้การประชุมเชิงปฏิบัติการ X ที่สามารถยึดส่วนแบ่งการตลาดที่ได้รับการสูญเสียและการรักษาความต่อเนื่องทางธุรกิจ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ตารางที่ 6 การเปรียบเทียบประสิทธิภาพก่อนและหลัง BPR

ก่อน BPR หลังจาก BPR

ขายบริการเวลา 30-60 นาที น้อยกว่า 15 นาที

ห้องพักอัตรา 70% 90%

เพิ่มเติมต้นทุน ( ต่อปี ) - ประมาณ 30 ล้าน

ประหยัดต้นทุน ( ต่อปี ) - 70 ล้าน

5 สรุปการอภิปราย&

เปลี่ยนธุรกิจแนวนอนพบโดย บริษัท ถูกบังคับให้ บริษัท ที่จะทำให้การปรับปรุงที่สำคัญในกระบวนการทางธุรกิจ BPR จะใช้วิธีเนื่องจากมันสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของ บริษัท เมื่อเทียบกับวิธีอื่น ๆ ดาเวนพอร์ต ( 1990 ) จุดแตกต่างที่สำคัญระหว่าง BPR และวิธีการอื่น ๆเพื่อพัฒนาองค์การ ( OD )โดยเฉพาะการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องหรือการเคลื่อนไหวของ TQM , เมื่อเขาระบุ : " บริษัท วันนี้ต้องไม่แสวงหาเศษ แต่ระดับของการปรับปรุงการคูณ 10x มากกว่า 10 % "

ปัญหาหลักหันหน้าไปทาง บริษัท คือ ประสิทธิภาพของกระบวนการขายและการควบคุมสินค้าคงคลังที่น่าสงสาร หลังจากการรื้อปรับกระบวนการเวลาการให้บริการเฉลี่ยจะลดลงจากสูงสุด 60 นาที ไม่เกิน 15 นาที ( ลดลงจาก 75% ของเวลาเฉลี่ย ) มีคะแนนของผลิตภัณฑ์ยังลดลงจาก 70% ถึง 90% การปรับปรุงประสิทธิภาพในกระบวนการขายรวมกับการเพิ่มความพร้อมของผลิตภัณฑ์ที่สามารถปรับปรุงคุณภาพโดยรวมของบริการเพื่อให้ปฏิบัติการ X สามารถยึดส่วนแบ่งตลาดที่ได้สูญหายไป และรักษาความต่อเนื่องทางธุรกิจของ