Prudent, proactive fiscal policy A

Prudent, proactive fiscal policy
A hallmark of economic management in Mauritius in recent decades has been prudent fiscal policy,
which has helped both maintain macroeconomic stability and contribute to growth. Fiscal policy in
Mauritius has focused on ensuring that spending remains linked to the resource availability. While there
have been fiscal imbalances, there is no history of the government borrowing from the central bank or
from aid agencies. The strong growth in the 1980s led to a decrease in recourse to foreign financing. The
budget deficit which was at 3 percent in 1983, turned into a budget surplus by 1987, as current
expenditures shrank from 26 percent of GDP to 21 percent in 1987 while government revenues
remained flat, around 24 percent over the same period. On the expenditure side, the government
withdrew from subsidies on food items and kept the wage bill under control during that period.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

นโยบายทางการเงินที่ระมัดระวัง เชิงรุก จุดเด่นของการบริหารเศรษฐกิจในมอริเชียสในทศวรรษที่ผ่านมาล่าสุดได้รับนโยบายทางการเงินที่ระมัดระวัง ซึ่งได้ช่วยรักษาเสถียรภาพ และการเจริญเติบโต นโยบายทางการเงิน มอริเชียสได้เน้นมั่นใจว่า ยังคงใช้จ่ายเชื่อมโยงกับทรัพยากร ในขณะที่มี มีความไม่สมดุลทางการเงิน มีไม่มีประวัติของรัฐบาลกู้ยืมเงินจากธนาคารกลาง หรือ จากหน่วยงานความช่วยเหลือ การเจริญเติบโตแข็งแกร่งในทศวรรษ 1980 นำไปจัดเตรียมเงินต่างประเทศลดลง ที่ ขาดดุลงบประมาณซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 3 ใน 1983 เปิดเป็นดุลงบประมาณ โดย 1987 เป็นปัจจุบัน ค่าใช้จ่าย shrank จากร้อยละ 26 ของ GDP เป็นร้อยละ 21 ในปี 1987 ขณะที่รายได้รัฐบาล ยังคงแบน ประมาณ 24 เปอร์เซ็นต์รอบระยะเวลาเดียวกัน ด้านค่าใช้จ่าย รัฐบาล ต้องถอนตัวออกจากเงินอุดหนุนในสินค้าอาหาร และเก็บตั๋วค่าจ้างภายใต้การควบคุมที่

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ระมัดระวังนโยบายการคลังเชิงรุก
จุดเด่นของการบริหารนโยบายเศรษฐกิจในประเทศมอริเชียสในทศวรรษที่ผ่านมาได้รับนโยบายการคลังรอบคอบ
ซึ่งได้ช่วยให้ทั้งรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจมหภาคและนำไปสู่การเจริญเติบโต นโยบายการคลังใน
มอริเชียสได้มุ่งเน้นไปที่การสร้างความมั่นใจว่าการใช้จ่ายยังคงเชื่อมโยงกับทรัพยากร ในขณะที่มี
ได้รับความไม่สมดุลของงบประมาณมีประวัติของการกู้เงินของรัฐบาลจากธนาคารกลางหรือ
จากหน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือ การเติบโตที่แข็งแกร่งในปี 1980 นำไปสู่การลดลงของการขอความช่วยเหลือในการจัดหาเงินทุนต่างประเทศ
การขาดดุลงบประมาณซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 3 ในปี 1983 กลายเป็นส่วนเกินงบประมาณจากปี 1987 ขณะที่ปัจจุบัน
ค่าใช้จ่ายลดลงจากร้อยละ 26 ของ GDP อยู่ที่ร้อยละ 21 ในปี 1987 ในขณะที่รายได้ของรัฐบาล
ยังคงแบนประมาณร้อยละ 24 ในช่วงเวลาเดียวกัน ในด้านการใช้จ่ายของรัฐบาล
ถอนตัวออกจากเงินอุดหนุนในรายการอาหารและเก็บเงินค่าจ้างภายใต้การควบคุมในช่วงเวลานั้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ระมัดระวัง ,
นโยบายการคลังเชิงรุก จุดเด่นของการบริหารเศรษฐกิจในมอริเชียสในทศวรรษที่ผ่านมามีนโยบายการคลังที่ระมัดระวัง ,
ซึ่งได้ช่วยทั้งรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ และสนับสนุนการเติบโต นโยบายการคลัง
มอริเชียสได้เน้นให้ใช้ยังคงเชื่อมโยงกับทรัพยากรที่พร้อมใช้งาน ในขณะที่มี
มีความไม่สมดุลทางการเงินไม่มีประวัติของรัฐบาลกู้ยืมเงินจากธนาคารกลางหรือ
จากหน่วยงานช่วยเหลือ . การเจริญเติบโตที่แข็งแกร่งในช่วงปี 1980 นำไปสู่การลดลงในการขอความช่วยเหลือทางการเงินจากต่างประเทศ
การขาดดุลงบประมาณซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 3 ในปี 1983 เป็นงบประมาณขาดดุล โดย 1987 เป็นค่าใช้จ่ายปัจจุบัน
( จาก 26 เปอร์เซ็นต์ของ GDP ถึงร้อยละ 21 ในปี 1987 ขณะที่รายได้
รัฐบาลยังคงแบนประมาณ 24 เปอร์เซ็นต์ในช่วงเวลาเดียวกัน ทางด้านรายจ่าย รัฐบาล
ถอนตัวจากเงินอุดหนุนสินค้าอาหารและเก็บค่าเหนื่อยภายใต้การควบคุมในช่วงเวลานั้น