แนวคิดระบบประชาคมโลก จึงให้ความสาคัญกับระบบรัฐภายใต้บริบทของสังคมโลกที่ต้องปฏิสัมพันธ์กับหน่วยงานระหว่างประเทศที่หลากหลาย ถูกขับเคลื่อนไปภายใต้แบบธรรมเนียมและกฎเกณฑ์ระหว่างประเทศ รัฐในระบบประชาคมโลกจึงไม่ได้มีอิสระที่จะเลือกกระทาหรือไม่กระทากิจกรรมหนึ่งๆ เสียทีเดียว หากแต่ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์เชิงโครงสร้างโลกที่เกี่ยวข้องกับผลผลิต การแลกเปลี่ยน และ การต่อรองผ่านรูปแบบของวัฒนธรรมและการสื่อสารในระดับโลก ครอบคลุมพหุมิติทั้งในทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม ความสัมพันธ์ของรัฐที่เกิดขึ้นถือเป็นส่วนหนึ่งของความสัมพันธ์ของมนุษย์ซึ่งให้ความสาคัญกับความเป็นอิสระ ความมั่นคง ระเบียบและความยุติธรรม ในขณะเดียวกันก็ให้การยอมรับถึงอานาจอธิปไตยของแต่ละรัฐ ผลประโยชน์ของรัฐ และสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศด้วย (Jackson and Sorensen 2008: 141-161) แนวคิดนี้ได้ถูกนามาใช้ในสถานการณ์ในระดับโลกมากขึ้นเรื่อยๆ เช่น การยอมรับถึงมติของสหประชาชาติในกรณีของสงครามอ่าวเปอร์เซีย และการที่รัฐต้องปฏิบัติตามข้อตกลงและกฎหมายสิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศ เป็นต้น