Wound healing involves coordinating

Wound healing involves coordinating connective tissue repair, angiogenesis and re-epithelialization, in response to injury or trauma (36). The result is the formation of nascent tissue, fibroblast proliferation and the secretion of extracellular matrix proteins and growth factors (27,37). It has been widely established that the role of angiogenesis is crucial during would healing. This process primarily supplies oxygen, as well as metabolites, to the newly formed tissues and works to remove any damaged and waste products of the metabolism during the repairing process (38). Furthermore, angiogenesis may be responsible for regulating processes involved in wound healing, indicated by the fact that impairment of angiogenesis causes wound healing to be impaired or unsuccessful (39). In addition, angiogenesis provides 60% of newly formed blood vessels with relevant repairing molecules and as such neovascularization would help in attaining normoxic conditions in hypoxic wounds (40).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การรักษาแผลเกี่ยวข้องกับการประสานงานการซ่อมแซมเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน การสร้างเส้นเลือดใหม่ และใหม่ epithelialization บาดเจ็บหรือบาดเจ็บ (36) ผลคือ การก่อตัวของเนื้อเยื่อก่อ เจริญเติบโตของ fibroblast และการหลั่งของสารเคลือบโปรตีนและปัจจัยการเจริญเติบโต (27,37) มีการก่อตั้งกันอย่างแพร่หลายว่า บทบาทของการสร้างเส้นเลือดใหม่เป็นสิ่งสำคัญในระหว่างการรักษาจะ กระบวนการนี้เป็นหลักอุปกรณ์ออกซิเจน เป็นสาร เนื้อเยื่อที่จัดตั้งขึ้นใหม่ และทำงานเพื่อขจัดความเสียหาย และเสียของการเผาผลาญในระหว่างกระบวนการซ่อมแซม (38) นอกจากนี้ สร้างเส้นเลือดใหม่อาจได้รับผิดชอบกระบวนการกำกับดูแลที่เกี่ยวข้องในการรักษาบาดแผล ระบุข้อเท็จจริงที่ว่า ด้อยค่าการสร้างเส้นเลือดทำให้เกิดแผลจะบกพร่องหรือไม่สำเร็จ (39) นอกจากนี้ สร้างเส้นเลือดให้ 60% ของเส้นเลือดใหม่เกิดขึ้นกับโมเลกุลเกี่ยวข้องซ่อมแซม และดังกล่าวแพร่กระจายจะช่วยในการบรรลุเงื่อนไข normoxic ในแผลแปร (40)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การรักษาบาดแผลที่เกี่ยวข้องกับการประสานงานการซ่อมแซมเนื้อเยื่อเกี่ยวพันเจเนซิสและอีก epithelialization ในการตอบสนองต่อการบาดเจ็บหรือการบาดเจ็บ (36) ผลที่ได้คือการก่อตัวของเนื้อเยื่อตั้งไข่ขยาย fibroblast และการหลั่งของโปรตีน extracellular เมทริกซ์และปัจจัยการเจริญเติบโต (27,37) มันได้รับการจัดตั้งขึ้นอย่างกว้างขวางว่าบทบาทของเจเนซิสเป็นสิ่งสำคัญในช่วงที่จะรักษา กระบวนการนี้เป็นหลักออกซิเจนเช่นเดียวกับสารไปยังเนื้อเยื่อที่จัดตั้งขึ้นใหม่และทำงานเพื่อเอาผลิตภัณฑ์ใด ๆ ที่เสียหายและเสียของการเผาผลาญในระหว่างขั้นตอนการซ่อม (38) นอกจากนี้เจเนซิสอาจจะต้องรับผิดชอบในการควบคุมกระบวนการมีส่วนร่วมในการรักษาแผลชี้ให้เห็นความจริงที่ว่าสาเหตุการด้อยค่าของเจเนซิสของบาดแผลที่จะลดหรือไม่ประสบความสำเร็จ (39) นอกจากนี้เจเนซิสให้ 60% ของที่จัดตั้งขึ้นใหม่หลอดเลือดกับโมเลกุลซ่อมที่เกี่ยวข้องและเป็น neovascularization ดังกล่าวจะช่วยในการบรรลุเงื่อนไข normoxic บาดแผล hypoxic (40)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สมานแผลที่เกี่ยวข้องกับการซ่อมแซมเนื้อเยื่อประสานงาน เจเนซิส และแวะ epithelialization , ในการตอบสนองต่อการบาดเจ็บหรือการบาดเจ็บ ( 36 ) ผลที่ได้คือการตั้งไข่เนื้อเยื่อ และการหลั่งโปรตีนเนื้อเยื่อเกี่ยวพันเมทริกซ์นอกเซลล์ และปัจจัยการเจริญเติบโต ( 27,37 ) มันได้ถูกอย่างกว้างขวางขึ้นว่าบทบาทของเจเนซิสเป็นสิ่งสำคัญในระหว่างจะเยียวยารักษา กระบวนการนี้เป็นหลักอุปกรณ์ออกซิเจน เป็นสาร ที่เพิ่งจัดตั้งขึ้นใหม่ เนื้อเยื่อ และทำงานเพื่อลบใด ๆเสียหาย และของเสียของการเผาผลาญในกระบวนการซ่อมแซม ( 38 ) นอกจากนี้ เจเนซิสจะรับผิดชอบเกี่ยวกับกระบวนการที่เกี่ยวข้องในการรักษาแผล , แสดงโดยข้อเท็จจริงที่ว่าผลของเจเนซิสทำให้เกิดบาดแผลจะบกพร่องหรือไม่ ( 39 ) นอกจากนี้ เจเนซิส มี 60% ของรูปแบบใหม่ หลอดเลือดที่เกี่ยวข้องกับการซ่อมแซมโมเลกุลและเป็นเช่น neovascularization จะช่วยในการบรรลุเงื่อนไขในการติดตั้ง normoxic แผล ( 40 )