Fig. 3.10 Relationship degree.The o

Fig. 3.10 Relationship degree.
The optionality of relationship type R in Fig. 3.10(b) is one as shown by the line. This means that the minimum number of Bs that an A is related to is one. A must be related to at least one B. Considering the optionality and cardinality of relationship type R together, we can say that one A entity is related by R to one or more B entities. Another way of describing the optionality of one, is to say that R is a mandatory relationship type. An A must be related to a B. R's optionality is mandatory. With optionality, the opposite of 'mandatory' is optional. In Fig. 3.10(b) the inverse of R happens to be optional, as shown by the circle. The inverse of R is an optional relationship type. This means that one B might not be related (by the inverse of R) to any A. There may be a B entity not related to any A entity. Considering the optionality and cardinality of the inverse of R together, we can say that a B entity is related (by the inverse of R) to zero or one A entities.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Fig. 3.10 ความสัมพันธ์ระดับการOptionality ของชนิดของความสัมพันธ์ R ใน Fig. 3.10(b) เป็นหนึ่งตามที่แสดง โดยบรรทัด ซึ่งหมายความ ว่า จำนวนของ Bs ที่เกี่ยวข้องกับ A เป็น ต้องเกี่ยวข้อง A B. น้อยพิจารณา optionality และภาวะเชิงการนับของชนิดของความสัมพันธ์ R ด้วยกัน เราสามารถพูดได้ว่าหนึ่งเอนทิตีเกี่ยวข้องกับ R อย่าง น้อยหนึ่งเอนทิตี B อีกวิธีหนึ่งของการอธิบาย optionality หนึ่ง จะพูดว่า R เป็นความสัมพันธ์ที่บังคับ ต้องเกี่ยวข้อง A ของ B. R optionality ถูกบังคับ มี optionality ตรงกันข้ามกับ 'บังคับ' ไม่จำเป็น ใน Fig. 3.10(b) ผกผันของ R เกิดขึ้นต้องเลือก แสดง โดยวงกลม ชนิดของความสัมพันธ์ตัวเลือกการผกผันของ R ได้ หมายความ ว่า B หนึ่งไม่งาน (โดยผกผันของ R) อ.ใด ๆ อาจมีเอนทิตี้ B ที่ไม่เกี่ยวข้องกับเอนทิตี A พิจารณา optionality และภาวะเชิงการนับของตัวผกผันของ R กัน เราสามารถบอกว่า เอนทิตี B เกี่ยวข้อง (โดยผกผันของ R) ศูนย์ หรือหนึ่งเอนทิตี A

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มะเดื่อ 3.10 ระดับความสัมพันธ์.
optionality ประเภทความสัมพันธ์ R ในรูป 3.10 (ข) เป็นหนึ่งที่แสดงโดยเส้น ซึ่งหมายความว่าจำนวนขั้นต่ำของ Bs ที่เกี่ยวข้องกับการเป็นหนึ่ง จะต้องเกี่ยวข้องกับอย่างน้อยหนึ่ง B. พิจารณา optionality และ cardinality ประเภทความสัมพันธ์ R ร่วมกันเราสามารถพูดได้ว่ากิจการหนึ่งที่เกี่ยวข้องโดย R เพื่อหนึ่งหรือมากกว่าหนึ่งหน่วยงาน B วิธีการอธิบาย optionality หนึ่งก็คือการบอกว่า R เป็นประเภทความสัมพันธ์ที่ได้รับคำสั่ง จะต้องเกี่ยวข้องกับบีอาร์ optionality มีผลบังคับใช้ ด้วย optionality ตรงข้ามของ 'บังคับ' เป็นตัวเลือก ในรูป 3.10 (ข) การผกผันของ R เกิดขึ้นจะเป็นตัวเลือกที่แสดงโดยวงกลม ผกผันของ R เป็นประเภทความสัมพันธ์ที่ไม่จำเป็น ซึ่งหมายความว่าหนึ่ง B อาจจะไม่ได้เกี่ยวข้อง (โดยผกผันของ R) เพื่อ A. ใด ๆ อาจจะมีนิติบุคคล B ไม่เกี่ยวข้องกับนิติบุคคลใด ๆ พิจารณา optionality และเซตผกผันของ R ร่วมกันเราสามารถพูดได้ว่านิติบุคคล B เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้อง (โดยผกผันของ R) เพื่อเป็นศูนย์หรือหน่วยงานหนึ่ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

รูปที่ 3.10 ความสัมพันธ์ . .
optionality ความสัมพันธ์ R ในรูปที่ 3.10 ( B ) เป็นหนึ่งที่แสดงโดยเส้น ซึ่งหมายความว่าจำนวนต่ำสุดของ BS ที่ A เกี่ยวข้องกับเป็นหนึ่ง จะต้องเกี่ยวข้องกับอย่างน้อยหนึ่งพ. พิจารณา optionality ภาวะเชิงการนับของประเภทและความสัมพันธ์ R ด้วยกัน เราสามารถพูดได้ว่าเป็นกิจการที่เกี่ยวข้องกับหนึ่งหรือมากกว่าโดย R B หน่วยงาน .อีกวิธีหนึ่งของการ optionality หนึ่งคือว่า r คือประเภทความสัมพันธ์บังคับ ที่ต้องเกี่ยวข้องกับ B . R optionality เป็นข้อบังคับ กับ optionality , ตรงข้ามของ ' คำสั่ง ' ตัวเลือก ในรูปที่ 3.10 ( B ) 3 R เป็นตัวเลือกที่แสดงโดยวงกลม 3 R คือประเภทความสัมพันธ์ก็ได้ซึ่งหมายความว่าหนึ่ง B อาจจะไม่ใช่ที่เกี่ยวข้อง ( โดย 3 R ) ใด ๆ . มันอาจจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับการใด ๆข นิติบุคคล นิติบุคคล และพิจารณา optionality ภาวะเชิงการนับของผกผันของ R ด้วยกัน เราสามารถพูดได้ว่าเป็นกิจการที่เกี่ยวข้อง ( โดย 3 R ) ศูนย์หรือหนึ่งหน่วยงาน .