The purpose of this study was to ex

The purpose of this study was to examine the constructivist teaching practices and Philosophies of Thai teachers with four- to five-year-old students. The main related factors to be examined were (1) Thai teachers' beliefs about constructivist practices, (2) the factors (e.g., policy, environment, educational level of teachers, or culture) that encourage Thai teachers to incorporate constructivist practice or hinder them from doing so, (3) the current practices that affect children's constructivist learning environment, (4) the impact of the number of years of working experience and educational major on Thai teachers' perceptions of their constructivist practices.

The total sample of 10 kindergarten 2 (Anubal 2) teachers for this study was drawn from four- to five-year-olds' teachers who work in public schools in Mueang Chiang Mai District. The procedures used to gather data for this qualitative study were semi-structured interviews, classroom observations, and audio taping. Data were analyzed through reduction procedures, such as categorizations and pattern identifications.

Results of this study indicated that Thai teachers with four- to five-year-old students expressed beliefs that are associated with constructivist beliefs in learning. The thirteen obstacles that hinder these teachers from practicing their constructivist practices in their daily lessons were identified. Also, most participants' practices were relevant to what they believe, which could be categorized under constructivist practices to varying degrees. The results of this study also revealed that the number of years of working experience and educational major impacted Thai teachers' perceptions of their constructivist practices.

In conclusion, the findings of this study have implications for current educational practices in Thailand. First, the Thai early childhood education curriculum has been a good influence on teachers' beliefs and practices. Second, in-service training for teachers has been a contributing factor to teachers' beliefs and practices. Third, obstacles and supports have impacted Thai teachers' decisions whether or not to integrate constructivist practices. Fourth, the educational major of the incoming teachers should be taken in consideration when establishing hiring policy. Last, the numbers of children in the classroom ought to be taken in consideration in order to appropriate constructivist practice in early childhood education programs.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วัตถุประสงค์ของการศึกษานี้คือการ ตรวจสอบการปฏิบัติการสอนแบบสร้างสรรค์นิยมและปรัชญาของไทยครูกับนักเรียน 4 การห้าปี หลักการที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยการตรวจมีความเชื่อ (1) ไทยครูเกี่ยวกับแบบสร้างสรรค์นิยมปฏิบัติ, (2)ปัจจัย (เช่น นโยบาย สภาพแวดล้อม ระดับการศึกษาของครู หรือวัฒนธรรม) ที่ส่งเสริมให้ครูไทยรวมแบบสร้างสรรค์นิยมปฏิบัติ หรือขัดขวางพวกเขาจากการทำเช่นนั้น, (3) แนวทางปัจจุบันที่มีผลต่อผลกระทบของจำนวนปีของประสบการณ์การทำงานและวิชาที่ศึกษาเกี่ยวกับภาพลักษณ์ของครูไทยของปฏิบัติการแบบสร้างสรรค์นิยมแบบสร้างสรรค์นิยมเด็กที่เรียนสิ่งแวดล้อม, (4)

ตัวอย่างรวมของ 10 อนุบาล 2 (อนุบาล 2) ครูสำหรับการศึกษานี้มาจาก 4 ไป 5 ปี ' ครูที่ทำงานในโรงเรียนในอำเภอเมืองจังหวัดเชียงใหม่ ขั้นตอนที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูลสำหรับการศึกษาเชิงคุณภาพนี้มีโครงสร้างกึ่งสัมภาษณ์ สังเกตห้องเรียน และเทป เทปเสียง มีวิเคราะห์ข้อมูล โดยการลดขั้นตอน จัดประเภทและรูปแบบรหัส

ผลการศึกษานี้บ่งชี้ว่า ครูไทย มีนักเรียนสี่กับห้าปีแสดงความเชื่อที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อแบบสร้างสรรค์นิยมเรียนรู้ ระบุอุปสรรคสิบสามลักษณะที่ครูเหล่านี้ขัดขวางจากการฝึกปฏิบัติแบบสร้างสรรค์นิยมของพวกเขาในบทเรียนประจำวันของพวกเขา ยัง คนส่วนใหญ่ปฏิบัติได้เกี่ยวข้องอะไรก็เชื่อ ซึ่งสามารถแบ่งประเภทภายใต้ปฏิบัติการแบบสร้างสรรค์นิยมภา ผลการศึกษานี้ยังเปิดเผยว่า จำนวนปีของประสบการณ์การทำงาน และศึกษาหลักครูไทยคุดเข้าใจแนวทางปฏิบัติแบบสร้างสรรค์นิยมของพวกเขา

เบียดเบียน ผลการวิจัยของการศึกษานี้มีนัยสำหรับปฏิบัติศึกษาปัจจุบันในประเทศไทย ครั้งแรก หลักสูตรการศึกษาปฐมวัยไทยได้รับอิทธิพลความเชื่อและการปฏิบัติของครูดี รู้สอง ให้บริการแก่ครูผู้สอนได้รับปัจจัยสนับสนุนกับความเชื่อและการปฏิบัติของครู ที่สาม อุปสรรคและสนับสนุนมีผลกระทบต่อการตัดสินใจของครูไทยรวมแบบสร้างสรรค์นิยมปฏิบัติหรือไม่ สี่ วิชาศึกษาครูขาเข้าควรจะดำเนินในการพิจารณากำหนดนโยบายการจ้างงาน ล่าสุด จำนวนเด็กในห้องเรียนควรที่จะใช้ในการพิจารณาในลำดับแบบสร้างสรรค์นิยมที่เหมาะสมฝึกในหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วัตถุประสงค์ของการศึกษานี้คือการตรวจสอบการปฏิบัติสอนคอนสตรัคติและปรัชญาของครูผู้สอนภาษาไทยกับนักเรียนสี่ถึงห้าปี ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับหลักในการตรวจสอบได้ (1) ความเชื่อของครูผู้สอนไทยคอนสตรัคติเกี่ยวกับการปฏิบัติ (2) ปัจจัยที่มี (เช่นนโยบายสิ่งแวดล้อมระดับการศึกษาของครูหรือวัฒนธรรม) ที่สนับสนุนให้ครูผู้สอนภาษาไทยในการรวมการปฏิบัติคอนสตรัคติหรือขัดขวางพวกเขา จากการทำเช่นนั้น (3) การปฏิบัติในปัจจุบันที่มีผลต่อสภาพแวดล้อมในการเรียนรู้ของเด็กคอนสตรัคติ (4) ผลกระทบของจำนวนปีของประสบการณ์ในการทำงานที่สำคัญและการศึกษาเกี่ยวกับการรับรู้ครูผู้สอนภาษาไทย 'ของการปฏิบัติของพวกเขาคอนสตรัคติตัวอย่างรวม 10 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 (Anubal 2) ครูผู้สอนสำหรับการศึกษานี้ถูกดึงออกมาจากสี่กับครูห้าปี olds 'ที่ทำงานในโรงเรียนของรัฐในอำเภอเมืองเชียงใหม่ วิธีการที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูลสำหรับการศึกษาเชิงคุณภาพนี้มีการสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้างการสังเกตในชั้นเรียนและเทปเสียง วิเคราะห์ข้อมูลผ่านขั้นตอนการลดเช่นจัดประเภทและระบุรูปแบบผลการศึกษานี้ชี้ให้เห็นว่าครูผู้สอนภาษาไทยกับนักเรียนสี่ถึงห้าปีแสดงความเชื่อที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อในการเรียนรู้คอนสตรัคติ สิบสามอุปสรรคที่ขัดขวางครูเหล่านี้จากการฝึกปฏิบัติคอนสตรัคติของพวกเขาในการเรียนในชีวิตประจำวันของพวกเขาถูกระบุ นอกจากนี้ผู้เข้าร่วมการปฏิบัติมากที่สุดที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่พวกเขาเชื่อว่าที่สามารถจัดหมวดหมู่ภายใต้คอนสตรัคติการปฏิบัติที่แตกต่างองศา ผลที่ได้จากการศึกษาครั้งนี้ยังพบว่าจำนวนของปีมีประสบการณ์การทำงานและส่งผลกระทบต่อการรับรู้ครูผู้สอนไทยศึกษาที่สำคัญของการปฏิบัติของพวกเขาคอนสตรัคติสรุปผลของการศึกษาครั้งนี้มีความหมายสำหรับการปฏิบัติในปัจจุบันการศึกษาในประเทศไทย ก่อนที่หลักสูตรการศึกษาปฐมวัยไทยได้รับอิทธิพลที่ดีบนความเชื่อของครูและการปฏิบัติ ประการที่สองการฝึกอบรมในการให้บริการสำหรับครูผู้สอนได้รับปัจจัยที่เอื้อต่อความเชื่อของครูและการปฏิบัติ ประการที่สามอุปสรรคและสนับสนุนการมีผลกระทบการตัดสินใจของครูผู้สอนภาษาไทย 'ไม่ว่าจะเป็นหรือไม่ที่จะบูรณาการการปฏิบัติคอนสตรัคติ ประการที่สี่ที่สำคัญการศึกษาของครูที่เข้ามาควรจะต้องดำเนินการในการพิจารณาเมื่อการสร้างนโยบายการจ้างงาน ที่ผ่านมาตัวเลขของเด็กในการเรียนการสอนควรจะต้องดำเนินการในการพิจารณาในการสั่งซื้อที่เหมาะสมในการปฏิบัติคอนสตรัคติโปรแกรมการศึกษาปฐมวัย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการปฏิบัติการสอนตามแนวคิดและปรัชญาของครูกับนักเรียน สี่ - ห้าปี . หลักปัจจัยที่เกี่ยวข้องที่จะถูกตรวจสอบ ได้แก่ ( 1 ) ครูไทย ตามแนวคิด ความเชื่อเกี่ยวกับการปฏิบัติ ( 2 ) ปัจจัย ( เช่น นโยบายสิ่งแวดล้อม ระดับการศึกษาของครูหรือวัฒนธรรม ) ที่ส่งเสริมให้ครูไทย รวมตามแนวคิดการปฏิบัติหรือขัดขวางพวกเขาจากการทำเช่นนั้น ( 3 ) ปัจจุบันการปฏิบัติต่อเด็กตามแนวคิดการเรียนรู้สิ่งแวดล้อม ( 4 ) ผลกระทบของจำนวนปีของประสบการณ์ทำงานและการศึกษาที่สำคัญในการรับรู้ของครูไทย การปฏิบัติของตนเอง

ตัวอย่างทั้งหมด 10 ระดับอนุบาล 2 ( ครูโรงเรียนอนุบาล 2 ) เพื่อศึกษาการวาดจากสี่ถึงห้าปี ' ครูที่ทำงานในโรงเรียนของรัฐในอำเภอเมืองเชียงใหม่ . วิธีการที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลสำหรับการวิจัยเชิงคุณภาพนี้มีการสัมภาษณ์ การสังเกตการณ์ในชั้นเรียน และเสียงเทป . ข้อมูลที่ได้นำมาวิเคราะห์ผ่านกระบวนการลดเช่น การจัดประเภทและรูปแบบการแสดงตัวของ .

ผลการศึกษาพบว่า ครูภาษาไทย กับ สี่ - ห้าคนแสดงความเชื่อที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อตามแนวคิดในการเรียนรู้ สิบสามอุปสรรคที่ขัดขวางการปฏิบัติของครูเหล่านี้จากการฝึกตนเองในบทเรียนประจำวันของพวกเขาระบุ นอกจากนี้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมส่วนใหญ่มีการปฏิบัติที่สอดคล้องกับสิ่งที่พวกเขาเชื่อ ซึ่งอาจจะจัดภายใต้แนวคิดคอนสตรัคติการปฏิบัติเพื่อองศาที่แตกต่าง . ผลการศึกษายังพบว่า จำนวนปีของประสบการณ์ทำงานและการศึกษาผลกระทบที่สำคัญครูรับรู้ของการปฏิบัติของตนเอง

สรุปการศึกษานี้มีข้อเสนอแนะการปฏิบัติปัจจุบันการศึกษาในประเทศไทย ครั้งแรก โดยหลักสูตรการศึกษาปฐมวัยที่ได้รับอิทธิพลที่ดีกับความเชื่อของครูและการปฏิบัติ 2 การฝึกอบรมครูประจำการได้รับปัจจัยสนับสนุนความเชื่อของครูและการปฏิบัติ ประการที่สามอุปสรรคและสนับสนุนครูไทยได้รับผลกระทบในการตัดสินใจหรือไม่ที่จะรวมรูปแบบการสอนปฏิบัติ ประการที่สี่ ศึกษาหลักของครูที่เข้ามาควรจะนำมาพิจารณาเมื่อการจ้างนโยบาย ล่าสุดจำนวนเด็กในชั้นเรียน ควรที่จะนำมาพิจารณาเพื่อการปฏิบัติตามแนวคิดที่เหมาะสมในโปรแกรมการศึกษาปฐมวัย