In the absence of any other evidenc

In the absence of any other evidence, scholars have created an early history of Brunei that is mainly based on flexible interpretations of Chinese texts. This early part reads: Chinese records from the sixth century mention a state called P’o-li on the northwest coast of Borneo.[17] In the seventh century, Chinese and Arab accounts state a place called Vijayapura, which was thought to be founded by members of the royal family of Funan.[18] They were believed to have landed on the northwest coast of Borneo with some of their followers. They then captured P’o-li and renamed the territory 'Vijayapura' (meaning 'victory' in Sanskrit). In 977, Chinese records started to use Po-ni instead of Vijayapura to refer to Brunei.[19] In 1225 a Chinese official named Chua Ju-Kua reported that Brunei has 100 warships to protect its trade and that there was a lot of gold in the kingdom.[20] Another report in 1280 described Po-ni as controlling large parts of Borneo Island (modern day Sabah and Sarawak, Sulu and some parts of the Philippines).

In the fourteenth century, Po-ni became a vassal state of Majapahit, and had to pay an annual payment of 40 katis of camphor. Po-ni was attacked and looted of its treasure and gold by the Sulus in 1369. A fleet from Majapahit succeeded in driving away the Sulus but Po-ni became much weaker after the attack.[21] A Chinese report of 1371 described Po-ni as poor and totally controlled by Majapahit.[22] The power of the Sultanate of Brunei was at its peak between the 15th and 17th centuries, with its power extending from northern Borneo to the southern Philippines.[5] By the 16th century, Islam was firmly rooted in Brunei, and the country had built one of its biggest mosques. In 1578, Alonso Beltrán, a Spanish traveler described it as being five stories tall and built on the water.[23]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในกรณีที่ไม่มีหลักฐานอื่นใดที่นักวิชาการได้สร้างประวัติศาสตร์แรกของบรูไนที่เป็นไปตามหลักความยืดหยุ่นของการตีความตำราจีน นี้ส่วนต้นอ่าน: บันทึกจีนจากศตวรรษที่หกกล่าวถึงรัฐที่เรียกว่า P'o-li บนชายฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะบอร์เนียว [17] ในศตวรรษที่สิบเจ็ดบัญชีจีนและอาหรับระบุสถานที่ที่เรียกว่า vijayapura.ซึ่งคิดว่าจะได้รับการก่อตั้งโดยสมาชิกของพระราชวงศ์ฟูนัน. [18] พวกเขาเชื่อว่าจะได้ที่ดินบนชายฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะบอร์เนียวกับบางส่วนของผู้ติดตามของพวกเขา พวกเขาจับแล้ว P'o-li และเปลี่ยนชื่อเป็นดินแดน 'vijayapura' ('ชัยชนะ' ความหมายในภาษาสันสกฤต) 977 บันทึกจีนเริ่มใช้ PO-Ni แทน vijayapura ถึงบรูไน[19] ใน 1225 อย่างเป็นทางการจีนชื่อ Chua จูกัวรายงานว่าบรูไนมี 100 เรือรบเพื่อปกป้องการค้าและว่ามีมากทองในราชอาณาจักร. [20] อีกรายงานใน 1280 อธิบาย PO-Ni การควบคุมส่วนใหญ่ ของเกาะบอร์เนียว (ปัจจุบันวันซาบาห์และซาราวักซูลูและบางส่วนของฟิลิปปินส์).

ในศตวรรษที่สิบสี่, PO-Ni กลายเป็นรัฐข้าราชบริพารของฮิต,และมีการจ่ายชำระเงินประจำปีของ 40 katis ของการบูร PO-Ni ถูกทำร้ายและปล้นสมบัติและทองโดย Sulus ใน 1369 กองทัพเรือจาก Majapahit ประสบความสำเร็จในการผลักดันออกไป Sulus แต่ PO-Ni กลายเป็นอ่อนแอลงมากหลังจากการโจมตี. [21] รายงานของจีน 1371 อธิบาย PO-Ni ยากจนและควบคุมโดยสิ้นเชิงฮิต[22] อำนาจของสุลต่านแห่งบรูไนเป็นที่จุดสูงสุดของระหว่างศตวรรษที่ 15 และ 17 ด้วยพลังของมันยื่นออกมาจากทางตอนเหนือของเกาะบอร์เนียวที่ฟิลิปปินส์ Southern. [5] โดยศตวรรษที่ 16, ศาสนาอิสลามเป็นที่ฝังรากหยั่งลึกในบรูไนและ ประเทศได้สร้างหนึ่งในมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดของ ใน 1578, อลอนโซ่Beltrán, สเปนที่อธิบายว่ามันเป็นห้าชั้นสูงและสร้างอยู่บนน้ำ. [23]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในกรณีหลักฐานอื่น ๆ นักวิชาการได้สร้างประวัติศาสตร์เป็นยุคแรกของบรูไนที่ส่วนใหญ่ใช้ตีความยืดหยุ่นของข้อความภาษาจีน ช่วงแรก ๆ นี้อ่าน: ระเบียนจีนจากศตวรรษหกพูดถึงสิ่งที่เรียกว่าลี่ P'o บนชายฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะบอร์เนียว[17] ในศตวรรษที่เจ็ด บัญชีจีนและอาหรับรัฐเรียกว่า Vijayapura ซึ่งไม่คิดว่า จะถูกก่อตั้งขึ้น โดยสมาชิกของพระราชวงศ์ของฟูนาน[18] เขาถูกเชื่อว่าจะมีที่ดินบนตะวันตกเฉียงเหนือชายฝั่งเล็ก ๆ กับบางส่วนของผู้ติดตามของพวกเขา พวกเขาแล้วจับ P'o li และเปลี่ยนดินแดน 'Vijayapura' (ความหมาย 'ชัย' ในภาษาสันสกฤต) ใน 977 ระเบียนจีนเริ่มใช้ ni ปอแทน Vijayapura ถึงบรูไน[19] ใน 1225 ทางจีนที่ชื่อว่า Chua จูคัวรายงานว่า บรูไนมีเรือรบ 100 เพื่อปกป้องการค้า และที่ มีมากของทองในราชอาณาจักร[20] รายงานอีกใน 1280 อธิบาย ni ปอเป็นการควบคุมส่วนใหญ่ของเกาะบอร์เนียว (สมัยซาบาห์ และซาราวัค ซูลู และบางส่วนของฟิลิปปินส์)

ในศตวรรษจวน ni ปอกลายเป็น รัฐ vassal ของ Majapahit และมีการชำระการชำระเงินประจำปีของ katis 40 ของการบูร Po-ni ถูกโจมตี และ looted สมบัติและทอง โดย Sulus ที่ใน 1369 กองเรือรบจาก Majapahit ประสบความสำเร็จในการขับรถไป Sulus แต่ Po-ni เป็นแกร่งมากหลังจากการโจมตี[21] จีนรายงาน 1371 อธิบาย ni ปอฐานะยากจน และทั้งหมดถูกควบคุม โดย Majapahit[22] อำนาจของสุลต่านบรูไนอยู่ในจุดสูงสุดของระหว่าง 15 และ 17 ศตวรรษ มีของกำลังขยายจากบอร์เนียวเหนือกับตอนใต้ของฟิลิปปินส์[5] โดยศตวรรษ 16 อิสลามมีรากอย่างมั่นคงในประเทศบรูไน และประเทศได้สร้างสุเหร่าใหญ่ที่สุดอย่างใดอย่างหนึ่ง ใน 1578, Alonso Beltrán นักท่องเที่ยวสเปนอธิบายมันเป็น ห้าชั้นสูง และสร้างขึ้นบนน้ำ[23]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

จากการที่ไม่มีหลักฐานอื่นๆที่บรรดานักวิชาการได้สร้างประวัติศาสตร์ช่วงต้นของบรูไนที่อยู่บนพื้นฐานที่มีความยืดหยุ่นของการตีความจากตำราจีนเป็นหลัก ช่วงนี้สามารถอ่านบันทึกจีนจากช่วงศตวรรษที่หกกล่าวถึงรัฐเรียกว่า P ' o - LI ที่อยู่บนชายฝั่งด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือของบอร์เนียว.[ 17 ]ในศตวรรษที่เจ็ดบัญชีชาวจีนและชาวอาหรับรัฐที่เรียกว่า vijayapuraซึ่งเป็นความคิดในการก่อตั้งขึ้นโดยมีสมาชิกของตระกูลราชวงศ์ของ Funan Shopping Centre ซึ่งเป็น.[ 18 ]ก็เชื่อว่าจะได้ลงจอดบนชายฝั่งด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือของบอร์เนียวกับผู้ติดตามของเขาบางอย่าง จากนั้นก็จับ P ' o - Li และเปลี่ยนชื่ออาณาเขต' vijayapura '(ความหมาย'ชัยชนะใน ภาษาสันสกฤต ) จีน: 977 บันทึกข้อมูลในการใช้ใบสั่งซื้อ - NI แทน vijayapura ในการดูบรูไน[ 19 ]ใน 1225 ที่จีนอย่างเป็นทางการตั้งชื่อชัว ju-kua รายงานว่าบรูไนดารุสซาลามมี 100 เรือรบในการป้องกันของทางการค้าและที่มีเป็นจำนวนมากของสีทองในราชอาณาจักร.[ 20 ]อื่นรายงานใน 1280 ที่อธิบายใบสั่งซื้อ - NI เป็นการควบคุมขนาดใหญ่ส่วนพื้นที่ของเกาะบอร์เนียว(วันที่ทันสมัยซาบาห์และซาราวัก,ทะเลซูลูและบางส่วนของฟิลิปปินส์).

ในศตวรรษที่สิบสี่,ปอ - NI กลายเป็นทาสของรัฐของ Majapahit ,และต้องจ่ายเงินการชำระเงินประจำปี 40 ของการบูร katis . หมายเลขใบสั่งซื้อ - NI ถูกทำร้ายร่างกายและปล้นสะดมของสีทองและสมบัติของตนโดย sulus ใน 1369 Fleet ที่จากโรงแรม Majapahit ประสบความสำเร็จในการผลักดัน sulus อยู่ห่างออกไปในระยะทางที่แต่ใบสั่งซื้อ - NI กลายเป็นอ่อนตัวลงมากหลังจากการโจมตี.[ 21 ]รายงานจีนที่ 1371 ตามที่อธิบายไว้ในใบสั่งซื้อ - NI ยากจนและถูกควบคุมโดย Majapahit[ 22 ]กำลังไฟของรัฐสุลต่านแห่งประเทศบรูไนอยู่ที่ระดับสูงสุดระหว่างช่วงศตวรรษที่ 15 และ 17 ที่มีอำนาจของการขยายจากบอร์เนียวทางตอนเหนือใน ภาค ใต้ฟิลิปปินส์.[ 5 ]โดยช่วงศตวรรษที่ 16 ซึ่งมีรากเหง้าเป็นอิสลามในบรูไนให้แน่นและประเทศที่ได้สร้างขึ้นมาหนึ่งในมัสยิดที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ใน 1578 Alonso beltrán นักเดินทางตามแบบสเปนที่ระบุไว้เป็นห้าชั้นสูงและสร้างขึ้นบนผืนน้ำที่.[ 23 ]