ลมเป็นพลงังานหมุนเวยีนอีกแหล่งหน่ึงที่น่าสนใจเนื่องจากวา่ มีศกัยภาพเพียงพอที่จะใชเ้ป็นแหล่ง
พลังงานของมนุษย์ในอนาคตได้การวจิยัและพฒั นาเทคโนโลยกีงัหนัลมผลิตไฟฟ้าน้นัถึงแมว้า่ จะผา่ นไป
กวา่ 100 ปี แล้วแต่การที่จะใหเ้ทคโนโลยนี้ีสามารถเขา้มาทดแทนเทคโนโลยกีารผลิตไฟฟ้าอื่นๆ ที่ใชก้ นัอยู่
ในปัจจุบนั ท้งัหมดคงเป็นไปไม่ได้เพราะในอนาคตรูปแบบการใชพ้ลงังานจะหลากหลายมากข้ึน การใช้
พลงังานจากเช้ือเพลิงฟอสซิลจะลดลงเนื่องจากส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สัดส่วนการใชพ้ลงังานจาก
แหล่งพลงังานหมุนเวยีนอาทิพลังงานแสงอาทิตย์พลังงานน้า พลังงานชีวมวล หรือแมแ้ต่พลงังานลมจะ
สูงข้ึน สา หรับประเทศไทยน้นั ยงัมีความรู้เกี่ยวกบั เทคโนโลยพีลงังานลมนอ้ยมากจา เป็นอยา่ งยงิ่ ที่เราจะตอ้ง
หันมาให้ความสนใจในเทคโนโลยีพลังงานลม ถึงแมว้า่ จะมีศกัยภาพไม่สูงนกัหากเปรียบเทียบกบั ใน
ต่างประเทศแต่ก็สามารถนา มาใชใ้นการผลิตกระแสไฟฟ้าในขนาดพิกดัระดบักิโลวตัตไ์ด้หากเราเริ่มวจิยั
และ พฒั นาต้งัแต่วนั น้ีในอนาคตประเทศเราจะไดม้ีเทคโนโลยดีา้นพลงังานลมเป็นของตวัเอง ไม่ตอ้งพ่ึงพา
จากต่างประเทศท้งัหมดเหมือนเช่นเทคโนโลยอีื่นๆ อยา่ งในปัจจุบน