Society's dependence on non-renewab

Society's dependence on non-renewable energy sources and its
impact on the planet's climate is a threat to global biodiversity and
ultimately the quality of all life. Leading climate scientists have
pointed to this danger (Climate change is real, 2011) and called on
politicians to take action (Brown, 2011). However, the demand for
energy continues to grow (IEA, 2010), leading to the need for a
reassessment of how energy saving is addressed at a policy level
(Perrels et al., 2006).
The scientific literature is rich in research on energy, energy
consumption and energy conservation, to the point where it is
difficult to locate scientific consensus. What adds to the complexity
is that research has been conducted across a broad variety of
disciplines (Stephenson et al., 2010), with many models being used
to explain consumers’ behaviour (see Kollmuss and Agyeman
(2002) and Jackson (2005) for discussions).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ของสังคมพึ่งพาแหล่งพลังงานหมุนเวียนและผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศของโลกจะเป็นภัยคุกคามต่อความหลากหลายทางชีวภาพสากล และในที่สุดคุณภาพของชีวิตทั้งหมด มีนักวิทยาศาสตร์ภูมิอากาศชั้นนำชี้ไปยังอันตรายนี้ (การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นจริง 2011) และเรียกนักการเมืองต้องดำเนินการ (สีน้ำตาล 2011) อย่างไรก็ตาม ความต้องการพลังงานที่กำลังเติบโต (IEA, 2010), นำไปสู่ความต้องการป็แก้ไขได้วิธีประหยัดพลังงานในระดับนโยบาย(Perrels et al. 2006)วรรณกรรมทางวิทยาศาสตร์มีงานวิจัยเกี่ยวกับพลังงาน พลังงานปริมาณการใช้วัสดุและพลังงานการอนุรักษ์ ไปยังจุดยากที่จะหาฉันทามติทางวิทยาศาสตร์ สิ่งที่เพิ่มความซับซ้อนคือ ว่า มีการดำเนินงานวิจัยในหลากหลายสาขาวิชา (สตีเฟนสันและ al. 2010), มีหลายรุ่นมีการใช้อธิบายพฤติกรรมของผู้บริโภค (ดู Kollmuss และ Agyeman(2002) และแจ็คสัน (2005) สำหรับการสนทนา)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การพึ่งพาอาศัยกันของสังคมในแหล่งพลังงานที่ไม่หมุนเวียนและ
ผลกระทบกับสภาพภูมิอากาศของโลกเป็นภัยคุกคามต่อความหลากหลายทางชีวภาพทั่วโลกและ
ในท้ายที่สุดที่มีคุณภาพของทุกชีวิต นักวิทยาศาสตร์ภูมิอากาศชั้นนำได้
ชี้ไปที่อันตรายนี้ (เปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เป็นจริง 2011) และเรียกร้องให้
นักการเมืองที่จะใช้ดำเนินการ (บราวน์ 2011) อย่างไรก็ตามความต้องการ
พลังงานยังคงเติบโต (IEA 2010) ที่นำไปสู่ความจำเป็นในการที่
ประเมินของวิธีการประหยัดพลังงานเป็น addressed ในระดับนโยบาย
(Perrels et al., 2006).
วรรณกรรมทางวิทยาศาสตร์ที่อุดมไปด้วยในการวิจัยเกี่ยวกับพลังงาน พลังงาน
การบริโภคและการอนุรักษ์พลังงานไปยังจุดที่มันเป็น
เรื่องยากที่จะหาฉันทามติทางวิทยาศาสตร์ สิ่งที่เพิ่มความซับซ้อน
คือว่าการวิจัยได้รับการดำเนินการในหลากหลายในวงกว้างของ
สาขาวิชา (สตีเฟนสัน et al., 2010) มีหลายรุ่นถูกนำมาใช้
เพื่ออธิบายพฤติกรรมของผู้บริโภค (ดู Kollmuss และ Agyeman
(2002) และแจ็คสัน (2005) สำหรับ การอภิปราย)