The relationship of theory and prac

The relationship of theory and practice: a position on theory and practice is directed by a meta-theoretical and theoretical framework; and the way one conceives of the relationship of theory and practice has important consequences for how one views the purposes of IR theorizing itself.
- Wallace argued that for some the purpose of social inquiry is togain adequate knowledge of social reality to ground and direct policy-making. In the traditionally dominant perspectives of realism and liberalism, along with their neo-variants, tend to lean towards Wallace’s point of view.
- Booth and Smith, and alongside them many critical theorists, argue that theory can in itself be a form of practice according to many of the newer perspectives, especially feminism, post- structuralism, and postcolonialism, tend to put an emphasis on the role of theorizing itself as a form of world political practice.
- Wallace and others, Booth and Smith argue, make too much of a separation between theory and practice: they assume that theory is not practice and that ‘practice’ entails ‘foreign policy- making’ devoid of theoretical groundings.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ความสัมพันธ์ของทฤษฎีและปฏิบัติ: งานในทฤษฎีและการปฏิบัติตามกรอบทฤษฎี และทฤษฎี meta- นำ และวิธีการที่หนึ่งตั้งครรภ์ความสัมพันธ์ของทฤษฎี และปฏิบัติมีผลกระทบสำคัญสำหรับมุมมองวิธีการหนึ่งของ IR เก่าตัวเอง -Wallace โต้เถียงว่า สำหรับบาง วัตถุประสงค์ของคำถามที่สังคมเป็นความรู้ togain ของสังคมภาคพื้นดินและตรงเผย ในมุมมองหลักดั้งเดิมของจริงและเสรี พร้อมกับตัวแปรนีโอของพวกเขา มักจะ เอนไปทางมุมมองของวอลเลซ -บูธและสมิธ และควบคู่ไปกับพวกเขานักทฤษฎีสำคัญหลาย โต้แย้งว่า ทฤษฎีสามารถในตัวเองอยู่ในรูปแบบของการปฏิบัติตามหลายมุมมองใหม่ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งสตรี หลัง structuralism, postcolonialism มักจะ ใส่เน้นบทบาทของตัวเองเป็นรูปแบบของการปฏิบัติทางการเมืองโลกไกลโพ้น -Wallace และอื่น ๆ บูธและสมิธทะเลาะกัน ทำให้มากเกินไปของการแยกระหว่างทฤษฎีและปฏิบัติ: พวกเขาคิดว่า ทฤษฎีไม่ปฏิบัติ และว่า 'ปฏิบัติ' เกิด 'นโยบายต่างประเทศทำ' ไร้ทฤษฎี groundings

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความสัมพันธ์ของทฤษฎีและการปฏิบัติ: ตำแหน่งในทฤษฎีและการปฏิบัติกำกับโดยกรอบ meta-ทฤษฎีและทฤษฎี และหนึ่งในวิธีการตั้งครรภ์ของความสัมพันธ์ของทฤษฎีและการปฏิบัติมีผลกระทบที่สำคัญสำหรับวิธีการหนึ่งมุมมองวัตถุประสงค์ของทฤษฎี IR เอง.
- วอลเลซถกเถียงกันอยู่ว่าบางจุดประสงค์ของการสอบสวนทางสังคมคือ togain ความรู้เพียงพอของความเป็นจริงทางสังคมเพื่อ Ground และนโยบายโดยตรง การทำ ในมุมมองที่โดดเด่นแบบดั้งเดิมของความสมจริงและเสรีนิยมพร้อมกับสายพันธุ์นีโอของพวกเขามีแนวโน้มที่จะยันต่อจุดวอลเลซในมุมมองของ.
- บูธและสมิ ธ และพร้อมกับพวกเขาทฤษฎีที่สำคัญหลายคนยืนยันว่าทฤษฎีสามารถในตัวเองจะเป็นรูปแบบของการปฏิบัติการตาม หลายมุมมองใหม่โดยเฉพาะอย่างยิ่งสตรีโครงสร้างการโพสต์และ postcolonialism มีแนวโน้มที่จะให้ความสำคัญกับบทบาทของตัวเองทฤษฎีเป็นรูปแบบของการปฏิบัติทางการเมืองโลกได้.
- วอลเลซและคนอื่น ๆ ที่บูธสมิ ธ และยืนยันให้มากเกินไป แยกระหว่างทฤษฎีและการปฏิบัติ: พวกเขาคิดว่าทฤษฎีไม่ได้ปฏิบัติและว่า 'ปฏิบัติ' รายละเอียด 'นโยบายต่างประเทศทำให้' ไร้ groundings ทฤษฎี

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ความสัมพันธ์ระหว่างทฤษฎีและการปฏิบัติ : ตำแหน่งในทางทฤษฎีและปฏิบัติ คือ กำกับโดย อภิทฤษฎีและกรอบทฤษฎี และวิธีหนึ่งที่ conceives ของความสัมพันธ์ของทฤษฎีและปฏิบัติได้ผลที่สำคัญวิธีหนึ่งมุมมองที่วัตถุประสงค์ของ IR ทฤษฎีนี้เอง- วอลเลซแย้งว่าสำหรับวัตถุประสงค์ของการวิจัยทางสังคมเป็น togain เพียงพอความรู้ความจริงทางสังคมกับพื้นดินและกำหนดนโยบายโดยตรง ในมุมมองแบบดั้งเดิมเด่นของสัจนิยมและเสรีนิยม กับตัวแปร Neo ของพวกเขามีแนวโน้มที่จะยันต่อวอลเลซเป็นจุดของมุมมอง- บูธ และ สมิธ และ ควบคู่ไปกับพวกเขา นักทฤษฎีวิพากษ์ หลายคนยืนยันว่าทฤษฎีสามารถในตัวเองเป็นรูปแบบของการปฏิบัติตามหลายมุมมอง ใหม่ โดยเฉพาะสตรี โพสต์ - โครงสร้างนิยมและ Postcolonialism มีแนวโน้มที่จะ ใส่ เน้นบทบาทของทฤษฎีนี้เอง ที่เป็นรูปแบบของการเมือง การปฏิบัติ- วอลเลซและผู้อื่น บูธ และ สมิธ เถียงให้มากเกินไปของการแยกระหว่างทฤษฎีและการปฏิบัติ : สมมติว่า ทฤษฎี ก็ไม่ฝึก และ " การปฏิบัติ " ใช้ " นโยบายต่างประเทศ - ทำให้ไร้ทฤษฎี groundings .