บทความเรื่อง Society, state and gov

บทความเรื่อง Society, state and government ผู้เขียนคือ Prof. Dr. Likhit Dhiravegin ในบทความนี้ผู้เขียนกล่าวว่า มนุษย์ก็ไม่ต่างจากสัตว์สักเท่าไหรในด้านการเอาชีวิตรอด การเอาชีวิตรอดของมนุษย์นั้นคือการรวมตัวกันอยู่เป็นสังคมเพื่อรักษาชีวิตและทรัพย์สมบัตืของตน แน่นอนการอยู่รวมกันเป็นสังคมย่อมเกิดความขัดแย้งเนื่องจากความเห็นแก่ตัวของมนุษย์ และกฎหมายและก็ระเบียบสังคมตือสิ่งที่เป็นตัวควบคุมสังคมนั้นๆ แต่ในแต่ละสังคมก็มีความมแต่ต่างกันไปขึ้นอยู่กับรูปแบบของรัฐบาลที่ปกครองอยู่ ไม่ว่าจะเป็นคอมมิวนิสต์หรือประชาธิปไตย การสร้างความชอบธรรมให้รัฐบาลนั้นมีอยู่ 4ประการ หนึ่งการปกครองในอำนาจบนพื้นฐานของความกลัวโดยใช้อำนาจมาข่มขู่หรือบีบบังคับ สอง คือ การทำให้รัฐบาลเป็นแบบสืบทอดมาหรือเรียกว่า ระบบอุปถัมภ์ และสร้างความเชื่อให้ประชาชนว่าผู้ปกครองคือเทวะราชา เช่น ประเทศจีนและในประเทศแถบยุโรป สาม คือ การใช้อำนาจตามความเชี่ยวชาญของตน และยังมีการใช้อำนาจตามกฎหมายเป็นการใช้อำนาจแบบอธิปไตยนิยม สี่ คือ การที่ผู้นำใช้ความสามารถพิเศษในการปกครอง นั้นคือการใช้อำนาจบารมีที่ตนเคยสร้างและทำประโยชน์ให้กับรัฐและประชาชนให้อำนาจเข้ามาปกครอง เช่นคานธี ความชอบธรรมของรัฐบาลในการใช้อำนาจในทางที่ประชาชนยอมรับและเป็นที่ต้องการของประชาชนนัน้เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่สามารถมองข้ามได้หากมองข้ามด้านนี้อาจทำให้รัฐที่ขาดความชอบธรรมทางการเมืองเกิดความขัดแย้งภายในรัฐ

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บทความเรื่องสังคม รัฐและรัฐบาลผู้เขียนคือศาสตราจารย์ดร.การบริหาร Dhiravegin ในบทความนี้ผู้เขียนกล่าวว่ามนุษย์ก็ไม่ต่างจากสัตว์สักเท่าไหรในด้านการเอาชีวิตรอดการเอาชีวิตรอดของมนุษย์นั้นคือการรวมตัวกันอยู่เป็นสังคมเพื่อรักษาชีวิตและทรัพย์สมบัตืของตนแน่นอนการอยู่รวมกันเป็นสังคมย่อมเกิดความขัดแย้งเนื่องจากความเห็นแก่ตัวของมนุษย์และกฎหมายและก็ระเบียบสังคมตือสิ่งที่เป็นตัวควบคุมสังคมนั้น ๆ แต่ในแต่ละสังคมก็มีความมแต่ต่างกันไปขึ้นอยู่กับรูปแบบของรัฐบาลที่ปกครองอยู่ไม่ว่าจะเป็นคอมมิวนิสต์หรือประชาธิปไตยการสร้างความชอบธรรมให้รัฐบาลนั้นมีอยู่ 4ประการ หนึ่งการปกครองในอำนาจบนพื้นฐานของความกลัวโดยใช้อำนาจมาข่มขู่หรือบีบบังคับสองคือการทำให้รัฐบาลเป็นแบบสืบทอดมาหรือเรียกว่าระบบอุปถัมภ์และสร้างความเชื่อให้ประชาชนว่าผู้ปกครองคือเทวะราชาเช่นประเทศจีนและในประเทศแถบยุโรปสามคือการใช้อำนาจตามความเชี่ยวชาญของตนและยังมีการใช้อำนาจตามกฎหมายเป็นการใช้อำนาจแบบอธิปไตยนิยมสี่คือการที่ผู้นำใช้ความสามารถพิเศษในการปกครองนั้นคือการใช้อำนาจบารมีที่ตนเคยสร้างและทำประโยชน์ให้กับรัฐและประชาชนให้อำนาจเข้ามาปกครองเช่นคานธีความชอบธรรมของรัฐบาลในการใช้อำนาจในทางที่ประชาชนยอมรับและเป็นที่ต้องการของประชาชนนัน้เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่สามารถมองข้ามได้หากมองข้ามด้านนี้อาจทำให้รัฐที่ขาดความชอบธรรมทางการเมืองเกิดความขัดแย้งภายในรัฐ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทความเรื่องสังคมของรัฐและรัฐบาลผู้เขียนคือศ. ดร. ลิขิต Dhiravegin ในบทความนี้ผู้เขียนกล่าวว่า 4 ประการ สองคือ ระบบอุปถัมภ์ เช่นประเทศจีนและในประเทศแถบยุโรปสามคือการใช้อำนาจตามความเชี่ยวชาญของตน สี่คือ เช่นคานธี

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บทความเรื่องสังคม รัฐ และรัฐบาลผู้เขียนคือ ศาสตราจารย์ ดร. ลิขิต dhiravegin ในบทความนี้ผู้เขียนกล่าวว่ามนุษย์ก็ไม่ต่างจากสัตว์สักเท่าไหรในด้านการเอาชีวิตรอดการเอาชีวิตรอดของมนุษย์นั้นคือการรวมตัวกันอยู่เป็นสังคมเพื่อรักษาชีวิตและทรัพย์สมบัตืของตนแน่นอนการอยู่รวมกันเป็นสังคมย่อมเกิ ดความขัดแย้งเนื่องจากความเห็นแก่ตัวของมนุษย์และกฎหมายและก็ระเบียบสังคมตือสิ่งที่เป็นตัวควบคุมสังคมนั้นๆแต่ในแต่ละสังคมก็มีความมแต่ต่างกันไปขึ้นอยู่กับรูปแบบของรัฐบาลที่ปกครองอยู่ไม่ว่าจะเป็นคอมมิวนิสต์หรือประชาธิปไตยการสร้างความชอบธรรมให้รัฐบาลนั้น มีอยู่ 4 ประการหนึ่งการปกครองในอำนาจบนพื้นฐานของความกลัวโดยใช้อำนาจมาข่มขู่หรือบีบบังคับสองความการทำให้รัฐบาลเป็นแบบสืบทอดมาหรือเรียกว่าระบบอุปถัมภ์และสร้างความเชื่อให้ประชาชนว่าผู้ปกครองคือเทวะราชาเช่นประเทศจีนและในประเทศแถบยุโรปสามความการใช้อำนาจตา มความเชี่ยวชาญของตนและยังมีการใช้อำนาจตามกฎหมายเป็นการใช้อำนาจแบบอธิปไตยนิยมสี่ความการที่ผู้นำใช้ความสามารถพิเศษในการปกครองนั้นคือการใช้อำนาจบารมีที่ตนเคยสร้างและทำประโยชน์ให้กับรัฐและประชาชนให้อำนาจเข้ามาปกครองเช่นคานธีความชอบธรรมของรัฐบาลในการใช้ อำนาจในทางที่ประชาชนยอมรับและเป็นที่ต้องการของประชาชนนัน้เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่สามารถมองข้ามได้หากมองข้ามด้านนี้อาจทำให้รัฐที่ขาดความชอบธรรมทางการเมืองเกิดความขัดแย้งภายในรัฐ