Mathews became a popular scientist

Mathews became a popular scientist when he proved that
a piece of toast doesn't necessarily fall on the floor on the
buttered side. BBC Television gathered 300 people to throw
pieces of buttered toast up in the air and observe on which side
they fell. Half fell on the buttered side, and half didn't.
Now here's tricky question for Mathews. It's known fact that cats
always fall on their four legs. What
happens if you tie a piece of buttered
toast on a cat's back and drop them
from a balcony? Will the cat land on
all fours, or will the toast land on the
buttered side? I sincerely hope the
BBC doesn't try this experiment.

Just remember that you cannot blame Murphy's Law for
everything that goes wrong. If the hot water runs out while
you're having a shower, it's probably because the hot water
heater needs to be fixed. If your car breaks down on the way
to a job interview, it's probably because you didn't have the
vehicle serviced or repaired. And if you lose all your files on
the computer, it's not bad luck-it's your fault for not doing a backup of your files.

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แมทธิวเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ได้รับความนิยมเมื่อเขาพิสูจน์ให้เห็นว่า
ชิ้นขนมปังปิ้ง ไม่จําเป็นต้องตกบนพื้น บน
เนยด้านข้าง โทรทัศน์บีบีซีรวม 300 คนโยน
ชิ้นของขนมปังทาเนยขึ้นในอากาศ และสังเกตที่ข้าง
พวกเขาตกลงมา ครึ่งล้มลงบนขนมปัง ส่วนครึ่งไม่ได้
ตอนนี้เจ้าเล่ห์ถาม แมทธิวส์ มันก็จริงที่รู้จักกันว่าแมว
มักจะตกอยู่ในทั้งสี่ขาอะไรเกิดขึ้นถ้าคุณเสมอ

ขนมปังปิ้งทาเนยเป็นชิ้นเป็นแมวกลับมา และปล่อยพวกเขา
จากระเบียง ? จะแมวที่ดิน
Fours ทั้งหมด หรือจะฉลองที่ดิน
ด้านเนย ? ผมหวังอย่างจริงใจ
บีบีซีไม่ได้ลอง การทดลองนี้

จำได้ว่า คุณไม่สามารถโทษกฎของเมอร์ฟีสำหรับ
ทุกอย่างผิดพลาด ถ้าน้ำหมดในขณะที่
เธออาบน้ำอาจเป็นเพราะความต้องการเครื่องทำน้ำอุ่น
ร้อน ต้องซ่อม ถ้ารถของคุณหยุดพักลงระหว่างทาง
เพื่อสัมภาษณ์งาน มันอาจเป็นเพราะคุณไม่ได้มี
ยานพาหนะหรือซ่อมแซม และถ้าคุณสูญเสียไฟล์ทั้งหมดของคุณ
คอมพิวเตอร์มันไม่โชคร้ายมันเป็นความผิดของคุณไม่ทำสำรองไฟล์ของคุณ